บอกต่อประสบการณ์ ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเป็น Executive/Personal Assistant?

Ployviviane Sitthikunpanit
Artisan Digital
Published in
5 min readAug 2, 2019

เด็กจบใหม่ ไร้ประสบการณ์ จะสามารถทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหารได้หรือไม่? ได้เรียนรู้อะไรจากตำแหน่งนี้บ้าง ที่นี่มีคำตอบ : )

สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาอ่านบล็อกของพลอยในวันนี้นะคะ ก่อนอื่นเลยพลอยต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบล็อกของพลอยน้า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยในการเขียนบล็อก รู้สึกเกร็งๆนิดหน่อย กลัวไม่มีคนเข้ามาอ่าน5555555 อาจจะงงๆ ว่าเขียนเกี่ยวกับอะไรตามหัวข้อบล็อกนี้ สั้นๆง่ายๆเลยคือ พลอยจะมาเล่าประสบการณ์สำหรับเด็กจบใหม่อย่างพลอย แล้วได้ทำงานใน ตำแหน่ง Executive Assistant ของบริษัท start-up ในเชียงใหม่ให้กับทุกคนค่ะ

What is an Executive Assistant? (ตำแหน่งงาน Executive Assistant คืออะไร?)

: ตำแหน่งนี้คือ ผู้ช่วยผู้บริหาร หรือเรียกอีกอย่างว่า ผู้ช่วยส่วนตัว(Personal Assistant) ของ CEO หรือ Managing Director ที่เป็นผู้บริหารบริษัทสูงสุดค่ะ

What is the different between Executive Assistant and Secretary? (ความแตกต่างระหว่างเลขานุการและผู้ช่วยผู้บริหารคืออะไร?)

: จริงๆความแตกต่างระหว่างตำแหน่งทั้ง 2 นี้มีไม่มาก เวลาพลอยได้ไปทำงานกับคนหลากหลาย ก็มักจะเจอคนทักว่า อ๋อ เลขาฯนั่นนี่ ทำให้รู้เลยว่าคนสับสนกันเยอะค่ะ คิดว่าเลขาคือผู้ช่วยเหมือนๆกันทั้งหมด แต่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แบบนั้นไปซะทุกอย่างนะคะ ความแตกต่างหลักๆเลยคือ ในการทำงานบางโครงการกับผู้บริหาร ผู้ช่วยจะมีส่วนร่วมในงานนั้นๆมากกว่าเลขานุการ จากที่ได้ทำการรีเสิร์ชมา “ หลายครั้งผู้ช่วยผู้บริหารจะทำงานร่วมกับโครงการกับนายจ้างของพวกเขาและมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในรายละเอียดของโครงการไม่ว่าจะเป็นการวิจัยหรืออย่างอื่น เลขานุการผู้บริหารมีแนวโน้มที่จะทำการวิจัยหรือทำงานร่วมกันตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนดเท่านั้นโดยไม่มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างอิสระ”

เอาล่ะค่า จะมาเริ่มเล่าประสบการณ์ในการทำงานในบริษัท Artisan Digital Asia แล้วน้า :)

ทุกอย่างเริ่มจาก พลอยไม่อยากเรียนจบแล้วอยู่บ้านเฉยๆค่ะ ไม่ค่อยชอบเวลาชีวิตสบายเกินไป แบบไม่ได้ goal 555 คือจริงๆทำได้ค่ะ แต่ทำได้แค่แปปเดียว ตัวพลอยเองเรียนจบก่อนเพื่อนๆคนอื่น คือหลักสูตรจบป.ตรี 3 ปีครึ่ง เลยมีเวลาค้นหาตัวเองก่อนเพื่อนคนอื่นๆอีก 1 เทอม(ประมาณ 6 เดือน) เราก็เลยลองหางานช่วงที่ใกล้จบ โดยเริ่มหางานจากเชียงใหม่และกรุงเทพไปพร้อมๆกัน

เหตุผลที่เลือกบริษัท Artisan Digital Asia ?

