[INTERNSHIP] ชีวิตของ Content Creator @Artisan Digital — ในวันที่น้ำท่วม ก็ยังมีโชคอยู่
ใครจะไปคิดล่ะครับ ว่าวันที่เราโชคร้ายสุดๆ จะทำให้เราได้รับเรื่องดีๆกลับมาเหมือนกัน
ผมจำได้ดี วันนั้นเป็นวันที่บ้านผมน้ำไม่ไหล ผมจึงเปิดน้ำทิ้งไว้ เผื่อว่าถ้าน้ำไหลแล้ว จะได้ได้ยินเสียง และใช่ครับ ผมก็ทำทุกอย่างจนไปมหาลัย โดย “ลืม” ที่จะปิดน้ำก่อนออกบ้านมา พอผมกลับบ้านมาก็เกือบค่ำ ก้าวแรกที่เข้าไปในบ้านมันชุ่มฉ่ำมากๆ มากจนรู้ตัวว่า อ๋อ น้ำไหลแล้วนะ ไหลไปทั้งบ้านแล้วด้วย….. วิดครับ วิดน้ำวนไปครับคืนนี้
ระหว่างที่วิดน้ำอย่างสนุกสนานจนกำหมัดกัดฟันแน่นนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา โดยไม่ระบุชื่อผู้โทรแต่อย่างใด
“น้องสะดวกคุยมั้ยคะ พี่ติดต่อมาจากบริษัทอาร์ติซาน ที่น้องยื่นขอฝึกงานมา”
“สะดวกครับพี่ คุยได้เลยครับ” //วิดน้ำ + ยิ้ม + ดีใจ + เหนื่อย + เปียก
นั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง วันที่พี่พิม Content Creator จากฝ่าย Marketing ได้โทรมาสัมภาษณ์การสมัครฝึกงานของผม และเป็นข่าวดีอย่างยิ่งครับ ที่ผมได้ฝึกในตำแหน่งที่ต้องการแบบผ่านฉลุยภายในสายเดียว ผ่านไปได้ดีซะยิ่งกว่าการวิดน้ำที่บ้านอีกครับ
“If you’re walking down the right path and you’re willing to keep walking, eventually you’ll make progress” - Barack Obama
ผมชอบมากครับ ประโยคนี้ ถ้าแปลออกมาจะได้ความว่า “หากคุณกำลังเดินไปตามเส้นทางที่ถูกต้องและคุณยินดีที่จะเดินต่อไปในที่สุดคุณก็จะก้าวหน้า”
ผมจึงเลือก ‘เดิน’ ไปยื่นใบส่งตัวฝึกงานที่บริษัทแห่งนี้ เดินจากหลังมอไปครับ เวลาประมาณเที่ยงๆ กำลังได้เหงื่อเลย
เอาล่ะครับ เกริ่นยาวจนลืมไปซะแล้ว ว่ารีวิวฝึกงาน เรามาเล่าถึงบรรยากาศการฝึกงานกันเถอะ!!!
