ไขกุญแจความสำเร็จ BTS ในฐานะศิลปิน K-POP ที่ก้าวสู่ระดับโลก

Jib Zesto
Beachhead
Published in
2 min readMar 3, 2018

ถ้าให้พูดถึงวงดนตรี K-POP ของเกาหลี คงหนีไม่พ้นที่จะไม่พูดถึงวงบอยแบนด์ที่กำลังโด่งดังและสร้างกระแสไปทั่วโลกอย่างวง BTS หรือ Bangtan Boys พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมานี้ ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ต่างทำให้เหล่าแฟน ๆ ฝั่งตะวันตกก็ต่างชื่นชอบวงนี้ไม่ต่างจากศิลปินจากฝั่งอินเตอร์เลยทีเดียว

แม้ว่าวัฒนธรรม K-POP จะแพร่หลายมาถึงอเมริกามาก่อนที่ BTS จะก่อตั้งขึ้นมาเสียอีก อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องยากที่เพลงเกาหลีจะเข้าไปติดหูฝรั่งได้ ศิลปินเกาหลีมีความพยายามอย่างมากที่จะสร้างตัวตนขึ้นมาในตลาดเพลงอินเตอร์มากว่าทศวรรษแล้ว และ BTS ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยถึงความสำเร็จในการทำลายกำแพงภาษาและสื่องานดนตรีของพวกเขามาได้อย่างยอดเยี่ยม เรามาดูกันว่าผลงานของพวกเขาที่ทำให้ก้าวเข้าสู่ความเป็น International นั้นมีอะไรบ้าง

เริ่มต้นปี 2017 BTS ได้ออกอัลบั้ม “You Never Walk Alone” โดยปล่อยซิงเกิ้ลที่ชื่อ “Spring Day” เป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มนี้ โดย “Spring Day” เกือบจะได้ขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 ที่เป็นชาร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกาแล้วด้วย นอกจากนี้ พวกเขาทั้ง 7 คนยังมี ”Wing Tours” ซึ่งเป็นเวิร์ลทัวร์ที่จัดแสดงทั้งในนิวยอร์ค ชิคาโก และ ลอสแอนเจลิส ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พวกเขาได้รับรางวัล Top Social Artist award จาก Billboard Music Awards (ซึ่งพวกเขาได้นำบทพูดที่พวกเขาได้รับรางวัลดังกล่าว มาเป็นเพลง skit ของอัลบั้มล่าสุดของพวกเขาอีกด้วย) ในเวลาต่อมา BTS ก็ได้ปล่อย “Love Yourself: Her EP” ซึ่งก็เป็นอัลบั้มที่ทำลายทุกสถิติยอดขายอัลบั้มเกาหลีที่ผ่านมา และมีซิงเกิ้ลที่ติดชาร์ตอย่าง “DNA” และ “MIC Drop (Steve Aoki Remix)” อีกทั้งพวกเขายังถูกเชิญให้เข้าสัมภาษณ์ในรายการวาไรตี้ของอเมริกามากมายอย่าง The Ellen DeGeneres Show, Jimmy Kimmel Live!, The Late Late Show With James Corden, E! News และอื่น ๆ อีกมากมาย

หากจะให้พูดถึงต้นตอแห่งความสำเร็จของวง BTS คงต้องย้อนไปถึงศิลปินที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าสู่ตลาดอินเตอร์ก่อนหน้านี้อย่าง PSY, Girls’ Generation, Wonder Girls หรือ 2NE1 ที่มีบทบาทในรายการโทรทัศน์ของอเมริกา กับ EXO หรือ BIGBANG ที่มีคอนเสิร์ตใหญ่ในอเมริกา ซึ่ง BTS มีทั้งคอนเสิร์ตและรายการต่าง ๆ มากมาย ซึ่งนับเป็นการก้าวกระโดดที่ไกลมากสำหรับศิลปินที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ยังไม่ถึง 5 ปี

ในส่วนของแนวเพลง วง BTS และทีมของเขาได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพในระดับที่เหนือกว่า K-POP ทั่วไป “บังซีฮยอก” ประธานบริษัท BigHit Entertainment ของวง BTS ได้ให้สัมภาษณ์กับ Billboard ไว้ว่า สิ่งที่เด็ก ๆ วง BTS ได้ทำนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาสบายใจที่สุดและมันเป็นงานของพวกเขาที่พวกเขาต้องการจริง ๆ “ผมไม่เชื่อในการทำเพลงที่เป็นเนื้อร้องภาษาอังกฤษทั้งหมด แล้วปล่อยสู่ตลาดอินเตอร์อย่างที่ศิลปิน K-POP กลุ่มอื่นเคยทำหรอก” บังซีฮยอกกล่าว “เราควรสนใจในสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ K-POP แล้วค่อยเพิ่มคุณลักษณะหรือลูกเล่นที่ทำให้แฟน ๆ ชาวต่างชาติหลงไหลในเพลงของพวกเรามากขึ้นมากกว่า ผมว่านั่นเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดที่จะนำวัฒนธรรม K-POP เข้าสู่กระแสหลักของตลาดเพลงอินเตอร์นี้ได้”