ขออนุญาติขายของแบบแกล้งๆ555 แนบลิงก์บริษัทนิดหน่อย ใครสนใจงานบริการด้านไหนเชิญทางนี้เลยค้า หรือจะเข้าไปดูเล่นๆ แอบส่งมาฝึกงาน /สมัครงานกันได้นะค้า

บอกตามตรงเลยว่า พอได้ยินชื่อบริษัทครั้งแรก คือ พลอยโนไอเดียเลยว่า คือบริษัทเกี่ยวกับอะไร? เราอยู่เชียงใหม่มานาน ไม่เคยได้ยินเลย อาจเป็นเพราะเป็น บริษัท Start-up ด้วย ในตอนนั้นพี่ตอย (CEO/ Managing Director ของบริษัท) ต้องการหาผู้ช่วยแบบเร่งด่วน ในความโชคดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักแนะนำให้ลอง ส่ง CV ของตัวเองส่งไปให้พี่ตอยดู ตอนนั้นอ่าน Job Discription ผ่านทาง Facebook แล้วเรารู้สึก ว้าวมาก! แบบงานอะไรเนี่ยดูทำหลายอย่างดี น่าสนุกดี มันดูท้าทาย อีกอย่างที่สำคัญเลยคือ พลอยพึ่งเรียนจบได้แค่ 1 เดือน ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองยังไม่ชัดเจนเลยว่าเราอยากทำงานต่อในสายงานด้านไหนกันแน่ พลอยเรียนจบจาก Economics มาก็แพลนกับตัวเองไว้ว่า

  • อยากรู้ตัวเองก่อนว่าความสามารถของเราที่มีทำอะไรได้บ้าง
  • ก่อนจะรู้ว่าตัวเองควรต่อยอดงานสายงานด้านไหน ควรเริ่มจากตัวเองก่อน ว่าเราถนัดอะไร จะได้ต่อยอดเส้นทางนั้นได้จริงๆรึเปล่า
  • สิ่งที่เราชอบและอยากจะเป็น vs สิ่งที่เราทำได้ดีและถนัด คืออะไร?

คำถามพวกนี้เป็นคำถามที่สำคัญมากที่พลอยถามตัวเองหลังจากจบทันที เพราะทั้งหมดนี้คือ เป็นแนวให้พลอยพอเห็นภาพการทำงานในอนาคตด้วย ออกจะซีเรียสหน่อยๆแต่ทั้งหมดที่เป็นแบบนี้เพราะว่า ทางบ้านให้อิสระในการตัดสินใจใช้ชีวิตเกือบทั้งหมด ทั้งเรื่องเรียน การใช้ชีวิต ทุกๆอย่างเราคุมตัวเองหมด พลอยเลยอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดสำหรับตัวเราเอง เลือกทางที่ดี แล้วอื่นๆก็จะดีตามมาเอง ก็เลยตัดสินใจเอาล่ะ ในเมื่อเรายังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ซักข้อเลย คงต้องลองลงมือทำอะไรซักอย่าง ไม่ลองไม่รู้ ก็เอาว้ะ! ลองซักตั้งดูละกัน

หลังจากที่ยื่น CV แล้ว ก็ได้รับเมลล์จากพี่ตอย ให้เรียกมาสัมภาษณ์งานเลย ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเป็นงานแรก ประหม่าหน่อยๆ แต่พอได้สัมภาษณ์งานกับพี่ตอย คือ ชิลมากๆ ที่พอสรุปคร่าวๆจากสัมภาษณ์คือ ทำงานร่วมกันได้ พี่ตอยเน้น Soft Skill ในการทำงานมากกว่า ก็รับทำงานเลย5555 วัดกันที่เริ่มทำงานเลย ว่าเราไหวหรือไม่ไหว ตอนนั้นก็ดีใจมาก สัมภาษณ์ปุ๊ปได้งานเลย เราก็แฮปปี้ !! แต่ก็เริ่มทำงานว่องไว สายฟ้าฟาดเหมือนกันค่า!! พอทำงานได้ไม่กี่วัน แล้วได้เงินเดือนหลักหมื่นเลย สำหรับพลอยในตอนนั้นก็รู้สึกดีมากเลย เป็นเงินก้อนแรกที่ตั้งใจทำงาน แบบไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ คือเป็นความรู้สึกภูมิใจที่พึ่งเคยมีเหมือนกัน แล้วพี่ตอยเองก็ค่อนข้างแฟร์มากๆ ตกลงกันตอนสัมภาษณ์งานว่ายังไง ก็ตามที่คุยกันไว้เลย ความแฟร์ๆของผู้บริหารคนนี้ด้วยค่ะ ที่พลอยรู้สึกเชื่อมั่นในตัวพี่ตอย + กับตอนนั้น รุ่นพี่ก็มาเชียร์ว่าคุณตอยเป็นคนเก่ง ถ้าได้ร่วมงานกับคุณตอย น้องพลอยจะได้อะไรเยอะเลยนะ น้องจะได้รู้ว่าทำงานกับคนเก่งๆมันเป็นยังไง หลังจากนั้นก็เริ่มร่วมงานกับพี่ตอยตั้งแต่นั้นมาเลย

The real experience is here! ทำงานที่นี่เป็นยังไงบ้าง?

