กว่าจะเป็น Wakanda ต้องผ่านอะไรมาบ้างในด้าน Production Design

Jirathitikal Chinsawad
Artisan Digital
Published in
3 min readMar 9, 2018

เมื่อประมาณหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปดู Black Panther ฟรี! เพราะพี่ตอย (Cholathit Khueankaew) ซื้อบัตรผิด 555 เลยเสียสละตัวเองรับตั๋วหนังไปดูกับเพื่อน พร้อม Assignment ให้เขียนรีวิวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาด้วย วันนี้ก็เลยจะลองเขียนดู

จากรีวิวหลาย ๆ ที่เคยอ่านมา ส่วนมากพูดถึงเรื่องการเมืองที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเขียนอะไรอย่างอื่นบ้าง วันนี้เลยอยากเขียนเกี่ยวกับ Production Design ภายในเรื่อง เพราะได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ Hannah Beachler ซึ่งเป็น Production Designer ของเรื่อง Black Panther โดยพูดถึงเรื่องการสร้าง Wakanda ซึ่งเป็นประเทศที่กษัตริย์ทีชาล่า หรือ Black Panther ปกครองอยู่ สำหรับตัวเราสิ่งที่ประทับใจที่สุดในเรื่องคือ Wakanda นี่แหละ เพราะมันเป็นประเทศที่มีความเป็นผสมผสานรากเหง้าของวัฒนธรรมเข้ากับความเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกันได้แบบ เฮ้ย! สุดยอดอะ

Hannah Beachler ใช้เวลา 8 เดือนในการทำ research และสำรวจแอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ อาร์เจนติน่า และสหรัฐอเมริกาในการหาสถานที่ถ่ายทำ โดย Hannah ต้องสร้างทุกอย่างตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ Wakanda โดยทุกอย่างขั้นตอนของการสร้างต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ

จากประวัติศาสตร์ของชนชาติแอฟริกาที่ถูกกดทับจากการล่าอาณานิยมมาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่ Wakanda จะเป็นเหมือน idealism หรือประเทศในอุดมคติของของคนในแอฟริกา เนื่องจากเป็นประเทศในแอฟริกาที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคม ไม่มีการบุกรุกหรือการยึดครองเกิดขึ้นในประเทศ เริ่มแรกในการ conceptualize ประเทศ Wakanda เริ่มจากการที่ Ryan Coogler ผู้กำกับของเรื่องพูดถึงเผ่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ใน Wakanda ตัวตนหรือความเป็นเผ่าของเผ่านั้น ๆ ตัวผู้กำกับได้เดินทางไปแอฟริกา เขาจึงได้พบกับผู้คนและได้ท่องเที่ยว เขาจึงส่งรูปจากที่ต่าง ๆ และสิ่งที่เขาชอบเกี่ยวกับที่นั้นให้กับ Hannah

ขั้นตอนที่เกิดขึ้นจึงเริ่มจากการพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกหรือ tone ที่เราต้องการจะให้ Wakanda เป็น โดยนึกถึงผู้คนที่นั่นว่าพวกเขาจะเป็นคนอย่างไร ทุกสิ่งอย่างจึงเริ่มต้นจากผู้คนเป็นหลัก แล้วค่อยขยายขอบเขตออกไปเรื่อย ๆ ต่อมาจึงเป็นเรื่องขนาดอาณาเขตของ Wakanda มีประชากรกี่คน ตั้งอยู่ตรงไหนของทวีป รวมถึงลักษณะภูมิประเทศ หลังจากที่เรากำหนด และเข้าใจสิ่งดังกล่าวแล้ว พวกเขาก็เริ่มเขียนแผนที่ของ Wakanda ว่าแต่ละเผ่าอาศัยที่เราเห็นจากในหนังอยู่ตรงไหนบ้าง และความสัมพันธ์ของแต่ละเผ่าเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมของเผ่าต่าง ๆ และหลังจากนั้นจึงจะลงรายละเอียดของแต่ละเผ่า

ในตอนแรก Ryan ต้องการให้รายละเอียดออกมาให้ไร้ที่ติสุด ๆ เขาจึงต้องการวางตำแหน่งของ Wakanda ให้ชัดเจน เพราะแฟนคลับ Marvel เป็นพวกช่างสังเกตมาก ๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะโดนขยี้อย่างแรง 555 แต่ Kevin Feige ผู้เป็น Producer ได้พูดถึงว่าพวกเขาสามารถที่จะวาง Wakanda ไว้ตรงไหนก็ได้ของแผนที่ เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า Wakanda อยู่ที่ไหน แม้แต่ Tony Stark จึงไม่จำเป็นที่จะต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว Wakanda อยู่ที่ไหน พวกเขาจึงให้อิสระแก่คนดู โดยไม่ได้พูดถึงสถานที่ตั้งอย่างชัดเจนแม้แต่ Jarvis หรือ Tony Stark ก็ไม่ทราบ

อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่าส่วนที่ตัวผู้เขียนประทับใจที่สุดคือการผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Wakanda สิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นจากอิทธิพลของ Afrofuturism คือสุนทรียภาพอย่างหนึ่งที่ต้องการสื่อสารเรื่องความแข็งแกร่งของชาติพันธุ์ ผ่านภาพคนผิวดำในรูปลักษณ์ล้ำยุคและเหนือธรรมชาติ เป็นส่วนผสมของความเป็น Sci-Fi สัจนิยมมหัศจรรย์ กับวัฒนธรรมชนเผ่า เพื่อแสดงภาพของชาวแอฟริกันที่มีรากเหง้ายาวนานและไม่ได้ผูกติดกับความเป็นทาสอีกต่อไป ซึ่งทำให้บางสื่อเช่น The Huffington Post เรียกว่านี่คือ Cultural Movement ซึ่งสำหรับ Hannah Afrofuturism เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างตำนานเรื่องเล่า ศิลปะ การเมือง วิทยาศาสตร์ของแอฟริกา และวัฒนธรรม รวมถึง Sci-Fi ซึ่งตัวของเธอเหมือนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ

แหล่งข้อมูลในการทำ Production Design เรื่องนี้นอกจากการสำรวจ และการวิจัยแล้ว Hannah ยังได้ย้อนกลับไปดูหนังสือการ์ตูนอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นผลงานของ Jack Kirby ในหนังสือ Fantastic Four ตอนที่ไป Wakanda ไปจนถึงมีหนังสือการ์ตูน Panther รวมถึงผลงานของ Ta-nehisi Coates และ Brian Stelfreeze สำหรับ Hannah ต้นฉบับให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ถูกสร้างขึ้น และเข้าใจถึงที่มาที่ไปของแนวคิดได้มากขึ้น ทำให้ข้อมูลเหล่านี้เป็นรากฐานของแนวคิด เพราะเธอไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับความล้ำสมัยอะไรมากมาย และไม่จำเป็นต้องเป็น Sci-fi จ๋าที่คนส่วนใหญ่ติดป้ายฉลากว่ามันควรจะเป็น ดังนั้นจึงอยากทำให้สมเหตุสมผลเข้ากับปัจจุบันมากกว่า

Hannah ได้วาดภาพจากหลาย ๆ สถานที่แตกต่างกันไป โดยยึดความเป็นประเพณีรวมเข้ากับสุนทรียศาสตร์ และการออกแบบภาษาซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภาพแทนของคนผิวสี หรือคนดำ รวมถึงอนาคต และหน่วยงานของคนดังกล่าว ที่ได้ใช้สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตำนานเรื่องเล่า Biomimetics (การปรับใช้ หรือสังเคราะห์โครงสร้างยีนส์ของธรรมชาติ เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ) และ Biomorphosis (การเลียนแบบลักษณะ รูปทรงของธรรมชาติ) เข้าสู่การออกแบบ Hannah จึงได้ทำ Wakanda Bible ขึ้น โดยมีเนื้อหาของประวัติศาสตร์ แหล่งอ้างอิง รูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับ Vibranium และชนเผ่า โดยทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ใช้อ้างอิงถึงเผ่าต่าง ๆ ใน Wakanda อย่างเช่นเผ่า Border ในเรื่องที่อ้างอิงมาจาก Lesotho Shepherds ในเรื่องของการแต่งกายด้วยผ้า Basotho Blankets รวมไปถึงความเป็นนักขี่ม้า และเรื่องอื่น ๆ เวลามีข้อสงสัยอะไร Wakanda Bible ตัวนี้จะเป็นหลักให้นำไปต่อยอดสิ่งอื่น ๆ ต่อไป

