[INTERNSHIP] รีวิวฝึกงาน Content Creator บอกเลย “ขอความ Creative จงสถิตอยู่กับท่าน”

Apichaya Hongsapak
Artisan Digital
Published in
2 min readJun 16, 2018

พูดถึง “ฝึกงาน” แต่ละคนก็จะมีการอธิบายความหมายส่วนตัวที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า เป็นการฝึกประสบการณ์การทำงาน บางคนบอก ไม่ใช่อะ นั่งดูซีรี่ย์ว่าง ๆ ทั้งวัน เม้าท์มอยเรื่องละครกับพี่ ๆ ที่ทำงาน แต่ที่ ARTISAN DIGITAL ไม่ใช่อย่างนั้น…

เรามาจากสาขาออกแบบสื่อสาร เอกออกแบบนิเทศศิลป์ สิ่งที่ได้เล่าเรียนมาตั้งนานนั้นก็จะเป็นแนวกราฟิก ที่นอกจากสิ่งพิมพ์ ก็พวกวิดีโอโปรดักชัน, 2D, 3D, Sketchup, Visual Effect ต่าง ๆ ซึ่งการทำเป็นหลายอย่างก็ดี แต่ตอนฝึกงาน หรือการเลือกสายงานที่เราชอบก็มีตัวเลือกเยอะเหมือนกัน ตอนที่สมัครที่นี่ไปก็สมัครตำแหน่งกราฟิกตามสัญชาตญาณคนเรียนมานั่นแหละ แต่พอพี่ byrd paranath เขาดู Portfolio ที่ส่งไปก็บอกลองทำตำแหน่งนี้ไหม ตำแหน่งที่เป็นเหมือนซุปเปอร์แมน เอาความหลายอย่างของเรามาใช้ได้จริง

และตำแหน่งนั้นคือ..Content Creator

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่การฝึกงานมันต้องลองประสบการณ์ ก็ลุยเลย!

และการท่องโลกฝึกงานที่นี่ก็มากกว่าที่คาดหวัง

ทุกอย่างที่ได้ทำคือประสบการณ์จริง ทั้งการทำงานที่ทุกคนได้ลงมือทำงานจริง ๆ ได้ทำงานเป็นทีม ได้รับผิดชอบงานจริง ทำให้เรามีความตั้งใจมากขึ้น อยากทำงานให้ออกมาดีที่สุด

Content Creator คือคนสร้างคอนเทนต์นั่นแหละ แต่ไม่ใช่แค่สร้างออกมาเท่านั้น ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วย แล้วต้องมีประสิทธิภาพ ต่างจากการคิดแคปชันลงรูปที่แค่โพสต์ ๆ รูปออกไป แต่การสร้างคอนเทนต์ที่มี Digital Marketing มาเกี่ยวด้วย การทำงานเป็นทีมที่ต้องช่วยการคิด วางแผนว่าคอนเทนต์ที่จะนำเสนอไปนั้นจะเป็นอย่างไร อะไรเป็นเทรนด์ แล้วควรนำเสนอในรูปแบบไหน ทำให้งานที่เราคิดว่าแค่โพสต์ ๆ ไป มันก็ดูสนุกมากขึ้น เราต้องคิดให้สร้างสรรค์มากขึ้น นี่แหละความสนุก

นอกจากงานที่ได้ทำแล้ว การทำงานร่วมกับคนอื่นก็สำคัญ Content Creator ต้องดูแลคอนเทนต์ทั้งหมดก่อนถูกเผยแพร่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราเขียนคอนเทนต์ออกมาแล้วต้องส่งต่อให้ฝ่ายกราฟิก จะคุยกันรู้เรื่องหรือไม่ เราก็ต้องสามารถสื่อสารให้เขาเข้าใจได้ มันก็เป็นการเช็คอีกทีด้วยนะว่าคอนเทนต์ที่เราทำไปมันรู้เรื่องไหม แต่นอกจากคอนเทนต์ที่เขียนแล้ว อย่างที่บอก ตำแหน่งนี้สามารถเป็นซุปเปอร์แมนได้ บางครั้งเราก็มีโอกาสได้ทำกราฟิกเองเหมือนกัน ทำให้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้ตลอดไม่มีเบื่อ

แต่มันไม่ได้มีแค่การทำงานที่ต่างคนก้มหน้าก้มตาทำงานกันเหมือนเป็นร้านเกมส์ มันมีมากกว่านั้น

เราคงไม่คิดหรอกว่าเชียงใหม่จะมีออฟฟิศแบบนี้อยู่ นั่นคือ..