Work Environment ในบริษัทเป็นกันเองมากๆ ด้วยความที่บริษัทมีพนักงานเกือบทั้งหมดอายุเฉลี่ยประมาณ 20 ปีกันเอง ด้วยความที่อายุไม่ได้ห่างกันมาก ทุกๆคนทำงานร่วมกันแบบพี่น้อง ค่อนข้างเป็นกันเอง แต่ก็ไม่ได้ติดเล่นจนเกินไปจนไม่ทำการทำงานนะคะ ตั้งแต่พลอยเริ่มเข้ามาทำงาน ก็ได้รู้จักพี่ๆหลายๆคนที่มีความสามารถมาก ด้วยความที่บริษัท Artisan Digital Asia เป็น Digital Agency มีการแบ่งงานกันทำ 3 ส่วนหลักๆ อย่าง Software Development / UX and UI Design and Consulting / Digital Marketing ก็เลยทำให้ได้เรียนรู้งานที่หลากหลายเลย รวมไปถึงพี่ๆในที่ทำงานบางคน อายุยังน้อยอยู่เลย แต่เป็น Project Manager แล้ว สามารถคุยงานกับลูกค้าได้เก่งมาก รวมไปถึงพนักงานคนอื่นๆ ที่เราสัมผัสได้คือ จากเด็กฝึกงานที่บริษัทรับเข้าฝึกงาน แล้วผันตัวมาเป็นพนักงานของบริษัท หลายๆคนมีการพัฒนาทักษะตัวเองตามที่ถนัดกัน ได้ทำงานกับโปรเจคใหญ่ๆหลายงานในอายุยังน้อยอยู่ การทำงานในบริษัทส่วนใหญ่นั้น พี่ตอยจะสอนให้ทุกคนเกิดการเรียนรู้และกล้าที่จะคุยกับลูกค้า ด้วยบริษัทเราให้บริการด้าน Consult ด้วย เพราะฉะนั้นการทำงานใน 1 week จะต้องได้ติดต่อกับลูกค้าตลอดเวลา หลากหลายเจ้าเลย ไม่ว่าจะเป็นจากในไทยเองหรือต่างประเทศ มีการประชุมทั้งรูปแบบ Meeting ปกติ และแบบ Conference Call เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีวินัยมาก ทำหน้าที่ของตัวเองให้ได้ดี สม่ำเสมอ พอเวลาคุยกับลูกค้า ก็ต้องขายงานได้ คุยงานได้ รู้ว่าตัวเองทำอะไร และรู้ว่าต้องเสนอยังไงหรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าจุดไหนได้บ้าง สำหรับพลอยแล้วคือสิ่งเหล่านี้เป็นข้อดีของ Culture บริษัทมากๆ การทำงานแบบ Not routine work จะช่วยสร้างให้ทุกๆคนมีความกระตือรือร้นในการทำงาน พนักงานส่วนใหญ่ก็จะเจอความท้าทายในแต่ละวันที่แตกต่างกันไป งานเยอะงานหนัก เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเลยล่ะค่า Challenging สุดๆไปเล้ยย 55555

Workplace Culture at Artisan Digital Asia .