จะบอกว่าตลอดการฝึกงานผมจะเดินทางมาด้วยการเดินเป็นหลักเลยครับ เพราะระยะทางจากที่บ้าน (ใกล้รพ.เชียงใหม่ราม) มาถึงที่ทำงาน ถือว่าไม่ไกลซักเท่าไหร่
งานเริ่ม 9 โมงเช้าครับ เดินออกบ้านมาตั้งแต่ประมาณ 7/8 โมง อากาศกำลังดีเดินสบาย ถ้าสายกว่านี้จะได้เหงื่อมากเกินไป สงสารคนข้างๆครับ อิอิ วันแรกที่มาถึงก็ ปรับตัวได้ไม่ยากครับ เพราะมีเพื่อนคณะฝึกที่นี่รวมกับผมแล้ว “5” คนครับ….. ใช่ครับ มี 5 คน ถือว่าเยอะนะครับ เยอะจนอาจารย์ที่มานิเทศน์เคยบอกว่า “แยกๆกันอยู่บ้างนะ” แหะๆ แล้ว 1 ในเพื่อนคณะที่มาฝึกก็มี “อินซ์” ที่เป็นเพื่อนสนิทมากๆ ตั้งแต่เข้ามหาลัย (แต่ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวมั้ยว่าผมสนิทกับมัน) เลยทำให้อะไรๆเป็นไปได้ด้วยดี ทำงานร่วมกันได้ครับ (ถ้าไม่ได้สิแปลก) เพื่อนที่เหลือก็จะมี สินออม เดียร์ และใบเตยครับ
รีวิวเพื่อนๆ
แน่นอนว่าเด็กฝึกงานไม่ได้มีแค่เด็ก มช. แน่ๆครับ ผมยังได้พบเจอกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนด้วยกัน ที่จำได้หลักๆได้แก่ เบนซ์ เมย์ นก ผึ้ง ขลุ่ย อ้อม และ ตูนครับ น่าเสียดายที่ผมเก็บภาพไว้ไม่ครบ แต่ยังไงก็มาดูกันเลยครับ :D
คนแรก “เบนซ์” เพื่อนร่วม(ฝึก)งาน จากแม่โจ้ครับ ครั้งแรกที่เจอ นึกว่าเบนซ์เป็นพนักงานประจำที่นี่ ไม่ได้หมายถึงจะว่าเบนซ์แก่นะครับ แต่ลุคเบนซ์เหมือนคนทำงานแล้วจริงๆอะ 5555555
เบนซ์เป็นคนเฮฮานะครับ ชอบพูดคุย ช่วยให้เพื่อนได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน ทั้งชวนเล่นบอร์ดเกม แนะนำซีรีส์ หาที่กินข้าวให้เพื่อนๆ เบนซ์พยายามจะเรียนรู้ทักษะบางอย่างเพิ่มเติม เช่นการใช้งาน Adobe Photoshop , Illustrator เพื่ออัพเกรดการทำงานให้ตัวเอง จากที่คิดแค่แคปชั่นกับบทความ ก็เป็นการสร้างกราฟิกและแต่งรูปภาพให้กับงานตัวเองบ้าง มีความพยายามและความตั้งใจดีนะครับ
“เมย์” ผู้เป็นลูกหลงของเกือบทุกเหตุการณ์ใน บ. ตามนั้นจริงๆครับ ไม่รู้ทำไมกันน้า เพื่อนๆถึงชอบแกล้งเมย์ ผมก็จะคอยห้ามทุกคนครับ ว่าอย่าแกล้งเมย์น้า มันไม่ดีน้า แบบเนี้ยครับ จริงจริ๊ง // หยอกๆๆ ก็แกล้งกันขำๆตามประสาเพื่อนร่วมงานครับ เมย์เป็นคนที่ซีเรียสเวลาจะต้องนำเสนองานอะไรซักอย่าง จะบ่นนานมากว่าจะออกมาดีมั้ย จะทำถูกรึเปล่า แงๆๆๆ แบบนี้ครับ แต่ท้ายที่สุดก็ออกมาได้โอเคดีนะครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเท่าไหร่นัก
