ถ้าวันหนึ่ง คุณมีแค่ Crypto Wallet คุณจะอยู่ได้หรือไม่
ถ้าวันหนึ่งคุณออกมาทำงานที่ออฟฟิสแล้วระหว่างทางคุณพบว่าได้ลืมกระเป๋าเงินเอาไว้ที่บ้าน ซึ่งจากระยะทางที่คุณอยู่ตอนนี้ ไม่สามารถกลับไปบ้านเพื่อไปเอากระเป๋าเงินที่บ้านได้ทัน และสิ่งที่คุณมีตอนนี้มีแค่โทรศัพท์มือถือที่ชาร์จมา 100% เท่านั้น
หลายคนอาจจะคิดว่า ก็ใช้ QR code ผ่าน Banking Application ได้อยู่แล้วหนิ แต่พระเจ้าก็จะเพิ่มความโชคร้ายให้กับคุณเพื่อเป็นแบบทดสอบชีวิตโดยการที่พระเจ้าบอกคุณว่า โทรศัพท์มือถือที่คุณหยิบมาเป็นเครื่องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งแกะกล่องเมื่อวาน และยังไม่ได้ทำการย้าย Banking Application ต่างๆ มาที่เครื่องใหม่นี้ด้วย ทำให้ในมือถือเครื่องใหม่นี้ของคุณมีเพียงความสามารถในการ โทรเข้า - ออก Internet และ Application ของ Crypto exchange เท่านั้น นอกจากนี้ Cryptocurrency ที่อยู่ใน Crypto Wallet เป็นเพียงสิ่งเดียวที่คุณมีเพื่อใช้ในการใช้จ่ายระหว่างวัน
พอถึงจุดนี้หลาย ๆ คนอีกแหละ ก็อาจจะคิดอีกว่ามีก็มีวิธีอื่นอีกเยอะแยะนะที่จะเอาชีวิตรอดได้โดยที่เราไม่ต้องใช้ Cryptocurrency ก็ได้นะ ใช่ครับ คุณคิดถูก แต่ถึงสถานการณ์อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่เอาเป็นว่า โจทย์ของคุณมีแค่ต้องใช้ Cryptocurrency ในการเอาชีวิตรอดวันนี้เท่านั้น
8.30 — Challenge ที่ 1 จากปากซอยไปออฟฟิส
หากหน้าปากซอยคุณมีรถไฟฟ้า ซึ่งปกติแล้วคุณจะจ่ายผ่านบัตรรถไฟฟ้าที่อยู่ที่กระเป๋าเงิน แต่วันนี้ไม่มีบัตรรถไฟฟ้า และจ่ายด้วย QR Payment ก็ไม่ได้
คุณนึกถึงข่าวที่อ่านเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้คุณรู้สึกยังพอมีหวังเลยคิดว่าจะลองขึ้นไปดูว่ามันทำได้จริงหรือยัง เนื่องจากข่าวที่ออกบอกว่าจะ D Day ตั้งแต่วันที่ 14 กุมพา ที่ผ่านมา
หลังจากได้สอบถามทางพนักงานแล้วพบว่า มันมีวิธีที่จะทำได้แต่ไม่ได้จ่ายได้ตรงๆเลยนะ โดยเจ้าหน้าที่ได้อธิบายวิธีดังนี้
- ต้องโอน JFIN ที่อยู่ใน Crypto Wallet ของ Exchange หรือที่เรียกว่า Trading wallet ไปยัง wallet ของ JFIN บน J.ID Application (มีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท) โดยก่อนที่จะโอนไปต้องผ่านการยืนยันตัวตน (KYC) บน Application ก่อน
- หลังจากโอนเหรียญมาอยู่บน Trading Wallet แล้วสามารถ Redeem Voucher สำหรับ Raabit Reward ได้ด้วยเหรียญ JFIN
- หลังจากนั้นต้องมี Rabbit Reward Application แล้วเอา Voucher Code ที่ได้รับมาแลกเป็น Rabbit Reward
- เอา Rabbit Reward มาแลกเป็น Voucher สำหรับการเดินทางโดย 1 เที่ยวอยู่ที่ 250 Points หลังจากนั้นก็เอา Voucher การเดินทางที่ได้ไป scan ที่ตรงทางเข้า BTS ได้เลย (แต่ตรงนี้มี condition ว่า Rabbit Reward Application นี้ต้องมีการเอา Rabbit Card มาลงทะเบียนเอาไว้แล้วด้วย)
โอเคอ่านจบแล้ว สตั้นไปสักพึงนึง จริงๆมันมีรายละเอียดย่อยๆอีก แต่ไม่สามารถจะจำได้หมดเพราะคิดว่าให้ทำทั้งหมดนี้ตอนนี้เลยน่าจะไปทำงานสายแน่นอน แต่ก็เปน option ที่ดี เก็บเอาไว้ในคราวหน้าละกันนะ วันนี้ยังไม่พร้อม