ถึงแม้ว่า อาร์ติซาน จะยังเป็นบริษัท Start-up แต่พลอยมีความเชื่อมั่นว่า บริษัทนี้จะยังเติบโตได้อีกเรื่อยๆ เพราะเรามี Culture ที่มีจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ที่พนักงานหลายๆคนก็แฮปปี้กับสิ่งแวดล้อมการทำงานหลายๆอย่าง ต่อไปนี้เลยค่ะ

1. Daily- Standup

บริษัทเราจะแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ทีมตามที่เคยบอกไปข้างบนนะค้า ซึ่ง 3 ทีมนี้จะมีการ Standup กันทุกๆวัน ช่วงเวลาก็แล้วแต่ว่าแต่ละทีมสะดวกตั้งเมื่อไหร่ การทำ Standup คือการอัพเดทงานให้ฟังทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งระดับไหนก็ต้องอัพเดทให้ฟังทุกคนไม่มีข้อยกเว้น จัดตั้ง Standup ทุกวันเพื่อเห็น Process ของงาน และแต่ละทีมสามารถแพลนงานแต่ละโปรเจคได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

2. Townhall

จะเป็นเปิด Agenda ประชุมเรื่องทุกเรื่องที่สำคัญของบริษัท ตั้งแต่ปัญหาการทำงาน หาข้อเสนอแนะ รวมถึงจะมีการสอน Workshop สั้นๆสำหรับใครที่ต้องการโชว์ความรู้ด้านไหน ก็สามารถงัดความรู้ ความสามารถ โชว์เพื่อให้ความรู้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆได้ค่ะ

3. English Day

บริษัทเราจะมีการจัดสอน ภาษาอังกฤษแบบ Speaking English for Business ทุกๆวันจันทร์ของแต่ละสัปดาห์เลยค่ะ พลอยชอบมากเลย คือทุกคนต้องเข้าฝึกภาษา CEO จ้างครูภาษาอังกฤษมาเพื่อสอนคนในบริษัทโดยเฉพาะ จะสละเวลาทำงานช่วงเช้าไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อให้พนักงานทุกคน ตื่นตัวและเตรียมตัวสำหรับการคุยงานกับลูกค้าต่างชาติได้ค่ะ

4. Artisan Club

ในบริษัทเราคือมี Club หลายอย่างมากๆเว่อร์ไม่ให้ได้เบื่อกันเลย ทุกคนจะพยายามหากิจกรรมมาช่วยเสริมสร้างพลังในการทำงานทุกๆวีคเลย ตั้งแต่ กิจกรรมพวกกีฬา ชวนกันไป ตีแบตมินตัน , เตะบอล, หรือวิ่ง ไปตั้งแต่เปิดปาร์ตี้ดูหนังกัน ซึ่งในบางกิจกรรม ก็จะมี Sponsor ผู้ใหญ่ใจดี Of all times ของเราคือ พี่ตอย CEO นั่นเองจ้าา พี่ตอยน่ารักมาก จะคอยซัพพอร์ตกิจกรรมหลายๆอย่างตลอดเลย

5. Party at Artisan

บริษัทเราปาร์ตี้กันเก่งมากนะ แบบเปิดตี้เองเฉพาะกลุ่ม พากันไปสังสรรค์ หรือเปิดตี้ทั้งบริษัทก็มีหมดเลย ไม่ให้ได้เบื่อกันทุกๆเดือน ทำให้ทุกคนแฮปปี้ กินหมูย่าง ได้กินหม่าล่า อิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าเลยค่า ก็คือมาทำงานแปปเดียว น้ำหนักก็ขึ้นเรื่อยๆเลยก็มี55555 ช่วงที่ทำงานคือโชคดีมากๆ ได้ทำงานแบบ Work-offsite นอกสถานที่กัน เป็นการทำงานที่ตอบโจทย์มากๆเลยค้า

Working at Artisan Digital Asia as an Executive Assistant.

งานส่วนหลักๆของเราคือ Support พี่ตอยหลากหลายด้านตั้งแต่ทำงานเริ่มจากเอกสาร ไปจนถึงคุยงานกับ Partner บริษัทต่างๆทั้ง เอกชน หรือแม้แต่หน่วยงานจากรัฐ บางงานก็เป็นงานง่ายๆแต่ต้องมีความละเอียดรอบคอบเพราะสำหรับเราแล้วทุกๆงานต่อให้เป็นเล็กหรือใหญ่ ล้วนแต่มีความสำคัญกับพี่ตอยเอง ในหลายๆครั้งพี่ตอยก็ให้เราก็ได้ Research ในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงการคุยธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ยิ่งเราเข้าไปทำงานในส่วนนั้นมากๆ ยิ่งทำให้มีความรู้ ในการเรียนรู้ในส่วนการประกอบการธุรกิจมากยิ่งขึ้น เราว่าก็เป็นข้อดีของการเป็นผู้ช่วยพี่ตอยเลย ทำให้รู้หลายอย่างสำหรับการสร้างธุรกิจ หรือแม้แต่ความรู้ใหม่เกี่ยวกับธุรกิจที่หลากหลาย ได้เก็บไอเดียเยอะแยะมากมายระหว่างทำงานเลยค่ะ เรื่องบางอย่างที่เราไม่รู้ พี่ตอยก็คอยสอน เสนอแนะ ให้คำปรึกษาเราในทุกๆขั้นตอน ทำให้รู้สึกว่าสบายใจหรือกล้าที่จะถามตลอด ถ้าไม่เข้าใจในเรื่องอะไร ตั้งแต่เรื่องง่ายๆไปจนถึงเรื่องยากเลย แถมบางทีก็ได้ทำงานด้านการเงินบริษัทด้วยค่ะ

ได้ทำงานเปลี่ยนสถานที่บ่อยไหม ทำงานนอกเหนือเวลางานบ้างรึเปล่า?

งานที่เราทำค่อนข้างยืดหยุ่นมากๆเลย คือบางทีเราไม่ต้องเข้าทำงานออฟฟิสก็ได้ถ้าติดธุระหรือเรื่องสำคัญจริงๆ สามารถทำงานแบบ Remote ได้ แต่ต้องมีวินัยมาก คือไม่ต้องเข้าออฟฟิส แต่ก็ต้องมีงานส่ง ต้องมีการโต้ตอบกับพี่ตอยตลอดเลย ช่วงแรกๆที่ทำงาน ได้มีโอกาสบินไปทำงานที่กรุงเทพบ่อยมาก คือบินไปเรียนรู้การคุยงานกับลูกค้า กับพาร์ทเนอร์บริษัทต่างๆกับพี่ตอย สำหรับพลอยแล้วมันเหนื่อยมากในตอนนั้น แต่ก็คุ้มค่ามากๆ

ไฟล์ทที่ต้องเดินทางจากเชียงใหม่จะต้องเป็นไฟล์ทแรกตลอด เพราะฉะนั้นไม่เกินตี5 ก็ต้องถึงสนามบินแล้วเพื่อเช็คอิน สำหรับครั้งที่ท้าทายที่สุดของพลอยก็คงจะเป็นการเข้าร่วมงาน Corporate Innovation Summit 2019 ที่จัดขึ้นที่โรงแรม Centaragrand ที่ท้าทายมากเพราะว่า ช่วงนั้นยังปรับเวลาทำงานไม่ดีทำให้นอนดึก นอนประมาณ 4 ชั่วโมงแล้วก็ตื่นตี3 เตรียมตัวสนามบินเลย พอไปถึงกรุงเทพ ก็รีบตรงดิ่งแบกกระเป๋าไปที่ โรงแรม Centaragrand สถานที่จัดงานทันที ไม่ได้พักอะไรทั้งนั้น555555 หลังจากนั้นก็อยู่ในงานตลอด เราเข้าร่วมงานในฐานะ Exhibitor ตอนนั้นเราได้ไปเสนอโปรเจคหนึ่งของบริษัท ภายในงานจะเจอผู้คนหลากหลายมากเลย ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ รวมไปถึงนักลงทุนจาก Silicon Valley หรือแม้แต่ได้ทำความรู้จักกับคนตำแหน่งสูงๆจาก บริษัทที่มีชื่อเสียงของไทย เช่น SCG, PTT, VISA Thailand. พอได้สัมผัสคนทำงานระดับสูงๆแบบนั้นก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่เลย ลืมไปเลยว่าเหนื่อยค่ะ ทำให้รู้เลยว่า คนระดับตำแหน่งสูงๆเค้ามีวิธีการคุยงานยังไง เค้าปฏิบัติแบบไหน บางคำถามเค้าถามว่าเรารู้สึกว้าวมาก แบบ อ๋อ คนเก่งๆจะตั้งคำถามแบบนี้เอง ทำให้รู้สึกว่าเรายังไกลเค้ามากๆเลย ยิ่งตอนที่มีนักลงทุนจากต่างชาติสนใจ มาสอบถาม คุยกับเราเกี่ยวกับโปรเจคที่เรานำเสนอ ก็ยิ่งสนุกไปใหญ่เลย ตัวเราเองก็อยากจะขายโปรเจคให้ได้ อยากให้ทุกคนชื่นชอบ สนใจและติดต่อกลับมาและนี่ก็เป็นภาพบรรยากาศการทำงานของคร่าวๆค่ะ ไม่ได้ถ่ายไว้เยอะเพราะขายของอยู่5555555555