“ผึ้ง” เป็นคนที่คุยสนุกพอๆกับเบนซ์เลยยย และก็เป็นแนวร่วมในการแกล้งเมย์อีกคนนึง (เป็นเพื่อนเมย์แท้ๆนะเนี่ยย) ผึ้งเป็นคนที่มีลุคเรียบร้อยนะครับ แต่ผึ้งจะบอกเสมอว่า เราไม่ได้เรียบร้อยนะ ผมก็โอเคครับ ไม่เรียบร้อยก็ได้5555 ผึ้งก็จับงานเกี่ยวกับการทำเพจและการแต่งรูปในระดับนึง ผมไม่ได้ไปคลุกคลีกับการทำงานของเพื่อนซักเท่าไหร่ จะเป็นไปในทางพูดคุยทั่วไป และเล่นเกมกันหลังเลิกงานมากกว่าครับ
“นก” น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปนกแบบชัดๆไว้เลย จึงใช้นกนี้ไปก่อนนะครับ นกเป็นคนพูดน้อยมากกกกกกก น้อยจริงๆ คงเป็นคนขี้อายแน่ๆเลยครับ ผมเห็นนกส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลากับการดูแลเพจ Cherich และอื่นๆ ก็ทำงานเงียบๆครับ ไม่ส่งเสียงใดๆ 55555 แต่ก็เคยพูดกับนกนะครับ ก็คุยกันปกติ ไม่ได้เงียบมากเวลาคุย
ผมกลัวจะยาวเกินไป(ยาวแล้วแหละ)เลยขอมัดรวมอีก 3 คน ที่ทำงานคล้ายๆกัน ตูน,อ้อม และขลุ่ย ความคล้ายคลึงกันของเพื่อน 3 คนนี้คือเป็นคนเงียบๆ แต่เวลามีอะไรคุยกันก็คุยกันได้ปกติดีนะครับ ตามลำดับแล้วจะได้ร่วมงานกับตูนเป็นคนแรกๆ ตอนนั้นผมได้ช่วยตูนคัดคลิปวิดีโอที่จะนำมาตัดเป็นไฮไลท์ลงเพจ เลยได้ติดต่อคุยงานกันเรื่อยๆ จนพบว่าตูนก็เป็นคนตลกเหมือนกันนะเนี่ย และก็ชอบฟังเพลงฝนตกไหม มากๆ มากจนทุกคนรอบๆตูนร้องเป็นกันหมดละ แต่ตูนก็เก่งในการตัดวิดีโอจริงๆครับ ยินดีที่ได้ร่วมงาน และต่อไป อ้อม ได้ร่วมงานกันก็ตอนโปรโมทคอร์สของ Artisan Brain Academy และคอร์สอื่นๆครับ ถือว่าราบลื่นดี บรีฟกันเข้าใจง่าย แล้วอ้อมก็ทำงานไว ส่งงานต่อให้ผมไวครับ ขอบคุณมากๆที่ช่วยเหลือกันในงานที่ผ่านมา คนสุดท้าย ขลุ่ย ตอนแรกขลุ่ยอยู่แต่ชั้นบนครับ ไม่ใช่เพราะว่าขลุ่ยหยิ่งอะไรหรอกนะ แต่ชั้นล่างมันเต็ม!! เลยแทบไม่มีโอกาสได้พูดคุยร่วมงานเลย จนกระทั่งช่วงที่เพื่อนๆแม่โจ้จบการฝึกงานนั่นแหละครับ ขลุ่ยเลยได้ลงมาใช้ชีวิตร่วมกันกับพวกเราซักที 55555 และได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการคือวิดีโอรีวิวท้องฟ้าจำลอง ที่ NARIT ,Astro Park ครับ พวกเราก็ได้พูดคุยกับขลุ่ยมากขึ้น จากที่เห็นขลุ่ยเป็นคนเงียบๆ จนเริ่มมีรีแอคกับพวกเราละ โดยเฉพาะเวลาขลุ่ยตีกับสินออม(เล่นๆ) ก็ดีใจครับ ที่ทำให้เพื่อนแฮปปี้กับการทำงานร่วมกันได้55555
เพื่อนๆจากคณะ และกระบวนการทำงานในเซ็ทนี้
