Communication Tactic : การสื่อสารสำหรับเด็กยุคใหม่ เริ่มที่ความเข้าใจ ไม่ใช่คำพูด
บทความในซีรีย์ต่อเนื่องจาก 21st-Century Skill : ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ของ BASE Playhouse
ทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในโลกยุคปัจจุบันทุกคนล้วนต้องใช้ทักษะการสื่อสารทั้งสิ้น ไม่ว่าจะวัยเรียนหรือวัยทำงาน ไม่ว่าจะทำงานกลุ่มกับเพื่อน เจรจางานกับลูกค้า หรือสื่อสารกับเจ้านาย
ในแต่ละวันเราต้องพูดคุยกับผู้คนมากมายที่มีนิสัยต่างกัน ซึ่งทักษะการสื่อสารจะทำให้เราสามารถโดดเด่นกว่าใคร ถ้าเราเป็นคนที่สื่อสารได้ดี พูดรู้เรื่อง!
หลายคนอาจจะมองว่า ไม่เห็นยากเลย แค่พูดให้รู้เรื่อง
ว่าแต่ แน่ใจรึเปล่าน้า?
“เราพูดกันไม่รู้เรื่อง หรือ เราเข้าใจกันไม่มากพอ”
ลองคิดตามนะครับ…
ปัญหาหลักในการสื่อสารที่หลายคนต้องเคยเจอไม่มากก็น้อย หรืออาจจะเป็นทุกๆ คนที่ต้องเคยเจอแน่ๆ เพราะถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มากๆ หรืออาจจะไม่ใหญ่สำหรับทุกคน แต่สำหรับคนหมู่มากก็ถือว่าใหญ่ คือการอธิบายที่ค่อนข้างซับซ้อน มีหลายความหมาย หลายสาระ หลายประเด็น ที่ไม่รู้จะอธิบายให้กระชับ เข้าใจได้ง่ายได้อย่างไร เพื่อให้คนที่เราคุยด้วย หรือ คนที่เรากำลังสื่อสารอยู่รับฟังและสามารถเข้าใจในสิ่งที่พูดได้ รวมไปถึงการพูดที่วนไปวนมา จับใจความได้ยาก และเนื้อหาไม่ได้เดินหน้าไปไหนเลย แม้จะผ่านมา 6 บรรทัดแล้วก็ตาม…
ใช่ครับ! ในย่อหน้าด้านบนคือตัวอย่างหนึ่งของปัญหาการสื่อสารที่สำคัญที่สุด คือ “พูดไม่รู้เรื่อง”
หลายครั้ง เราพยายามเป็นคนที่พูดรู้เรื่องเลยพยายามใส่ข้อมูลและใช้คำพูดให้ครอบคลุมมากที่สุด ขยายความให้มากที่สุด จนลืมไปว่าใจความสำคัญจริงๆ คืออะไร
และก็มีอีกหลายครั้ง ที่เราพูดสั้นเกินไปตามความเข้าใจของเราจนทำให้ใจความสำคัญหายไป
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเมื่อไหร่เราควรพูดเยอะ พูดน้อย หรือเลือกใช้คำแบบไหน
คำตอบที่ตรงและครอบคลุมที่สุดสำหรับคำถามนี้คือ
“เราเข้าใจคนที่กำลังสื่อสารอยู่ด้วยมากแค่ไหน?”
“ผู้รับสาร” คือหัวใจหลักในการสื่อสาร
คนส่วนใหญ่เมื่อจะต้องพูดหรือต้องสื่อสารกับใคร เรามักจะทำสิ่งที่เราเคยชินกันมาตลอด โดยจะเริ่มจาก “จะพูดอะไรกับเขาดี” หรือ “เราจะพูดยังไงให้เขาเข้าใจ” นี่ถือเป็นกระบวนการที่เริ่มจากตัวเรา ซึ่งเป็น “ผู้ส่งสาร” ไม่ใช่ “ผู้รับสาร”
การเริ่มต้นด้วยกระบวนการสื่อสารที่เริ่มคิดจากตัวเรา ทำให้การสื่อสารเป็นการสื่อสารที่เราเข้าใจมันได้ดีที่สุด
แต่คนที่เราสื่อสารด้วยอาจจะไม่เข้าใจเราเลยก็ได้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือการสื่อสารข้าม Generation เช่น เด็ก-ผู้ใหญ่ หรือเด็ก Gen Y - เด็ก Gen Z เป็นต้น การคุยข้ามช่วงอายุที่มีปัจจัยในชีวิต รวมถึงทัศนคติต่างๆที่แตกต่างกัน ทำให้หากเริ่มคิดการสื่อสารจากตัวเรา อีกฝั่งก็ยากที่จะเข้าใจ
แล้วต้องเริ่มจากอะไร?
เรามาลองปรับแนวคิดกันใหม่ ต่อไปหากเราจะต้องทำการสื่อสารกับใคร หรือต้องพูดกับใครก็ตาม ให้เราคิดและทำความเข้าใจก่อน ว่าคนที่เรากำลังคุยอยู่เป็นใคร เป็นคนแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไร
สรุปง่ายๆ คือ
ให้เริ่มจาก “ผู้รับสาร” ก่อน!