จัดภายใน Hall ของโรงแรม Centara Grand

งานที่ส่วนใหญ่ได้ไปแทนพี่ตอยในฐานะตัวแทนบริษัท เช่น งาน Meeting ต่างๆค่ะ จริงๆมันเหนื่อยหน่อยเพราะต้องใช้พลังงานมาก ในการที่ต้องสื่อสารกับคนเยอะๆ ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Chiangmai Entrepreneurship งานนี้ทำให้ได้รู้จักคนเยอะๆมากๆที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองมากแลกเปลี่ยนกัน มา Networking ไปด้วยกัน ยิ่งรู้จักคนมาก ยิ่งมีโอกาสสร้าง Branding ของเราไปในตัวด้วยค่ะ

อีกอย่างนึง คือได้ฝึกการใช้สกิล พูดภาษาอังกฤษด้วย เพราะคนที่ร่วมงานส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติที่มาเปิดธุรกิจในเชียงใหม่ สนุกเหมือนกันค่ะ ฝึกภาษาไปในตัวด้วย 5555 พลอยว่ายิ่งกว่าการพูดถามตอบทั่วไป คือการพูดคุยเชิงธุรกิจนี่แหละค่ะ ซึ่งข้อดีของการทำงานตรงนี้คือ ยิ่งไปงานเหล่านี้บ่อยครั้ง ก็ยิ่งสะสมทักษะและประสบการณ์ตัวเอง รู้จังหวะการพูดคุย การขาย การรับฟัง การดีลกับผู้คน มันเหมือนจะง่ายๆต่อเอาเข้าจริงๆทุกอย่างมันคือประสบการณ์ค่ะ ตอนนี้เก็บทักษะเหล่านี้ค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียวค่า

ข้อสรุปสำหรับพาร์ทนี้เลยคือ งานนอกเหนือเวลาก็จะมาแล้วแต่ช่วงค่ะ ช่วงไหนที่มีงานที่ต้องทำล่วงเวลาก็ต้องทำบ้างค่ะ แต่มันไม่ได้หนักหนาถึงขั้นทำไม่ได้ค่ะ ถือซะว่ามันเป็นช่วงทดสอบขีดความสามารถและความอดทนของตัวเองมากกว่าค่ะ55555 เหนื่อยก็นอน เดี๋ยวก็เริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟดีๆซักแก้วก็หายแล้วล่ะค่า

ตำแหน่งงานในความคิดของเราให้อะไรกับเราบ้าง ?

ตั้งแต่เริ่มงานในช่วงต้นปี จนมาถึงตอนนี้ก็เข้าเป็นเดือนที่ 6 แล้ว ถือว่าเวลาผ่านไปไวมากๆเลยสำหรับพลอย สำหรับงานแรกในชีวิตครั้งนี้ถือว่าไม่ได้แย่เลย แถมดีมากๆด้วยซ้ำ เงินเดือนที่เราได้รับค่อนข้างสูงสำหรับเด็กจบใหม่ในเชียงใหม่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ555555

จากเริ่มแรกที่พยายามหาเป้าหมายของตัวเอง ว่าเราจะไปทำงานสายงานด้านไหนต่อ แน่นอนว่างานครั้งแรกที่เราเลือก จะต้องเป็นงานที่ทำให้เราหาคำตอบนั้นให้ได้ไวที่สุด เพราะยิ่งหาคำตอบได้ไว ก็จะเป็นทุนต่อยอดในการใช้เวลาก้าวไปข้างหน้าได้ไวกว่าคนอื่นๆ ยิ่งเริ่มต้นไวยิ่งได้เปรียบ เพราะจะใช้เวลาที่เหลือเอาไปคิดด้านอื่นๆต่อยอดได้อีก