ส่วนนี่ก็เป็นเซ็ทเพื่อนที่มาจากม.เดียวกัน คณะเดียวกันนั่นเองครับ แต่ละคนก็ทำงานต่างกันไป ผมเองเป็น Content Creator ได้ดูแลเพจ Artisan Brain Academy (ไปกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะจ๊ะ อิอิ) ทำหน้าที่ควบคุม ดูแล คิดคอนเทนต์ ร่างกราฟิก แพลนการโปรโมทคอร์ส หาลูกค้า สอนลูกค้า และอื่นๆ ตามแต่จะได้รับมอบหมาย ในแต่ละวันก็จะต้องหาข่าวในแวดวงไอที Developer และอื่นๆ ว่ามีอะไรอัพเดตบ้าง เราจะโปรโมทคอร์สยังไง จะหากลุ่มเป้าหมายให้ถูกจุดได้ยังไง ทำยังไงให้แต่ละโพสต์เข้าถึงคนได้มากขึ้น รวมๆก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นเพจโตขึ้นเรื่อยๆ มีคนรู้จักมากขึ้น และได้ทำงานเป็นชิ้นงานของตัวเองที่หลากหลาย พี่ๆ เพื่อนๆ ก็คอยสนับสนุนการทำงานกับตลอดกระบวนการ
เตยทำ AE อินซ์ทำ Community Manager เดียร์ทำ Content Creator แบบผม ส่วนสินออมทำ Graphic ครับ ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาจากม.เดียวกัน คณะเดียวกัน จึงคุยกันง่าย ทำงานด้วยกันบ่อยครับ อย่างผมกับเดียร์ก็จะคิดคอนเทนต์ วางคอนเซ็ปต์ และร่างออกมาให้พี่พิมพรูฟ แล้วจากนั้นส่งต่อสินออม ให้สินออมทำกราฟิก หลังกราฟิกถูกพรูฟโดยพี่แนท (คุมกราฟิก) ก็เตรียมเผยแพร่ผลงาน ประหนึ่งออกอัลบั้มนั่นเองแหละครับ ส่วนอินซ์ จะทำหน้าที่คอยดูแล ควบคุมกิจกรรมต่างๆ และการจัดการหลายๆส่วนในบริษัท คอยคิดกิจกรรมที่จะกระชับสัมพันธ์ให้แก่พนักงานบริษัท นอกจากนี้อินซ์ก็ช่วยดูแลเพจอื่นๆเพิ่มเติมด้วยครับ และเตย เป็น AE จึงมีหน้าที่ที่ได้พบปะกับลูกค้าบ่อยหน่อย ได้ออกไปข้างนอก นำเสนองาน เจาะอินไซต์ขององค์กร รับงานจากลูกค้า ประมาณนี้ครับ
รีวิวบริษัท
ผมค่อนข้างแฮปปี้ กับการฝึกงานที่นี่นะครับ เพราะเหมือนอย่างที่พี่ๆเคยได้บอกไว้แต่แรก ว่าไม่อยากให้เรียกว่าฝึก แต่เป็นการทำงานจริง พบลูกค้าจริง เผยแพร่ผลงานจริง ดีไม่ดีอยู่ที่ตัวเราจริงๆครับ ทำดีก็ชื่นชม ผิดพลาดก็รับผิดชอบหาทางแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนากันต่อไป บรรยากาศการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมคิดว่าผ่อนคลายและเป็นกันเองครับ ต่างจากภาพที่เคยเห็นจากที่อื่น ที่จะต้องนั่งนิ่งเครียดๆอยู่หน้าจอคอมทั้งวัน ไม่พูดไม่จา แต่ที่นี่อยากจะนั่งที่โต๊ะรวม อยากจะแยกไปนั่งเดี่ยว อยากจะยืนทำงานข้างหน้าต่าง หรืออยากจะนอนทำงานที่ตาข่ายติดระเบียง ก็แล้วแต่เลยครับ เพราะทุกคนมีมุมของตัวเองจริงๆ คนที่ทำงานก็เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดงแทน เฮ้ย!!
