[INTERNSHIP] เมื่อผมมาฝึก Digital Creator (ใช่หรอ!!!)

Suphasit Sribuaai
Artisan Digital
Published in
3 min readJul 30, 2019

เมื่อตั้งใจมาฝึก Digital Marketing แต่ต้องมาฝึกเป็น Digital Creator….

เมื่อฤดูกาลแห่งการฝึกงานมาถึง ศึกการแย่งชิงที่ฝึกงานก็เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ผมจึงรีบหาบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ การทำการตลาดออนไลน์โดยทันที เพราะเรื่องการตลาดนั้นน่าสนใจมาก แต่ไม่มีโอกาสได้เรียนสักที ขอบอกก่อนว่า ผมเรียน สาขาวิชาสารสนเทศศึกษา เลือกเรียนด้าน IT เกี่ยวกับการทำฐานข้อมูลและเว็บไซต์ ซึ่งการเขียนโค้ดเป็นสิ่งที่ค่อนข้างปวดหัวมาก 5555 ก่อนมาฝึกงานก็พึ่งส่งงานที่เป็นเว็บไซต์ไปหนึ่งเว็บ ก็เลยขอพักจากการเขียนโค้ดก่อนละกัน

กระผมเด็กฝึกงานฝ่าย Digital Marketing ระยะเวลาฝึกงาน 2 เดือน

First Day

วันแรกผมก็จัดชุดนักศึกษาเต็มยศไปเลยครับจากคำแนะนำของอาจารย์ “วันแรกตัองใส่ชุดนักศึกษาไปนะ” พอมาถึงปรากฏว่าแต่ละคนคือแต่งตัวชิวมาก ๆ แต่การทำงานคือชิวยิ่งกว่า พอมาทำงานได้วันเดียวฝ่ายผมก็โดนย้ายไปทำงานอีกที่ทันที เนื่องจากคนเยอะจนที่นั่งไม่พอ (เต็มเพราะเรารึป่าวว้า) ที่ใหม่ก็ไม่ไกลจากบริษัทเลย เป็น co-working space (The Brick) เดินไปมาได้

วันแรกก็รับงานไปทำกันเลย ตกเย็นมาสายตาก็เริ่มมัว5555 เพราะต้องอ่านงานที่บริษัทเคยทำไปแล้วคือเยอะมาก เพื่อให้เราเข้าใจว่างานที่เราจะได้เจอจะเป็นลักษณะไหน และวิธีการทำจะเป็นยังไง การทำงานในช่วงแรกๆก็ไม่มีอะไรมากคือ ลองผิดลองถูกอย่างเดียว สามารถเข้าไปดูงานเก่า ๆ ที่ทางบริษัทเคยทำมาแล้วเป็นแนวทางได้ ถ้าไม่เข้าใจก็ถามพี่ ๆ หรือเด็กฝึกงานคนอื่นได้เลยแต่ละคนเป็นกันเองสุด

Free Time

เวลาว่างของเด็กฝึกงาน คือ การเล่นเกมคลายเครียด เกมที่เล่นก็คือ Apex Legends เล่นแล้วร้อนทั้งคอม ร้อนทั้งคน ไม่รู้คลายเครียดหรือทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิม

Work Challenges !

ถ้าอยากทำงาน ที่ Artisan Digital มีงานให้เลือกทำจนล้นมือแน่นอน ทั้งงานของบริษัท และงานที่ทางมหาลัยสั่งมา….