สำหรับงานในครั้งนี้ ทำให้พลอยหาตัวเองได้ไว คือ รู้ตัวเองไว ว่าสรุปแล้วเราควรจะไปทางไหน เราถนัดหรือเราไม่ถนัดอะไร เราชอบหรือไม่ชอบที่จะทำอะไร เพราะงานตำแหน่งนี้เป็นงานที่ทำครอบคลุมทั้งหมดก็ว่าได้ ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจในมือของ CEO ของเรา เพราะต้องทำงานที่หลากหลายมากในเวลาเดียวกัน รวมถึงการทำงานที่ support ทีมงานทั้ง 3 ทีมในบริษัท เป็นฝ่ายประสานงานทั้งภายในบริษัท หรือกับลูกค้า รวมไปถึง พาร์ทเนอร์ของบริษัท ในการทำงานที่หลากหลายมากในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้เรากลายเป็น Professionist ได้สำหรับการทำงานในตำแหน่งนี้ แต่สำหรับพลอยแล้วในเวลานี้และตอนนี้ การทำงานแบบ Generalist ตอบโจทย์พลอยที่สุดแล้ว ยิ่งเราจับงานที่หลากหลาย รู้แนวทางว่างานแต่ละด้านเป็นอย่างไร ได้ไอเดียการประกอบธุรกิจที่หลากหลาย ก็ถือว่าเป็นทุนและประสบการณ์ที่ดีที่เราไม่มีทางได้รับจากที่อื่นแน่นอน

ข้อดีของการทำงานบริษัท Start-up อย่างอาร์ติซาน คือการที่เราจะได้ใกล้ชิดกับเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการโดยตรง ได้สัมผัสความคิด แนวทางการตัดสินใจแบบผู้บริหาร ทักษะการคุยงานเชิงธุรกิจ การบริหารจัดการผู้คนในสถานประกอบการ มากไปกว่านั้น การได้เจอ CEO ที่มีความเป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์และ Always Moving Forward ยิ่งทำให้เราโชคดี เพราะการมีหัวหน้าที่ดี จะเป็นต้นแบบการทำงานให้เรา สามารถ Drive ให้เราพัฒนาตัวเองได้ไวยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ประสบการณ์ความรู้ ไอเดียใหม่ๆที่ได้จากการคุยธุรกิจ

พลอยได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงเทพ เพื่อร่วมคุยงานกับผู้บริหารของบริษัท เอ ไอ เอส(AIS) จำกัด มหาชน ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ไม่คิดว่าเราจะได้มีโอกาสไปนั่งร่วมผู้ใหญ่คุยงานกัน(ตอนนั้นคิดแค่นี้เลย) จากการคุยกันครั้งนั้นทำให้พลอยเกิดแรงบันดาลใจหลายอย่างเลย ตอนนั้นพูดขอบคุณพี่ตอยด้วยว่า ขอบคุณที่ให้มานั่งร่วมคุยงานด้วยและชอบมากๆ ทำให้เรียนรู้ว่าคนฉลาดระดับผู้บริหารเค้ามี Strategy ในการคิดค้น Marketing Strategy ยังไง? What is World Business is all about? คือประทับใจมากๆ จนอยากเก่งแบบนั้นบ้างเลย5555 Meeting ครั้งนั้นเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ได้แนวคิด ไอเดียการสร้างธุรกิจในแบบที่มหาลัยไม่เคยสอนเราเลยด้วยซ้ำ ยังประทับใจมาถึงทุกวันนี้เลยล่ะค่ะ

และแล้วก็มาถึง…. เดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายแล้ว ที่พลอยจะได้ทำงานในอาร์ติซานในฐานะผู้ช่วยผู้ประกอบการ(ผู้ช่วยพี่ตอยนั่นเอง อิอิ) รู้สึกขอบคุณช่วงเวลาและประสบการณ์ที่ได้อยู่ที่นี่ เพราะทุกๆอย่างที่ได้ทำในฐานะผู้ช่วย ทำให้เติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้ในการทำงานของพลอย