สิ่งที่โดดเด่นมากๆอีกอย่างก็คือ เสบียงของบริษัทเราไม่เป็นรองใครครับ หิวยังไงก็มีขนม มีอาหารให้กิน ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั่งอาหารจานหลัก ที่นี่ก็ทำกินกันนะค้าบบบ เพราะว่าที่นี่มีเชฟมือโปรอย่างพี่โอ๊ต จากฝั่ง Dev ที่ทำอาหารอร่อย แต่ไม่ค่อยได้กิน (ทำเสร็จคนอื่นมาแย่งกินหมด) ถือว่าเป็นลาภปากน้องๆอย่างเราครับ อิอิ
รีวิวพี่ๆในบริษัท
พี่พิม เป็นคนแรกที่คุยกับผม เพราะพี่พิมเป็นคนโทรมาสัมภาษณ์ และรับผมเข้าฝึกงานภายในสายเดียว (กราบบบ) พี่พิมจะคอยป้อนงานให้ ป้อนเก่ง ป้อนเก่งม๊ากกก5555 แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองแหละครับ แล้วพี่พิมก็จะคอยพรูฟงาน เช็คการเข้าถึงคอนเทนต์ แล้วแนะนำแนวทางให้กับเราว่า ควรปรับอะไรบ้าง พัฒนาอะไรได้บ้าง ก็เป็นการฝึกสกิลจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์โดยตรงนั่นเองครับ ขอบคุณพี่พิมอีกครั้ง ที่รับผมเข้าฝึกงานในวันนั้น จนได้มีวันนี้นะครับ :)
พี่เค้ก เป็นพี่อีกคนที่ผมได้พูดคุยต่อจากพี่พิม พี่เค้กเป็นคนที่ดูแลโปรเจ็คใหญ่ๆหลายอย่างในบริษัทนี้ ทั้งเพจ Artisan Brain Academy เพจท่องเที่ยว และอื่นๆอีกมากมาย พี่เค้กจะคอยประสานงานจากฝั่งผู้บริหารมายังพนักงานฝั่งการตลาด และจะคอยบรีฟโปรเจ็คให้เราฟังว่า บริษัทเรากำลังจะทำอะไร อย่างไร ลูกค้าเป็นใคร และรายละเอียดอื่นๆ พี่เค้กเป็นพี่ที่ใจดีและน่ารักอีกคนนึง ขอบคุณที่ช่วยแนะนำการทำงานมาโดยตลอดครับ :)
พี่จิน ผมเสียดายมากก ที่ได้เจอพี่จินก็เกือบอาทิตย์สุดท้ายของการฝึกงานแล้ว เพราะพี่จินก็เป็นพี่ที่เก่งมากๆๆๆ ใจดี มีขนมมาแจก (อันนี้ชอบเป็นพิเศษครับ5555) ที่เพิ่งได้เจอพี่จินเพราะก่อนหน้านี้พี่จินไปดูแลน้องไบรท์ ลูกพี่จินที่เพิ่งคลอดนั่นเองครับ พอกลับมาทำงานแล้ว พี่จินก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะพี่จินทำงานเยอะมาก Task ในแต่ละวันที่อัพเดตก็ยาวมาก มีอะไรหลายอย่างที่ต้องจัดการจริงๆครับ พอมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่จินก็ได้ความรู้ในการทำงาน แนวทางในการใช้ชีวิต และอื่นๆอีก ขอบคุณพี่จินที่คอยให้คำแนะนำและมอบประสบการณ์ดีๆให้กับน้องคนนี้ด้วยครับ :)
พี่แนท ช่วงแรกเวลาผมร่างกราฟิกออกมาแล้ว ผมจะส่งต่อไปยังสินออม จนช่วงนึงที่สินออมมีงานกราฟิกต้องเคลียร์หลายงาน ผมจึงได้ร่วมงานกราฟิกกับอ้อม และมาจนถึงพี่แนท พี่แนทสกิลสูงมากกกกก ทำไว ปรับนิดแต่งหน่อยให้ทุกอย่างดูโอเค สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมาจับกราฟิกมากขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระในการทำงานของฝ่ายกราฟิก พอทางผมร่างงานออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ก็จะให้พี่แนทปรับแก้จนมันเข้ากับแนวทางของงาน งานที่ได้ผ่านการพรูฟกราฟิกจากพี่แนทไปแล้วเนี่ย ไม่เคยมีผิดพลาดครับ (ยกเว้นผมบรีฟผิดเอง5555) ขอบคุณพี่แนทที่ช่วยพัฒนาให้ผมทำกราฟิกเองได้ดีขึ้นด้วยครับ :)
