6 เทคนิค Pitching สำหรับ Startup
การ Pitching ใน Startup คือการนำเสนอขายสินค้าและบริการของเรา โดยมีวัตถุประสงค์ในการ pitching แตกต่างกันไปตามวาระ ซึ่งในมุมของ Startup ที่มีเงินอยู่น้อยนิด ทีมงานก็น้อยบางทีก็พูดไม่เก่ง เรียบเรียงไม่รู้เรื่อง เพราะเวลาส่วนใหญ่ของ Startup คือการพัฒนา Product ให้ตอบโจทย์ users แล้วก็ต้องแบ่งเวลามาฝึก Pitching เพื่อให้ผู้ฟังสนใจไอเดีย หรือบริการของตัวเองอีก เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่การ Pitching เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
สื่อสารก็ต้องรู้เรื่อง และยังต้องดึงความสนใจจากผู้ฟังอีก
ผมได้มีโอกาสเรียนการ Pitching จากพี่ Billy — PACHARA YONGJIRANON ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาองค์กรและโค้ชด้านการนำเสนองาน จึงได้ขออนุญาตนำเทคนิคในการนำเสนอมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้นำไปพัฒนาการ Pitching กันนะครับ
6 เทคนิค Pitching สำหรับ Startup
- เปิดการนำเสนอ ทำให้คนตกใจ อาทิเช่น การเต้นแบบ Haka ของคน New Zealand แล้วคอยเข้าเรื่องสิ่งที่เราจะนำเสนอ
สิ่งที่ต้องควรระวังในการใช้หลักการนี้ คือ ต้องแสดงหรือโชว์สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เราจะนำเสนอด้วย
2. ใช้ Quote “….” หรือคำพูดสั้นๆจากคนที่มีเชื่อเสียง ซึ่งจะทำให้คนฟัง Aware ได้ว่ามันสำคัญ อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ เพราะคำพูดของคนที่มีชื่อเสียงมักจะมีนำ้หนักมากกว่าเราที่กำลังเดินตามฝันอยู่แน่นอน
3. ใช้ข้อเท็จจริง หรือ พาดหัวข่าว จะทำให้คนฟังตระหนักว่าสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารนั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งมันอาจจะเป็นปัญหาที่เรากำลังแก้อยู่ก็ได้
4. ไม่ควรใช้มุขในการเล่าปัญหา Startupส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการแก้ปัญหาอะไรซักอย่างหนึ่ง แต่การใช้มุขตลกในการเสนอถึงปัญหา ไม่เสี่ยงมาก ดังนั้นไม่ควรทำ
5. เปิดการนำเสนอด้วยคำถาม ซึ่งอาจจะคล้ายๆกับการโฆษณาบนทีวี เช่น คุณเคยมีปัญหา แบบนี้อยู่ใช่หรือไม่ … คุณเคยมั้ยที่ต้องเจอปัญหานี้ซ้ำๆ
แต่ไม่เคยถาม คำถามซ้ำๆ เพราะจะทำให้ผู้ฟังเริ่มรู้สึกเบื่อ
6. เล่าเรื่องสั้นๆ อาจจะยกตัวอย่างจากเคสตัวอย่างเกี่ยวกับธุรกิจเรา หรือยกตัวอย่างเคสของเราเองก็ได้ หากเราเคยทำมาก่อน
หลักการสำคัญของการ Pitching คือการเปิดการนำเสนอให้ผู้คนสนใจ ซึ่งจะทำให้ตลอดช่วงเวลาที่เรา pitching ผู้ฟังจะมีสมาธิอยู่กับเรา แล้วเราค่อยสรุปในตอนท้ายการ pitching ว่าเราพูดถึงเรื่องอะไรอีกทีก็ได้
หวังว่า 6 เทคนิคนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ นำไปปรับใช้ในการ pitching ของตัวเองไม่มากก็น้อยครับ
ขอบคุณพี่ Billy อีกครั้งครับ และโครงการ Startups in Residence (SIR) ที่ได้สร้างโอกาสให้เกิดการเรียนรู้สิ่งนี้ครับ