ซ้ายสุดคือแพตตี้เพื่อนที่ทำงานที่น่ารักของเรา, คนกลางคือพี่ตอย (CEO Artisan), คนขวาคือเราเองค่า
  1. สำหรับตัวเอง : พลอยได้ท้าทายความสามารถและขีดข้อจำกัดของตัวเองไปหลายด้านเหมือนกันค่ะ ปรับตัวเองให้เป็นคนมีวินัยมากขึ้น และสามารถจัดการและลำดับความสำคัญการทำงานได้ในเวลาที่กดดันหรือช่วงที่ Work load มากๆ เวลางานถาโถมปั๊งงง เข้ามาพร้อมกันๆ55555 สามารถรับมือได้ในทุกสถานการณ์ เพราะโปรเจคแต่ละงานที่ได้รับ งานก็จะแตกต่างกันทุกครั้ง บางทีอยู่ดีๆก็ได้เป็น Business Development แบบงงๆแต่ก็ท้าทายดีค่ะได้ฝึกตัวเองด้วย ชอบที่สุดคือการได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอด ทำให้พลอยพัฒนา skill ตัวเองด้านนี้อยู่เรื่อยๆ
  2. สำหรับพี่ตอย(CEO ที่ชื่นชมและเคารพ) : ต้องขอบคุณพี่ตอยมากๆที่เปิดโอกาสให้พลอยได้มาทำงานที่นี่ พี่ตอยให้คำปรึกษา และชี้แนะการทำงานตลอด ตั้งแต่เริ่มแรกที่พลอยยังทำอะไรไม่คล่องเลย พี่ตอยให้คำปรึกษาที่ดีตลอด และที่พลอยชื่นชมคือ พี่ตอยเป็นผู้นำที่ดี และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล สิ่งนี้จะนำพาให้บริษัทเติบโตไปข้างหน้าเรื่อยๆแน่นอนค่ะ หลักการความคิดของพี่ตอยในการที่จะ Invest in people ถือเป็นเรื่องที่พลอยประทับใจมาก มีน้อยมากที่ผู้บริหารจะเสียสละทั้งเงินและเวลา ในการพัฒนาพนักงานค่ะ ถือว่าพลอยโชคดีที่พี่ตอยให้โอกาสพลอยและทุกๆคนที่คิดอยากจะพัฒนาความสามารถของตัวเอง
  3. สำหรับทุกๆคนในอาร์ติซาน : พลอยขอบอกไว้เลยว่า ตอนแรกเริ่มทำงาน พลอยกลัวมาก เพราะพลอยแคร์เรื่อง Work Environment มากๆ การมาทำงานที่นี่ถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานที่ดีและมีความสุขจริงๆ พลอยเจอเพื่อนๆพี่ๆร่วมงานที่ดีมากๆ ทุกคนเป็นกันเองมากๆ สามารถถามหรือขอคำแนะนำได้เสมอ ทุกคนเปิดกว้างให้กันและกัน มีการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความรู้การทำงานตลอดเวลา และมีกิจกรรมมากมายที่ทำให้เราเป็นทีมเวิร์คกัน ได้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน
บรรยากาศการทำงานชั้น 1 ชั้นประจำของพลอยเอง ที่เห็นบนโต๊ะคือของกิน!! ใช่ะค่ะ บริษัทเราไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทุกคนไม่อดอยาก กินดีอยู่ดีตลอดค่ะ

สุดท้ายนี้สิ่งที่พลอยตระหนักได้จากการทำงานที่ผ่านมาว่า สำหรับเด็กจบใหม่ การหาเงินเดือนสูงๆหรือเร่งหางานโดยเน้นแค่เงินเดือนเป็นปัจจัยหลัก อาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

ควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร เป้าหมายที่สำคัญในชีวิตคืออะไร? อาจจะดูเวิ่นเว้อหน่อยๆ แต่มันคือความจริงค่ะ การที่เรา Set goal ที่ดีและถูกต้อง จะทำให้เราประหยัดเวลาชีวิตได้มากเลย อย่างในตอนนี้ เราได้หาคำตอบในสิ่งที่เราถามตัวเองเมื่อหลายเดือนก่อนได้ครบแล้ว จากตอนแรกที่แพลนว่าขอค้นหาตัวเองภายใน 1–2 ปี แต่เราใช้เวลาแค่ 6 เดือน เรารู้ว่าเราต้องการอะไร และต้องทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ เพราะการทำงานใน อาร์ติซาน ให้คำตอบเราหมดแล้ว ในตอนนั้นถ้าเลือกไปทำงานที่กรุงเทพ เราอาจจะยังหาตัวเองไม่เจอก็ได้555555

สำหรับเราแล้วประสบการณ์ระหว่างทางที่ได้ทำงาน, หัวหน้า ,เพื่อนร่วมงาน,งานที่ได้ทำ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเพิ่มประสบการณ์ชีวิตและเกิดการพัฒนาตัวเองได้ดีที่สุด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราค้นพบตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้ทำงานที่อาร์ติซานแห่งนี้ค่ะ

--

--