และสำหรับพี่ๆที่ผมไม่ได้กล่าวถึงอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น พี่ท็อป พี่ฟี่ พี่ตอย และอื่นๆอีกมากมาย ก็ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วยครับ ที่ได้มาร่วมงาน ช่วยเสนอแนะแนวทางการทำงาน พัฒนาในส่วนที่ดี ปรับปรุงในส่วนที่ผิดพลาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เมื่อจบการฝึกงานครั้งนี้ไปแล้ว เราจะทำงานเป็นจริงๆ ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่จริงๆ
บทสรุป : อย่ากลัวการทำงาน จงกลัวการไม่มีงานทำดีกว่า
ระยะเวลา 3 เดือนกว่าที่บริษัทนี้ ให้อะไรมากกว่าคำว่า ‘ฝึกงาน’ เพราะทุกงาน เราใช้จริง ลูกค้าเห็นจริง ทุกคนเห็นจริง ทำอะไรได้แบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นความทุ่มเทตั้งใจ ตลอดจนความใส่ใจในการทำงาน อยากจะบอกว่าถ้าเรามีแพชชั่นกับมันจริงๆ เราจะอยู่กับมันได้เรื่อยๆครับ อย่างผมเอง ผมชอบเขียนมาตั้งแต่เด็ก ชอบการได้พูดคุย ชอบวงการไอที พอมาทำจริงก็ไม่เบื่อในสิ่งที่ทำ แม้บางอย่างอาจจะไม่เคยได้ลองทำมาก่อน หรือประสบการณ์ยังน้อย แต่ด้วยความช่วยเหลือจากทุกๆคน ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม ทุกอย่างช่วยได้จริงๆครับ โดยเฉพาะ Knowledge Sharing หรือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ของคนในบริษัท ที่มีเกือบทุกอาทิตย์ ทำให้ทั้งตัวผมเองได้นำสิ่งที่ตัวเองถนัดมาบอกต่อและนำแก่คนอื่น และผมก็ได้รับความรู้ สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยรู้มาก่อน จากเพื่อนๆ พี่ๆทุกคนที่มาแชร์กัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ผม ‘ไม่กลัว’ ที่จะทำงาน แต่ผมกลัวไม่ได้ทำงานที่ตัวเองรักมากกว่า เพราะมันดีต่อใจจริงๆครับ
ส่งท้าย : ฝากถึงน้องๆที่กำลังจะเข้ามาฝึก Content Creator รุ่นต่อไป
ไม่ว่าน้องจะชอบการเขียนแบบไหน สายวิชาการ ตลก หรือ สนุกสนาน น้องจะได้เขียนได้คิดคอนเทนต์ที่ครบรส ครบรูปแบบแน่นอน เพราะที่นี่มีเพจหลากหลายแนวที่ควบคุมดูแลอยู่ ถ้าน้องอยากจะคิดอยากจะเขียนให้ตรงแนวตัวเอง ก็บอกพี่ๆให้ช่วยเลือกให้ถูกทางได้ แต่ถ้าอยากจะท้าทายลองทำอะไรที่แหวกแนวไป ก็บอกได้เช่นกันครับ บริษัทพร้อมจะหาช่องทางการทำคอนเทนต์ที่หลากหลายให้กับน้องแน่นอน นอกจากนี้หากน้องต้องการพัฒนาทักษะในด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็น การทำกราฟิก การตัดต่อวิดีโอ หรือแม้กระทั่งภาษาคอมพิวเตอร์ อย่ารอช้า น้องเข้ามาที่นี่ น้องสามารถขอให้พี่ๆช่วยแนะนำและสอนได้เลย (ถ้าไปเรียนข้างนอกบอกเลยว่าราคาไม่เบานะ!!) ไม่ต้องกลัวการทำงานผิดพลาด ไม่มีใครไม่เคยพลาด เพราะการทำงานผิดพลาดนั้นย่อมดีกว่าการไม่ทำงานเลย พี่ๆที่นี่พร้อมจะช่วยเหลือน้องเสมอแน่นอนครับ ขอให้มีความสุขกับการทำงานกันนะครับ :)
