(Folic acid) (กรดโฟลิก, โฟลาซิน)
โฟเลต คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?
ละลายในน้ำ เป็นหนึ่งในตระกูลวิตามินบีรวม รู้จักกันทั้งในชื่อ วิตามินบีซี (Bc) หรือวิตามินเอ็ม มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก.)
- มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยในการเผาผลาญโปรตีน
- มีส่วนสำคัญในการสร้างกรดนิวคลีอิก (กรดไรโบนิวคลีอิก และกรดดีออกซิไรโบนิวคลีอิก)
- โฟเลตมีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวเซลล์ ร่างกายต้องการในกระบวนการใช้น้ำตาล และกรดแอมิโน
- โฟเลตถูกทำลายได้ง่ายหากเก็บด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสมในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานานเกินไป
ขนาดที่แนะนำ
ขนาดที่แนะนำต่อวันคือ 180–200 มคก. สำหรับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตรควรรับประทาน 280 มคก. ในช่วง 6 เดือนแรก และ 260 มคก.ในช่วง 6 เดือนหลัง
ข้อดีของโฟเลต
- ลดระดับกรดแอมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
- ป้องกันการพิการแต่กำเนิดในทารก
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอด
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้ และอาหารเป็นพิษ
- ช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี
- ออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวดได้
- อาจช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลงได้ หากรับประทานคู่กับกรดแพนโทเทนิก และพาบา (PABA)
- ช่วยให้เจริญอาหาร หากคุณกำลังอ่อนเพลีย
- อาจช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจากได้
โรคจากการขาดโฟเลต
โลหิตจางแบบแมโครไซติก หรือเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ผิดปกติ
แหล่งธรรมชาติของโฟเลต
ผักใบเขียว แครอท ทอร์ทูลายีส์ ตับ ไข่แดง แคนตาลูป อาร์ติโช้ก เอพริคอต ฟักทอง อะโวคาโด ถั่ว แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โดยทั่วไปมีจำหน่ายในขนาด 400 มคก. และ 800 มคก. ส่วนขนาด 1 มก. ต้องซื้อโดยมีใบสั่งแพทย์ บางครั้งในวิตามินบีรวมจะมีกรดโฟลิกอยู่ 400 มคก. แต่โดยมากจะมีเพียง 100 มคก.
ขนาดที่รับประทานโดยทั่วไป คือ 400 มคก. ไปจนถึง 5 มก. ต่อวัน พยายามเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีทั้งโฟเลตและวิตามินบี 12 อยู่ด้วยกัน
อาการเป็นพิษเมื่อรับประทานโฟเลตมากเกินไป
ยังไม่พบอาการเป็นพิษ แต่บางคนอาจจะมีผื่นแพ้ได้บ้าง หากร่างกายมีกรดโฟลิกมากเกินไป อาจทำให้โรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 แต่จะไม่แสดงอาการออกมา
ศัตรู
น้ำ ยาในกลุ่มซัลฟา แสงแดด ฮอร์โมนเอสโทรเจน กระบวนการแปรรูปอาหารโดยเฉพาะการต้ม ความร้อน