เพลียเมื่อไหร่ก็พัก

ทำงานทั้งวันทั้งคืนได้ แต่ก็สามารถพักได้ตลอดเวลา ที่ออฟฟิศยืดหยุ่นมากสำหรับการทำงาน ทำที่ไหนก็ได้ของออฟฟิศ นั่งหรือนอนทำก็ได้ แต่งานต้องเสร็จตามกำหนดและที่นี่ก็มีระบบการทำงานที่รู้การทำงานของทุกคนได้ว่าวันนี้ใครทำอะไรเสร็จไปแล้วบ้าง ทำให้ไม่มีความเครียดหรือความกดดันมากในการทำงาน

(ใครอยากเพ้อหรือบ่นหรือเครียดอะไรก็มีที่ระบายให้นะจ๊ะ)

ล้าเมื่อไหร่ก็เล่นเกม

นอกจากนอนได้ก็เล่นเกมส์ได้เช่นกัน พักเล่นเกมส์กับเพื่อนได้ หรือเลิกงานแล้ว มาเล่นเกมส์กัน!

แถมยังมีออกกำลังกายสร้างความสัมพันธ์

ปกติก็จะมีตีแบตกันประจำทุกสัปดาห์ บางสัปดาห์ก็มีกีฬาอย่างอื่นนะ อย่างบริษัทอื่นที่เป็นพาร์ทเนอร์ชวนไปเตะบอล ก็เปลี่ยนบรรยากาศ แถมเอาใจเหล่าชาย ๆ

นอกจากนั้นยังมีแลกเปลี่ยนความรู้

ไม่ใช่แค่ต่างคนต่างทำงาน ทุกเช้าจะสลับกันแบ่งปันความรู้รอบตัว หรือ “Knowledge Sharing” แต่ไม่พอสำหรับทีม Digital Marketing ทุกคนต้องการความ Creative มากกว่านั้น เราจะเพิ่มพิเศษไปอีกคือ “แชร์ข่าวที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้” อย่างข่าวป้าทุบรถ ข่าวเสือดำ ต่าง ๆ ดูเหมือนไร้สาระ แต่ก็ทำให้เราเรียนรู้ว่าทำไมข่าวที่ไร้สาระแบบนี้คนถึงสนใจล่ะ ไม่ใช่แค่ความตลกยามเช้า แต่ก็ได้ Creative จากข่าวนั้นกลับมาด้วย

ความไฮเทคไม่หาย

เข้าสู่ยุคแห่งดิจิทัลแล้ว ความไฮเทคห้ามขาด ระบบการทำงานต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน จากการเรียนมหาลัยที่ใช้พาวเวอร์พอยต์ หรือโปรแกรมไมโครซอฟท์ต่าง ๆ การไรท์แผ่นซีดีส่งอาจารย์ การตีตารางในกระดาษเขียนตารางเรียน ทุกอย่างดูเก่าไปเลยเมื่อมาอยู่ที่นี่ ดูแปลกใหม่กับเว็บไซต์ แอพพลิเคชัน โปรแกรมใหม่ต่าง ๆ แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ในการปรับตัวในยุคแห่งการพัฒนาที่เร็วกว่าจรวดขนาดนี้

ทั้งหมดนี้แหละคือ ARTISAN DIGITAL

สุดท้ายนี้

การสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ผู้คนสนใจได้ สิ่งสำคัญคือความครีเอท ที่วัยเด็กฝึกงานอย่างเราเนี่ยแหละ ต้องปลดปล่อยมันออกมา!

“ขอความ Creative จงสถิตอยู่กับท่าน”

--

--