ฝึกงานฝ่าย Digital Marketing งานที่ได้ทำก็คือการคิดแผนการตลาดของลูกค้าจริง ๆ เลย สิ่งที่ผมได้ทำก็คือเราจะต้องคิดแผนการตลาดออกมา ให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ งานแรกที่ได้ทำคืองานเกี่ยวกับฮวงจุ้ย พอเห็นรายระเอียด คือ “ห้ะ” ทำกันอยู่ สอง สาม อาทิตย์กับเด็กฝึกงานอีกคน ก็คือพี่เอ็ม ตอนแรกก็มีเนมมาช่วยแต่มันก็ได้ไปทำงานอีกงาน กว่าจะผ่านก็แก้กันไปหลายรอบ T_T ก็เพราะว่า งงกันทั้งคู่ แต่ละคนก็ไม่รู้เรื่องฮวงจุ้ยเลย แต่เมื่อลูกค้าต้องการเราก็ต้องทำได้ จนถึงตอนนี้ฝึกงานเสร็จแล้ว ผมน่าจะดูฮวงจุ้ยเป็นแล้ว 555

นอกจากงานหลักแล้ว เด็กฝึกงานทุกคนยังจะได้เขียนบทความของตัวเองด้วย ถือว่าเป็นการฝึกการเขียนบทความครั้งแรกของผมเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ามาฝึกตำแหน่งไหนก็จะได้แต่ความรู้เรื่องนั้นนะ ยังได้รู้วิธีการเขียนบทความที่ดีอีกด้วย มีทั้ง Workshop เรื่องการทำ Marketing หรือว่าจะเป็นการทำ Graphic ก็มี ผมจึงขอเรียกการฝึกงานของผมว่า การฝึกงาน Digital Creator หรือว่าจะเป็น Marketing Designer ดี

คอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วย ไอคอนงาน

Workshop การทำ Mock-Up

มี “Ai” กับ “Premiere Pro” ด้วย

Best Friends

ในตอนที่ผมมาฝึกงานเป็นช่วงที่มีเด็กฝึกงานเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะตรงกับช่วงปิดเทอมของ ม.ช. พอดี มาดูเด็กฝึกงานฝ่ายชายกันแบบเร็ว ๆ ดีกว่า จากซ้ายไปขวา พี่เอ็ม ต๊ะ เนม เตอร์ แจ๊บ

พี่เอ็ม: เวลาทำงานคือหน้าเคร่งเครียดสุด ๆ แต่ปกติแล้วเขาก็จะล่องลอยหน่อย ๆ ทำงานด้วยแล้วไม่เครียด เน้นฮาอย่างเดียว

ต๊ะกับแจ๊บ: สองคนนี้มาพร้อมกันเห็นครั้งแรก คือนักยกนํ้าหนักรุ่น Heavy Weight ดี ๆ นี้เอง ไปไหนด้วยนี้ไม่ต้องกลัวใคร ใครขับรถกวนๆ อารมณ์ก็จะประมาณว่า “ก็มาดิคร้าบ” 5555

เนม: ผู้ที่รอบรู้ทุกด้าน ทั้งทางมืดและทางสว่าง คนที่รู้ราคาสินค้าเกือบจะทั้งหมดในตลาดทั้งถูกกฏหมาย หรือเถื่อนหนีภาษี (ล้อเล่น ๆ ) เนมคือคนที่มีความสามารถหลายด้านจริงๆ มีอะไรถามได้หมด

ฟาง: ผู้ไม่เคยแอบเล่นเกมเพราะ ตั้งใจทำงานมาก สามารถทำงานได้เร็วมาก เช่น หาข้อมูลบริษัทได้ หนึ่งร้อยบริษัทในหนึ่งวัน

น้องเตอร์: เตอร์ผู้รอบรู้เรื่องภาษาไทย เทพเตอร์ หรือมันเป็นลูกเทพ? ก็เพราะว่าเขาคนนี้เกิดมาเพื่อทำงานพิสูจน์อักษรให้กับ บริษัท Artisan Digital นั่นเอง ไม่ใช่ละ เขาคือเด็กฝึกฝ่าย Content Creator ที่รอบรู้เรื่องภาษาไทย

นิ้ง: คนที่มีคนมาหาบ่อยที่สุด เพราะต้องเอาของมาส่ง!!! นิ้งคือคนที่วาดรูปได้สวยมาก มันเป็นสาเหตุให้งานเยอะนะรู้ไหม 5555