การเริ่มคิดกระบวนการสื่อสารจากคนที่เราคุยด้วย ช่วยให้การสื่อสารดีขึ้นอย่างไร?
เมื่อเราเข้าใจคนที่เรากำลังคุยด้วย การสื่อสารที่ออกมาจะเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือ ผู้รับสารจะเข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อได้อย่างครบถ้วน เช่น เมื่อเราจำเป็นต้องอธิบายให้ผู้ใหญ่เข้าใจว่า “บอร์ดเกม” คืออะไร
1. เริ่มคิดการสื่อสารจากตัวเราเอง
ผู้ใหญ่ : บอร์ดเกมนี่มันคืออะไรเหรอ
เด็ก : เกมที่วัยรุ่นชอบเล่นกันไงครับ มีหลายแบบเลย ต้องใช้สมองคิดเยอะๆ มีทั้งเล่นเป็นทีม เล่นคนเดียว
ผู้ใหญ่ : แล้วมันเล่นยังไงเหรอ
เด็ก : ก็แล้วแต่เกมเลย มีทั้งทอยเต๋าสู้กัน พูด bluff หลอกกัน หรือแนววางแผน มีค่า status, ATK, DEF แล้วก็ไปสู้กับ Monster เพื่อเอาชนะก็มีครับ
ผู้ใหญ่ : …
2. เริ่มคิดการสื่อสารจากผู้รับสาร
ผู้ใหญ่ : บอร์ดเกมนี่มันคืออะไรเหรอ
เด็ก : เป็นเกมที่วัยรุ่นชอบเล่นกันอยู่ตอนนี้ครับ อาจจะมีทั้งเป็นแบบมีกระดานวางไว้ให้เล่น หรือไม่มีกระดานก็ได้ (แค่นี้น่าจะยังไม่เห็นภาพ ทำให้ผู้ใหญ่เห็นภาพยังไงดี) ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็ คล้ายๆ เกมเศรษฐี ที่เป็นกระดานแล้วก็มีเพื่อนหลายคนมาเล่นด้วยกันครับ
ผู้ใหญ่ : อ๋อ คล้ายๆ เกมเศรษฐีนี่เอง งั้นก็เล่นเหมือนกันเลยหรือเปล่า
เด็ก : ไม่ครับ มีหลายแบบเลย เล่นแบบคล้ายๆ เกมเศรษฐีก็มีครับ แต่อันนี้จะหลากหลายกว่า อาจจะไม่มีการทอยเต๋าก็ได้ครับ (สำหรับผู้ใหญ่คงต้องอธิบายให้ละเอียดหน่อย เพราะไม่คุ้นเคยกับบอร์ดเกมขนาดนั้น) มีทั้งแบบ ใบ้คำ ให้อีกฝั่งทายบ้าง มีแบบต้องปกปิดตัวเอง เพื่อไม่ให้อีกฝั่งรู้ หรือเป็นแบบวางแผน มีค่าพลังชีวิต ค่าพลังต่อสู้ แล้วเราก็ต้องมาคิดว่า จะเพิ่มหรือลดอย่างไรระหว่างที่เล่น เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายครับ แต่อันนี้แค่ส่วนเดียวนะครับ หลักๆ ของบอร์ดเกมก็คือ มีกฎกติกาของแต่ละเกมขึ้นมา แล้วแต่ละคนก็มานั่งเล่นรวมกัน เป็นเกมเพื่อฝึกการคิดนี่แหละครับ :)
ผู้ใหญ่ : โอ้ โอเค พอเข้าใจแล้ว!
นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ ว่าทำไม เราถึงแนะนำให้เราเริ่มต้นจากผู้รับสารหรือคนที่เราคุยด้วยก่อนนั่นเอง!
ถ้าเราเข้าใจกันมากพอ มีเหรอที่จะคุยกันไม่รู้เรื่อง คำถามคือเราได้ลองพยายามทำความเข้าใจอีกฝ่ายมากพอแล้วหรือยัง ;)
โอกาสดีๆ สำหรับเด็กรุ่นใหม่
บทความข้างต้นเป็นเพียงเนื้อหาเล็กๆ ส่วนหนึ่งของคอร์ส Communication Tactic ของ BASE Playhouse น้องๆ ม.ปลาย คนไหนที่กำลังมองหาสนามฝึกการสื่อสาร หรืออยากเรียนรู้และฝึกทักษะการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น ก็สามารถมา join คอร์สนี้กันได้เลย! แล้วมาปรับแนวคิดการสื่อสารกันใหม่ ว่าการสื่อสารเริ่มจากความเข้าใจ ไม่ใช่คำพูด! :)
มาถึงตรงนี้ถ้าใครอยากเป็นนักพูดคนต่อไป ไปดูรายละเอียดกันได้ ที่นี่เลย!
Reference
- Krogerus M. & Tschappeler R. (2018). The Communication Book: 44 Ideas for Better Conversations Every Day. Penguin UK
- Carnagie D. (1998). How to Win Friends & Influence People
- Sobel A. & Panas J. (2012). Power Questions: Build Relationships, Win New Business, and Influence Others. New jersey : John wiley & Sons, Inc.