ประสบการณ์หลังจากเข้ามาสู่การ Trading Crypto ตลอด 3 เดือน

Ayuth Mangmesap
Ayuth’s Story
2 min readApr 14, 2021

--

Photo by Pierre Borthiry

TL;DR

  • Respect to the market —ใดใดก็ตามสามารถล้วนเกิดขึ้นในตลาดได้ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง อย่าคิดว่าตลาดจะเป็นเหมือน ATM ที่เข้าไปกดเงินแล้วออกมาเมื่อไรก็ได้
  • Trading Plan — ควรจะมีแผนไว้เสมอไม่ว่าจะเป็น แผนในการเข้า แผนในการออก
  • Risk Management — วางแผนเสมอสำหรับการเทรดในแต่ละครั้ง เมื่อแผนเป็นไปตามคาดหรือไม่เป็นไปตามคาดเราควรจะทำอย่างไร การหาความรู้ใส่ตัวก็เป็นการลดความเสี่ยงเหมือนกัน
  • Time Management — เลือก Time Frame ที่เหมาะสมกับเรา ถ้าเราไม่สามารถมีเวลามาเฝ้าหน้าจอได้ตลอดเวลา เช่น 4H, 8H, 1D

ส่วนตัวสนใจเรื่องการเงินการลงทุนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นกองทุนหรือหุ้นต่าง ๆ ซึ่ง ตลาด Crypto ในแง่ของการลงทุนก็ถือได้ว่ากำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ณ ขณะนี้ สิ่งนี้เองก็เริ่มเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาเรื่อง Technical Analysis การวิเคราะห์กราฟต่าง ๆ ก็เลยได้เข้ามาศึกษาเรื่องการวิเคราะห์และการเทรดอย่างหมกมุ่นทีเดียว และนี่คือประสบการณ์ไม่กี่เดือนที่ได้จากการลองเข้ามาเทรดในตลาด Crypto และอยากจะเล่าให้ฟังครับ

Respect to The Market

ในการเทรดในตลาด เราไม่สามารถมองตลาดเป็นเสมือนตู้ ATM ที่เราเดินเข้าไปแล้วสามารถกดเงินออกมาใช้เท่าไรก็ได้ที่ต้องการ สิ่งที่เราควรทำคือเราควรจะ Respect ตลาด และคิดเสมอว่าสิ่งใด ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นในตลาดได้ ฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องเตรียมตัวคือวางแผนไว้เสมอในกรณีที่ไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่คาดไว้

อย่าคิดว่าตลาดเสมือนตู้ ATM ที่เราสามารถกดเงินออกมาเท่าไรก็ได้ ตอนไหนก็ได้ แค่คิดก็ผิดแล้วครับ

Trading Plan

การเทรดในแต่ละครั้งเราจำเป็นจะต้องมีการวางแผนทุกครั้งไม่ใช่หลับหูหลับตาเข้าแล้วติดดอย หรือ Panic sell ในกรณีที่มันลงไปมาก ๆ แล้วรับไม่ได้กับเงินที่เสียไป เราควรวางแผนใน การเข้าซื้อ การออก ในกรณีที่สิ่งที่คาดการณ์ไว้เป็นไปตามที่คาดหรือไม่ได้เป็นไปตามที่คาด และสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ก็คือ Risk Management

สิ่งที่จะสามารถช่วยยืนยันแผนในการเทรดของเราได้คือการทำ Back Testing กับสิ่งที่เราจะเทรดว่าเป็นไปได้มากแค่ไหนและเปอร์เซ็นที่จะได้เป็นเท่าไรถ้าเราใช้แผนนี้กับข้อมูลที่มีในกราฟที่ผ่านมา สิ่งนี้เองจะทำให้เราเป็น Consistently Profitable Trader คือ การศึกษาและพัฒนาแผนของเราตลอดเวลานั่นเอง :)

Risk Management

สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้การวางแผนหรือสิ่งที่จะทำให้เราสามารถอยู่กับตลาดได้นานที่สุดก็คือ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เช่น ถ้าแผนที่เราวางไว้ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้เราจะสามารถเสียเงินได้มากสุดเท่าไร เช่น 10,000 บาท บางคนรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน บางคนอาจเสียได้ 500 1,000 2,000 บาทหรือมากกว่านั้น

ทั้งนี้ควรจะคิดด้วยว่าเงินแต่ละบาทที่เราลงไปจะสามารถมี Risk/Reward Ratio เท่าไร ลองนึกว่าเราลงเงินไป 10,000 บาท เจ้าเงิน 10,000 บาทที่เราเสี่ยงลงไปนี้สามารถทำกำไรให้เราได้เท่าไรและคุ้มค่ากับความเสี่ยงไหม เช่นลงไป 10,000 บาท เพื่อทำกำไรแค่ 500 บาท ในกรณีนี้หมายความว่าเราเสี่ยงเงิน 1 บาทเพื่อแลกกับเงิน 0.05 บาท ลองมองดูว่าคุ้มไหม ถ้าไม่แล้ว RR เท่าไรที่เราจะรับความเสี่ยงได้ก็ลองคำนวณกันดู

การหาความรู้ใส่ตัวก็เป็นการช่วยลด Risk เช่นกันนะครับ ฉะนั้นอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ Continuous Improvement ตลอดเวลา

Time Management

ตลาด Crypto จะไม่เหมือนกับตลาดหุ้นปกติเพราะตลาดจะเปิด 24/7 หมายความว่าเปิดตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งแตกต่างกับตลาดหุ้นที่เปิดตอนเช้า ๆ ตอนเย็น ๆ ก็จะปิด แน่นอนว่าเราไม่สามารถนั่งเฝ้าหน้าจอได้ทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมงหรอกครับ เราต้องมีเวลาทำงาน เวลาพักผ่อน

การบริหารเวลาก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ในกรณีที่เรามีงานประจำที่จะต้องทำและไม่สามารถเข้าหน้าจอได้ตลอดเวลา เราควรจะเลือก Time Frame ที่เหมาะสมกับตัวเรา เช่น 4H 8H 1D เป็นต้น ซึ่งหมายความว่าแท่งเทียนในแต่ละแท่งที่จะวาดขึ้นมาในกราฟก็จะวาดทุก ๆ 4H, 8H, 1D ทำให้เราเช็คด้วยความถี่ที่น้อยลงและเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น เช่น อ่านบทวิเคราะห์ของคนอื่น ศึกษาที่มาที่ไปของ indicator แต่ละตัวว่าเบื้องหลังคืออะไร หรือแม้กระทั่ง Back Testing ตัวแผนที่เรากำลังจะเทรด ทำให้ชีวิตดีขึ้นเยอะ

ส่วนตัวเคยบ้าลองเทรดที่ 1, 5, 15 นาทีแล้วแทบไม่ได้ทำอะไรหรือลุกออกจากจอเลยครับ หลังจากนั้นก็เลยไม่ไหวและกลับมาเล่น Time Frame ใหญ่ ๆ แล้วดูภาพรวมดีกว่า เพราะแท่งเทียนแต่ละแท่งก็เปรียบเสมือนร่องรอยการต่อสู้ระหว่างฝ่ายซื้อกับฝ่ายขาย บางทีเราอาจไม่จำเป็นต้องลงไปในสนามเอง รอเวลาที่เหมาะสมและลงข้างฝั่งที่ชนะจะทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า

แล้วเจอกันในบทความหน้าครับ … สวัสดี

--

--