Who Is Your Team’s Software Architect?

เมื่อผลงานทีมเดฟออกมาไม่ดีอย่างที่คาดหวัง เมื่อการเปลี่ยนโปรแกรมเมอร์ไม่ใช่ทางเลือกแรก … แล้วไง?

เราเริ่มต้นการถมหลุมดำด้วยการเพิ่มประสบการณ์เข้าไปในทีม … ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ โปรแกรมเมอร์โดยทั่วไปแล้วทำงานได้เป็นชิ้นๆตามสั่ง อยากได้หน้าจอใหม่ อยากได้รายงานใหม่ อยากได้ระบบค้นหา อยากได้การเชื่อมต่อกลับไปที่ระบบอีอาร์พีหลัก อยากได้จุดจุดจุด

ภาพเล็ก งานสโคปเล็กและชัดเจน โปรแกรมเมอร์ส่วนใหญ่ทำได้ โค๊ดได้ ส่งมอบได้ แต่อย่าถามถึงภาพรวม อย่าถามถึงผลกระทบ อย่าถามถึงข้อดีข้อเสีย อย่าให้คิดถึงอนาคตไกลๆ และอย่าให้งานชิ้นใหญ่ที่รายละเอียดไม่ชัดเจน … จบ

ซอฟต์แวร์อาคิเทคจึงสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ (และผมเชื่อว่าสำคัญกับทุกสถานการณ์ ทุกทีม ทุกบริษัทที่ทำธุรกิจหลักบนซอฟต์แวร์)

1. คนที่รีวิวและออกแบบระบบในภาพรวมได้ในปัจจุบันและอนาคต
2. คนที่เชื่อมโยงความต้องการทางธุรกิจกับแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้
3. คนที่มีประสบการณ์พอจะตัดสินใจเลือกใช้หรือไม่ใช้เทคโนโลยีใดๆได้
4. คนที่เขียนโค๊ดและเทสระบบเป็น … และยังทำอยู่เป็นกิจวัตรประจำวัน
5. คนที่รอบรู้และเข้าใจกระบวนการและหลักการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดี

เหลียวซ้ายแลขวา ซอฟต์แวร์อาคิเทคของทีมเราคือใคร? ผมไม่ได้หมายถึงตำแหน่ง ผมหมายถึงคนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวครับ … มีมั้ย? เค้าเก่งมั้ย? เค้ามีเวลาให้เรามากแค่ไหน?

จริงอยู่ที่ผลลัพธ์แย่ๆของทีมเดฟไม่ได้มาจากการขาดซอฟต์แวร์อาคิเทคเสมอไป แต่เท่าที่ผมเห็นผ่านมา การไม่มีกรอบที่ชัดเจนรวมถึงการไม่มีผู้นำที่มีประสบการณ์ทำให้โปรแกรมเมอร์ผลิตงานที่มีคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ความคาดหวัง

ถ้าอยากพัฒนาผลงานให้ดีขึ้น ผมจะเลือกพิจารณามองหาซอฟต์แวร์อาคิเทคเก่งๆเป็นคนแรก การมีเค้าอยู่ในทีม การให้อิสระในการทำงานกับเค้า มันจะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงให้ทีมให้องค์กรได้ … ได้มากกว่าการเลือกเพิ่มโปรแกรมเมอร์คนใหม่เข้าไป … ได้มากกว่าการจ้างผู้จัดการมาคอยควบคุมเด็กๆให้ทำงาน (นั่นเป็นการลงทุนที่เสียเปล่าในสถานการณ์แบบนี้ครับ)

คิดและเขียนคือสิ่งที่ผมชอบ แบ่งปันคือสิ่งที่ผมรัก เพราะแบบนี้ทุกวันผมเขียนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง จากประสบการณ์ จากแนวคิด จากอนาคตที่ดีผมมองเห็น และทุกอย่างที่ผมประยุกต์ใช้เพื่อสร้างให้อินเท็นติกเป็นบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่สร้างความแตกต่างในสังคมได้ — มันน่าภูมิใจที่ผมรู้ว่า … ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวที่อยากเห็นการพัฒนา :)

Inthentic On Facebook | Inthentic On Twitter | Inthentic On Instagram