องค์ประกอบสำคัญ หรือ Key Element ของ Wakanda คือเรื่องของประวัติศาสตร์ของตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบรรพบุรุษ ผู้คนของประเทศมาจากที่ไหน และอนาคตของ Wakanda จะเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่าไม่ได้คำนึงถือแค่อตีต แต่ยังพูดถึงทิศทางอนาคตของ Wakanda ด้วย เนื่องจากอดีตเป็นส่วนหนึ่งของการวิวัฒนาการเพื่อนำไปสู่สังคมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงต้องมี Enlightenment หรือการใช้เหตุผลเป็นหลักในทางที่ถูก เพื่อให้ผู้คนจะไม่เข่นฆ่ากัน เพราะเมื่อเรามีอำนาจมาก มันอาจ สามารถทำให้เราไปในทางที่ผิด กลายเป็นเพียงชาติที่สับสนและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นเราจึงต้องมีหลักเหตุผลที่ก้าวผ่านความโลภ ข้ามผ่านอุดมการณ์แบบชาติตะวันตก และทุนนิยม แล้วกลายเป็นหลักเหตุผลที่เชื่อมสังคมเข้าด้วยกัน และดูแลซึ่งกันและกัน และนั้่นก็คือรากฐานของทุกอย่างใน Wakanda

เนื่องด้วยแนวคิดที่ให้ Wakanda เป็นประเทศที่ไม่เคยถูกรุกราน ทำให้ภาพของวัฒนธรรมมีความแข็งแกร่ง จึงมีการพัฒนาในส่วนของประเพณีจากแต่ละชนเผ่าที่อาศัยอยู่มานับพันปี ดังนั้นถ้ามีชนเผ่าที่อาศัยอยู่มาเป็นเวลา 50,000 ปี แล้วในช่วงเวลากว่า 50,000 ปี พวกเขาได้มีวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง Wakanda มีอายุเท่าไหร่ และวิวัฒนาการของพวกเขามีลักษณะอย่างไร ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องมาดูความเป็นประเพณีที่ย้าย และพัฒนาเข้าสู่ความเป็นเทคโนโลยีจะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ Hannah สนใจและพยายามเล่นกับมัน อย่างเช่น ทราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาติ และยังเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือคนในเผ่า นี่ถือเป็นตัวอย่างของการเล่น หรือทดลองของ Hannah ที่ใช้ Biomimetics และ Biomorphosis ของทรายเข้ากับเทคโนโลยี

จากบทสัมภาษณ์ก็ประทับใจมาก กับความทุ่มเทของ Production Designer รวมถึงผู้กำกับ จริง ๆ ก็ทุกคนนั้นแหละที่ทุ่มเท ไม่งั้นงานคงไม่ออกมาได้สุดยอดขนาดนี้ จริง ๆในบทสัมภาษณ์ยังพูดถึงเรื่องสัพเพเหระอีกมาก ทั้งเรื่องน่ารัก ๆ ของลูกชายของ Hannah ที่เป็นแฟนตัวยงของ Marvel ที่เขาตื่นเต้น และภูมิใจกับแม่ของเขามาก ๆ อีกทั้งเรื่องการทำงานกับ Ryan ผู้กำกับที่เก่งมาก และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีอิสระในการเสนอไอเดีย และทดลองสิ่งใหม่ ๆ

ก็หวังว่าบทความนี้จะพอมีประโยชน์ หรือสามารถอ่านฆ่าเวลาได้บ้าง ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่า หรือสามารถติดตามอ่านที่ตัวต้นฉบับได้ที่ https://filmschoolrejects.com/black-panther-interview-production-designer-hannah-beachler/

--

--