แนวคิดดังกล่าวได้รับการพิสูจน์จากซึ่งที่ BTS ได้ทำมันในรอบปีที่แล้ว สังเกตได้จากการที่พวกเขาขึ้นรับรางวัลใน Billboard Music Awards พวกเขาก็พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีตอนขึ้นรับรางวัล รวมทั้งการพูดภาษาเกาหลีแม้ในรายการวาไรตี้ซึ่งหัวหน้าวง “Rap Monster” ก็อนุญาตให้เพื่อน ๆ ร่วมวงของเขาใช้ภาษาเกาหลีได้อย่างเต็มที่แม้จะเป็นรายการของอเมริกาก็ตาม จะเห็นได้ว่า ซึ่งที่ BTS ได้ทำ ไม่เคยละเลยความหมายของการเป็นศิลปิน “K-POP” อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะเน้นความเป็นเกาหลีของพวกเขาให้ออกมามากขึ้นด้วย

ตัวอย่างเช่นในงาน American Music Awards วง BTS ถูกถามจากนักข่าวหลายสำนักในการทำเพลงเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ซึ่งพวกเขากลับตอบกลับไปว่า พวกเขาจะยังของมุ่งไปที่ความสำเร็จจากการเป็นศิลเป็น “K-POP” ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน ๆ ของพวกเขารักกันมากกว่า นั่นทำให้ซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเขา “MIC Drop” ซึ่งเป็นเวอร์ชันรีมิกซ์ของ Steve Aoki ดีเจชื่อดังของฝั่งตะวันตก มีการเพิ่มเนื้อแร็ปของแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Desiigner แต่อย่างไรก็ตามเนื้อเพลงที่เป็นภาษาเกาหลียังคงอยู่ในเพลงต้นฉบับของพวกเขาและ ในมิวสิควิดิโอของพวกเขาด้วยเช่นกัน

BTS และ บังซีฮยอกผู้เป็นผู้จัดการวงของพวกเขามองว่าการเซ็นสัญญาในค่ายเพลงอเมริกาและออกเพลงภาษาอังกฤษนั้้นเป็นเหมือน “นักร้องเอเชียที่เปิดตัวในตลาดเพลงอินเตอร์” ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาไม่เหลือความเป็น “K-POP” อีกต่อไป พวกเขาต่างมีความภาคภูมิใจในรากเหง้าของความเป็น K-POP และรวมทั้งศิลปินเกาหลีที่เป็นรากฐานของความสำเร็จของพวกเขาในวันนี้ด้วยเช่นกัน

ในปี 2017 นับเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ BTS โดย Billboard ได้เปิดเผยยอดขายอัลบั้มของพวกเขา ตัวเพลงที่มียอดผู้ฟังถล่มทลาย รวมทั้งการปรากฏตัวในรายการ ทำให้ BTS กลายเป็นศิลปินแห่งปีอันดับ 10 ของอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาและทีมงานกำลังเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่หลากหลายด้วยงานของพวกเขา และกลายเป็นรากฐานของความสำเร็จที่ เหล่าเซเลบฯ ได้วาดฝันไว้ ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่พวกเขามุ่งเน้นไปที่ความเป็นเอกลักษณ์ของวง มากกว่าการพยายามทำให้เหมือนสิ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ซึ่งอย่างว่า มันก็คงไม่ใช่เพลงเกาหลีอีกต่อไป

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จนถึงขณะนี้ในอเมริกาก็ยังไม่มีการรับรองศิลปินเกาหลีหรือกระทั่งศิลปินเอเชียอย่างแพร่หลาย แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ใคร ๆ จะไม่สนใจในความเป็นเอเชียหรืองานที่พวกเขาได้สร้างขึ้น BTS ในปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการระลึกถึงสิ่งที่เป็นรากฐานของตัวเองอย่าง “K-POP” ก็สามารถสร้างความสำเร็จในระดับโลกที่แม้แต่พวกเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน BTS ได้กลายเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในความสำเร็จของพวกเขา และแน่นอนว่ารวมทั้งวงการ “K-POP” ในปี 2018 ด้วยเข่นกัน

Beachhead มองว่าการที่ BTS ประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้เป็นเพราะแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์แบบเกาหลีและเสน่ห์ที่ชนหลงใหลของเด็ก ๆ ทั้ง 7 คน อีกทั้งความสามารถในการสร้างสรรค์เพลงที่มากมาย ความรักในตัว BTS ของเหล่าแฟนคลับ (ที่ถูกเรียกว่า ARMY) อย่างเหนียวแน่น ทำให้ BTS กลายเป็นวงดนตรีเอเชียเพียงไม่กี่วงที่โดดเด่นในระดับโลกได้ ต่อไปนี้เราอาจจะได้เห็นงานเพลงของพวกเขาอีกมาก รวมทั้งการร่วมงานกับศิลปินอินเตอร์คนอื่น ๆ จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าท้ายที่สุดแล้ว BTS จะนำพา K-POP ไปในทิศทางใด

อ้างอิง Fuse

--

--