2020 In Review

Ayuth Mangmesap
Ayuth’s Story
1 min readDec 31, 2020

--

วันนี้เป็นสุดท้ายของปี 2020 เลยอยากจะเขียนรีวิวเรื่องจริงตนเองในปีนี้ว่าได้ทำอะไรไปบ้างมีสิ่งใดที่ได้เรียนรู้มาตลอดทั้งปีในบล็อกนี้

ได้รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้น

ถ้ามองย้อนกลับไปดูตัวเองเมื่อปีก่อนเทียบกับตัวเองในปีนี้ เรียกได้ว่าเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของความคิด การมองโลกในแง่มุมที่หลากหลายมาก

เข้าใจถึงปัญหาแต่ละแบบว่ามีทั้งแก้ได้และแก้ไม่ได้ ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ก็ช่างมัน กลับมาโฟกัสปัญหาที่แก้ได้ดีกว่า

ได้รู้สึกว่าตัวเองแก่ลง

เนื่องจากในการทำงานค่อนข้างจะได้เจอและพูดคุยกับคนที่ไม่ได้เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันมากสักเท่าไรทำให้เราได้เห็นความคิดของคนในแต่ละวัยรวมถึงการมี empathy มากขึ้น มองโลกในแง่มุมของผู้อื่นมากขึ้นจากการฟังคนอื่นเยอะ ๆ

แต่ก็มีได้คุยได้อยู่กับน้อง ๆ ที่เข้ามาใหม่และน้องก็เรียกพี่(ก่อนหน้านี้เราเรียกแต่คนอื่นว่าพี่เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองแก่เท่าไร) ก็เลยทำให้ตัวเองรู้สึกแก่ 😭

ได้รู้สึกมีความสุขกับการได้สอน ได้ถ่ายทอดความรู้

ในส่วนของงานที่ทำได้มีการสอน การถ่ายทอดความรู้ การออกแบบครอส เรารู้สึกสนุกที่ได้นำความรู้ เทคนิคต่าง ๆ ที่เราได้เรียนมาถ่ายทอด ถึงแม้ว่าครอสที่เราต้องไปเรียนอาจต้องไปจ่ายเองเพื่ออยากรู้ว่าครอสที่มันมีมาตรฐาน มีคุณภาพเป็นอย่างไรและปรับเนื้อหาให้คนที่จะได้เข้าคลาสได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เข้าใจตัวแต่ Fundamentals ที่สำคัญทั้งหลาย ไม่ใช่แค่สักจะทำไปและไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเบื้องหลังมันทำงานอย่างไร หรือแค่ทำส่งส่งไปเท่านั้น
มีคำพูดหนึ่งของ Sir Isaac Newton ที่แสดงความนอบน้อมถ่อมตนไว้ว่า

"If I have seen further, it is by standing upon the shoulders of giants"

ถ้าผมสามารถมองเห็นได้ไกลนั่นแปลว่าผมกำลังยืนอยู่บนหลังยักษ์
คำว่ายักษ์ในที่นี้หมายถึงนักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อน ๆ ที่ทั้งมีความอดทน ความพยายาม บ้างก็เอาร่างกายตัวเองมาทดลองจนได้รับบาดเจ็บแม้กระทั่งเสียชีวิตก็มี เพื่อที่จะส่งต่อหรือไขข้อสงสัยให้แก่คนตัวเองหรือคนรุ่นหลัง
ในบริบทนี้ผมหมายความว่าสิ่งที่ผมได้อ่าน ได้เรียน ได้ฟังมา ทั้งนี้มิใช่เกิดจากตัวผมเพียงคนเดียวแต่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถได้ออกมาถ่ายทอดไม่ว่าจะเป็นบล็อก วีดีโอ conference หรือ Podcast ก็ตาม
ขอขอบคุณผู้คนเหล่านั้นมา ณ ที่นี้ด้วยครับ 🙏

ได้ทดลองสร้างนิสัยใหม่อย่างจริงจัง

ปีนี้ผมได้สร้างนิสัยอย่างหนึ่งคือ การตื่นเช้า และ การวิ่ง ซึ่งแต่ละอย่างได้มีผลในชีวิตค่อนข้างเยอะมาก

การตื่นเช้า

ตื่นเช้ารู้สึกว่ามีเวลาในชีวิตมากขึ้น มีเวลาเรียนสกิลใหม่ ๆ ได้ฟัง talk จากคนเก่ง ๆ ในตอนเช้าทุกทุกวัน บางคนก็พลังเหลือล้นจนทะลุออกจากคลิปก็มี บางคนฟังแล้วรู้สึกถึงพลังบวกที่เหลือล้น

การวิ่ง
ในการตื่นเช้าและบังคับตัวเองให้มาวิ่งทุกวันในช่วงแรกทำให้รู้สึกเหมือนได้ทำอะไรสักอย่างหนึ่งสำเร็จตั้งแต่เช้าและหลังจากนั้นคือกำไรทั้งสิ้น

ตอนแรกผมไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลยจนกระทั่งได้มาลองด้วยตัวเอง มันทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมากในการทำสิ่งต่าง ๆ ระหว่างวันเพราะในใจเราคิดว่าขนาดตื่นเช้ามาวิ่งเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรายังทำได้แล้วทำไมเราจะทำอย่างอื่นไม่ได้

ได้สุขภาพทึ่ดีขึ้น

สืบเนื่องจากการได้สร้างนิสัยใหม่คือการวิ่งทุกในเช้าทำให้แต่เดิมน้ำหนักกว่า 90 กิโล มาจนตอนนี้เหลือ 75 เรียกได้ว่าลดลงมากว่า 15 กิโล ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปค่อนข้างจะเยอะมากไม่ว่าจะเป็น ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก การใส่เสื้อผ้าไซส์ที่เล็กลงแต่เดิมที่ใส่ไซส์ XL จนลดมาเหลือ L และล่าสุดลอง S ก็พอใส่ได้เหมือนกัน 🥰 ทำให้เป็นโอกาสที่ดีในการโละเสื้อผ้าเดิม ๆ และถือโอกาสซื้อไซส์ใหม่ไปเลยตามที่พี่ท่านหนึ่งได้บอก

ได้มีมุมมองหลาหลายมากยิ่งขึ้น

สืบเนื่องจากนิสัยใหม่ที่ตื่นทำให้เรามีเวลามากขึ้นในแต่ละวันมีช่วงเช้าไม่ว่าในระหว่างการวิ่งหรือการตื่นเช้ามากขึ้นส่งผลให้เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้น

ในช่วงเวลาเหล่านั้นผมก็ฟัง Podcast, อ่านบทความต่าง, การดู conference ในเรื่องที่สนใจในแต่ละวันทุกเช้าในแต่ละวัน ทำให้เปิดมุมมองที่ค่อนข้างมากถ้าเทียบกับตัวเราก่อนหน้านี้

ทั้งนี้รวมถึงการได้คุยได้ดีเบทกับพี่ ๆ ในทีมในเรื่องหลากหลายแง่มุมโดยที่ไม่ได้ปิดกั้นในการแสดงความคิดเห็นหรือการตั้งคำถาม และขอบคุณที่มาเล่ามาแชร์ประสบการณ์ที่มีประโยชน์ให้ครับ 😊

ได้ลองทำอะไรมาสิ่งที่ไม่เคยลองมาก่อน

  • ได้ไว้ผมยาวมากก(ไว้จนถึงบ่า) เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ร้านตัดผมปิดตลอด 3 เดือน และก่อนหน้านั้นเราก็ไว้มาก่อนกว่า 2 เดือนทำให้ได้ถือโอกาสไว้ผมยาวดูเสียเลย(ความจริงแล้วไปหาช่างประจำที่ตัดผมมาตั้งแต่ตอนมัธยม ช่างบอกไว้ว่าไหน ๆ ก็ไว้ยาวมาขนาดนี้ละไว้ไปให้สุดไปเลย) แต่พอไว้กว่าครึ่งปีเราก็ไม่รู้ว่ามันจะไปจบที่ไหนก็เลยตัดเสียเลย(หลังจากตัดแล้วมีพี่ในทีมแนะนำว่าอย่ากลับไปไว้ทรงก่อนหน้านี้อีก 🤣)
  • ได้รู้ว่าการเป็นหนี้สำหรับเรานั้นมันเป็นความทุกข์เพราะทำให้ค่อนข้างขาดสภาพคล่องไปพอสมควรจึงได้มีพี่ Sakul Montha หนึ่งแนะนำมาเรื่องพีระมิดการเงิน(Financial Pyramid)

สิ่งที่อยากจะทำต่อไปในปีถัดไป

  • อยากจะนำความรู้ที่ได้จากการไปพูดคุย การอ่าน การเรียนมา หรือแม้แต่การทำไปถ่ายทอดต่อ อาจจะเป็นบทความหรือวีดีโอไว้ในสักช่องหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ความรู้ที่อยู่ในตัวเราหายหรือตายไปกับเรา
  • อยากสร้างนิสัยใหม่ เนื่องจากการได้สร้างนิสัยอย่างการวิ่ง การตื่นเช้า ทำให้เรามีความมั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างนิสัยอะไรขึ้นมาใหม่ก็ได้ เรียนรู้อะไรก็ได้ที่อยู่บนโลกนี้
  • อยากฟัง อยากอ่าน อยากเรียน สิ่งใหม่ให้เยอะมากกว่านี้
  • อยากลองเกิดความรู้สึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ล้มเหลว ผิดพลาด โง่เขลา ด้อย แพ้ ไม่คาดฝัน ถึงแม้ว่าความรู้สึกเหล่านี้ในชีวิตจริงมันจะไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปต้องการเท่าไรนักแต่เราก็อยากเรียนรู้ อยากเจ็บ อยากที่จะจัดการความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้

พบกันในปีหน้าครับ … สวัสดี

ป.ล. พิมพ์ในมือถือมันแย่มากเดี๋ยวค่อยกลับไปแก้ เรียบเรียงในคอมละกันนะครับ
ป.ล. 2 มีบล็อกหมักไว้เป็นกระบะเลยขอรีบไปเคลียก่อนนะครับ

--

--