ณ จุดนี้สีหน้าคุณดูสิ้นหวัง พนักงานจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้โดย offer ที่ช่วยออกค่ารถไฟฟ้า (ขาไปและขากลับ)ให้ก่อนแล้วให้คุณเอามาคืนให้ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากไม่มีทางเลือกคุณจึงยอมรับความช่วยเหลือ และ สัญญาว่าจะเอามาคืนให้ในวันพรุ่งนี้
สรุป Challenge 1 Failed: ใช้ Crypto จ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ แต่ไม่ง่าย ใช้หลายขั้นตอน และต้องเตรียมตัวมาล่วงหน้า
คุณเดินทางถึงออฟฟิสทันเวลาพอดี 9.30 แต่ก่อนที่จะเริ่มงานคุณรู้สึกอยากทานกาแฟสักหน่อยให้รู้สึกตื่นตัวพร้อมรับการงานที่จะต้องทำในวันนี้
9.45 — Challenge ที่ 2 ซื้อกาแฟ
ปกติคุณก็จะซื้อร้านอะไรก็ได้แถวๆ ออฟฟิส แต่เนื่องจากตอนนี้คุณมีแต่เหรียญ Crypto เลยต้องเลือกมาหน่อย ซึ่งระหว่างลงลิฟท์มาคุณ google ดูไวๆ ก็พบทางเลือกดังนี้
ร้านกาแฟ Inthanin
ร้านอินทนินเปิดรับการจ่ายด้วยเหรียญ Bitcoin, Ethereum และ Tether โดยชำระผ่าน Bitazza เท่านั้น
ตู้เต่าบิน
อันนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยวิธีคือต้องมี JFIN บน J.ID Application แล้วแลก Voucher ของเต่าบิน จริงๆแล้วก็อาจจะไม่ได้ยากอะไรมากแค่ต้องเตรียมตัวมาก่อนเหมือนกับตอนที่จะใช้แลกเที่ยงรถไฟฟ้า เลยคงต้องเก็บเอาไว้ก่อน
สรุป Challenge 2 Success: ใช้ Crypto จ่ายค่ากาแฟได้ แต่ทางเลือกยังมีจำกัด เพราะทางอินทนิลยังรับการชำระจากแค่บาง Crypto Wallet เท่านั้น
12.30 — Challenge ที่ 3 ซื้อข้าวกลางวัน
หลังจากผ่านการประชุมช่วงเช้าและได้ตอบข้อความต่างๆ แล้วก็ถึงเวลาเที่ยงกว่า ตอนนี้คุณก็หิวแล้ว คงจะต้องหาอะไรทาน เพื่อนๆ คุณบอกว่าเดี๋ยวจะออกไปทานร้านตามสั่งแถวๆ ออฟฟิสแต่คุณไม่ได้มีเงินสดเลยคงไม่สะดวกเลยให้เพื่อนๆเค้าไปกันก่อนเลย เอาหล่ะเริ่ม Challenge อันต่อไปกัน
สำหรับกลางวันนี้โดยปกติแล้วคุณจะสั่งอาหารผ่าน Food Delivery Application แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าไหนยอมรับการชำระด้วยเหรียญ Crypto เลย หรือการแลก Voucher เพื่อมาจ่ายเองก็ตามดังนั้นต้องหาทางเลือกอื่น
จากการ google หาร้านก็เจออยู่บ้าน เช่นข่าวที่ Pizza Hut รับ Crypto แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้กับประเทศไทย มีร้าน Cafe ร้านชาบูที่เปิดรับด้วยแต่ก็ดูไกลจากพื้นที่ๆทำงานอยู่คงไปไม่ได้ แต่ระหว่างนั้นเหลือบไปเห็นป้าย “Bitcoin Accepted Here”
ซึ่งเมื่อเงยหน้ามาดูก็พบว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกช้ินปลาลิ้วเหล่าโหงว ที่ประกาศว่าสามารถจ่ายค่าอาหารด้วย Bitcoin ได้
ก็ถ้าเค้าจะเปิดรับเหรียญ เราก็คงจะได้ทานที่ร้านนี้แล้วหล่ะ หลังจากทานเสร็จมีความสะดุดในการชำระบ้างเนื่องจากพนักงาน และ คุณเองก็ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการจ่ายเงินแบบนี้เท่าไรแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี
สรุป Challenge 3 Success: ใช้ Crypto จ่ายค่าอาหารได้ แต่ก็ยังมีร้านให้เลือกไม่มาก ดูเหมือนร้านอาหารยังไม่ค่อยให้การตอบรับกับการรับชำระวิธีนี้เท่าไร
19.00 — Challenge ที่ 4 ร้านอาหารสำหรับสังสรรค์ตอนเย็น
คุณกลับมาที่ออฟฟิสเพื่อทำงานต่อในช่วงบ่าย ซึ่งก็เป็นการประชุมกันในทีม เพื่อวางแผน project และ หารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานซึ่งการได้เจอกันแบบตัวเป็นