Forex Trading Hours and Sessions: เจาะลึกศักยภาพของตลาด Forex
เทรด Forex เวลาไหนถึงจะดีที่สุด ?
ทำไมช่วงเย็น — กลางคืน สกุลเงิน GBP, USD ถึงเคลื่อนไหวได้ดี ?
ถ้ามีเวลาเทรดเฉพาะช่วงเย็นหลังเลิกงาน — กลางคืนก่อนนอน ควรเทรดคู่ไหนดีล่ะ ?
คาดว่า คำถามข้างต้นเหล่านี้ หลายๆคนอาจจะสงสัย และต้องการทราบถึงเหตุผลกันอยู่ไม่ใช่น้อย โดยในบทความนี้ ผมจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับ
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ตลาด Forex เป็นตลาดที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงและมีการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ อยู่ตลอดเวลา การเข้าใจช่วงเวลาเปิด-ปิดของตลาดต่างๆทั่วโลกนั้นมีความสำคัญมาก ถ้าคุณอยากทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ครับ มาดูกันว่า แต่ละช่วงเวลาเทรดเป็นอย่างไรและมีเทคนิคอะไรบ้าง
Ref: https://www.babypips.com/tools/forex-market-hours
4 ช่วงเวลาเทรดหลักของตลาด Forex
1. Sydney
เวลา: 04:00–13:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: Sydney Session เป็นจุดเริ่มต้นของวันซื้อขาย ซึ่งโดยทั่วไปจะเงียบกว่า Session อื่นๆ แต่ถ้ามีข่าวเศรษฐกิจจากออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ สกุลเงินที่มีการจับคู่กับ AUD, NZD ก็มีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวแบบมีนัยสำคัญได้เช่นกัน
ข้อแนะนำ:
- โฟกัสที่คู่เงิน AUD และ NZD
- จับตาข่าวและรายงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดังกล่าว
2. Tokyo
เวลา: 07:00–16:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: หลังจากตลาดโตเกียวเปิด จะสังเกตเห็นได้ว่า ปริมาณการเทรดก็เริ่มมีการเพิ่มขึ้น คู่เงินที่มี JPY จะเริ่มมีการเคลื่อนไหว ถ้ามีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ จากญี่ปุ่นออกมา ตลาดอาจจะผันผวนได้มาก
ข้อแนะนำ:
- ติดตามคู่เงินที่มี JPY อย่างใกล้ชิด
- อัพเดทข่าวเศรษฐกิจจากญี่ปุ่นและประเทศในเอเชียอื่นๆ
3. London
เวลา: 14:00–23:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: London Session ถือว่าเป็น Session ที่มีการ active ของคู่เงินต่างๆ และมีสภาพคล่องสูง โดยตลาดการเงินในยุโรปทำให้มีปริมาณการเทรดในปริมาณมาก และช่วงแรกๆ ที่ตลาดเปิด ยังมีช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับตลาดโตเกียวอีกด้วย (การ overlap ของตลาด เป็นอีกหนึ่งกุญแจที่สำคัญสำหรับการเทรด จะมีการอธิบายอีกครั้ง ช่วงท้ายบทความครับ)
ข้อแนะนำ:
- เทรดคู่เงินหลักๆ เช่น EUR/USD, GBP/USD
- สามารถใช้กลยุทธ์ Breakout เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มได้ เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง
- ติดตามข่าวเศรษฐกิจยุโรปและผลกระทบที่มีต่อตลาด
4. New York
เวลา: 19:00–04:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: New York Session เป็นอีก Session หนึ่ง ที่มีสภาพคล่องของคู่เงิน หุ้น รวมไปถึง Commodities ต่างๆ ไม่แพ้ตลาด London เลย และมีช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับ London Session เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งนำไปสู่สภาพคล่องและความผันผวนที่สูงมาก โดยข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญจากสหรัฐอเมริกาอาจทำให้เกิดความเคลื่อนไหวต่อสกุลเงิน USD ที่มีนัยสำคัญได้
ข้อแนะนำ:
- โฟกัสที่คู่เงินที่มี USD
- จับตาข่าวเศรษฐกิจจากอเมริกาอย่างใกล้ชิด
- สามารถใช้กลยุทธ์ Trend-following ในช่วงเวลา overlap กันของตลาด เพื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มได้
Key Overlaps (ช่วงเวลาที่ทับซ้อนกันของตลาด)
1. Tokyo — London
เวลา: 14:00–16:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่การทับซ้อนกันของช่วงเวลานี้ อาจทำให้เกิดความผันผวนได้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนจากตลาดเอเชียไปสู่ตลาดยุโรป
ข้อแนะนำ:
- ระวังการเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน (ความผันผวนสูง)
- สามารถเทรดแบบ sniper ได้ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง
2. London — New York
เวลา: 19:00–23:00 (GMT +7) เวลาประเทศไทย
ลักษณะของตลาด: นี่คือช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดในตลาด Forex เพราะสองศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ระดับโลกเปิดพร้อมกัน ทำให้มีสภาพคล่องและความผันผวนสูงที่สุด (และเป็นเวลาที่ผมเทรดเป็นประจำด้วยครับ)
ข้อแนะนำ:
- ใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่สูงนี้ เพื่อหาโอกาสทำกำไรคำใหญ่ๆ โดยอาจจะพิจารณาจาก Indicators ประเภทต่างๆ หรือใช้เทคนิค Demand — Supply, Candlestick Pattern, Elliott Wave, SMC, etc. เข้ามาช่วยวิเคราะห์ได้
คำแนะนำเพิ่มเติม
- อัพเดทข่าวสารอยู่ตลอด: ดูปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อให้รู้ว่า จะมีข้อมูลสำคัญๆ อะไรออกมาบ้าง ที่ผมดูหลักๆก็จะเป็น Forex Factory ที่มีปฏิทินเศรษฐกิจที่ละเอียดมาก ทำให้ทราบว่า ควรระวังข่าวแดงช่วงไหนเป็นพิเศษ เช่น ตัวเลข Nonfarm Payrolls ที่ทำให้หลายๆคนต้องนอนวัดกันมาแล้ว (แซวเล่นนะครับ)
- ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด: ถ้าพูดถึงกลยุทธ์หรือเทคนิคต่างๆ จะเห็นได้ว่า ผมไม่ได้แนะนำเป็นพิเศษว่าต้องใช้กลยุทธ์อะไร หรือมีเทคนิคลับสุดยอดในการเทรดมาแจก เพราะผมเชื่อว่า เทรดเดอร์แต่ละคนก็เหมาะกับกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับ Swing Trade ถือข้ามสัปดาห์, และก็ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับ Day Trade ถือจบภายในวัน แต่สิ่งที่ผมสามารถแนะนำได้คือ ทำตามระบบเทรดหรือกลยุทธ์ที่มีการ Backtest มาแล้ว และพิสูจน์ได้ว่า มี Performance ตามที่เราคาดหวังจริง ไม่ใช่ไปฟังมาจากกูรู แล้วนำมาใช้จริงเลย (วงการนี้สีเทามันเยอะนะครับ เตือนไว้ก่อน)
- Money Management: ตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ซึ่งอาจจะทำให้เราได้กำไรเยอะ แต่ในทางเดียวกัน ก็แลกมากับความเสี่ยงที่สูงด้วย ก็ขอแนะนำให้ทุกท่านใช้ Risk per Trade ที่เหมาะสมกับที่ตนเองรับได้ และตั้ง SL กันเหนียวไว้ทุกออเดอร์นะครับ
- รอให้เป็น: ไม่ใช่ทุกชั่วโมง ทุกนาที หรือทุกช่วงเวลาจะเหมาะกับการเทรด บางทีการรอจังหวะที่ใช่ อาจจะได้กำไรมากกว่าการเทรดตลอดเวลา ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่อยากจะย้ำเตือนทุกท่านครับ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมแล้ว เชื่อเถอะครับว่า “การรอ” ยากกว่า “การเทรด” เสมอ การเทรดในจังหวะเวลาที่เราได้เปรียบนั้น คุ้มค่ากว่าความอยากเทรดเพราะไม่มีออเดอร์เข้า หรือไม่มีอะไรทำนะครับ ^^
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ Forex ทุกท่านนะครับ ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ
“Never Stop Learning”
Algo Alchemist