อิ๋ง: เด็กฝึกฝ่าย Content Creator อีกคนที่ใช้เวลาการฝึกงานได้คุ้มค่าที่สุด เพราะว่าวันหยุดของอิ๋งไม่เคยหยุดเลย ไปเที่ยวหลายที่มาก บางที่คนเชียงใหม่ยังไม่เคยไปเลย

ไม่ได้รีวิวเด็กฝึกงานแบบละเอียด ก็เพราะมีคนรีวิวแบบละเอียด ๆ ไว้หมดแล้ว ไปตามอ่านกันได้ ที่ INTERNSHIP REVIEW มีครบหมดแล้ว

พี่ที่ดูแลเด็กฝึกงานฝ่าย Marketing จะมีพี่จิน พี่พิม พี่มีน และพี่แนท เรียกว่าเป็นหัวหน้าของแต่ละฝ่ายเลยทั้ง Marketing, Content Creator และ Graphic Designer เพราะแต่ละคนทำงานละเอียดมากๆ บอกก่อนว่าถ้าจะส่งงานต้องตรวจหลายรอบไม่งั้นมีแก้ !!!(เตือนแล้วนะ)

ถ้าทำร้ายใครก็ ขอโทษด้วยค้าบ ผมไม่มีรูปแล้ว5555

พี่จิน: ผู้คุมเด็กฝึกงาน!! ฟังดูโหด มาวันแรกก็เจอพี่จินก่อนเลย แต่พี่จินใจดีมาก เวลาแกรู้ว่าใครเล่นเกมละก็ แกจะพูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า “ที่เล่นเกมน่ะ ทำงานกันเสร็จแล้วหรอ” แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ออกเกมดิรออะไร

พี่พิมพ์: ใครที่จะเขียนบทความต้องรู้จัก ก่อนที่บทความจะขึ้นไปอยู่บน Medium ได้ต้องผ่านพี่พิมพ์ก่อนเลย เพราะพี่แกดูแลเรื่อง Content ทั้งหมด

พี่แนท: อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับ กราฟิกต้องพี่คนนี้เลยรู้หมดว่าจะหาอะไรได้จากที่ไหน อยากได้เว็บทำรูปดี ๆ มีหมด

พี่มีน: บาร์เทนเดอร์ของบริษัท เรื่องชงเหล้าต้องยกให้พี่เลย ยิ่งตอนเมา ๆ ป๊อกทีแก้วแทบแตก 5555

ผมขอเปรียบการทำงาน Digital Marketing ที่ อาร์ติซาน เป็นเหมือนการทำงานแบบ “Digital Creator” เพราะเราต้องสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาในรูปแบบดิจิทอล อาศัยความสามารถในหลายด้าน ทั้งการคิด Content การทำ Graphic และการคิดการตลาด Marketing การทำแผนการตลาดจำเป็นที่จะต้องนำความรู้ในหลากหลายด้านมารวมกันเพื่อให้เกิดงานที่ดี

สิ่งที่ได้จากการทำงาน Marketing ก็คือการพรีเซนต์งานให้กับลูกค้า ให้คิดเสมอว่าสิ่งที่เรานำเสนอให้ลูกค้าต้องทำให้เข้าใจได้ง่าย เราจะพูดให้คนที่ไม่เข้าใจยังไง จากการใช้สี รูปภาพ และตัวอักษรภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องห่วง ฝึกงานที่ อาร์ติซาน จะมีเรียนภาษาอังกฤษทุกเช้าวันจันทร์ เป็นการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านธุรกิจโดยเฉพาะเลย และมี Workshop เรื่องที่สำคัญด้วย ได้ความรู้กันไปแบบเต็ม ๆ การฝึกงานที่นี่ให้ประสบการณ์การทำงานจริงที่คุ้มค่ามาก ทำงานจริง ติดต่อกับลูกค้าจริง ๆ มีทั้งพัง ทั้งปัง อยู่ที่ความตั้งใจของเรา แต่จะมีพี่ ๆ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด สุดท้ายนี้ฝากถึงเด็กฝึกงานที่กำลังจะมาว่าฝึกกด Alt+Tap ให้ไว ๆ เลย สนุกแน่นอน

--

--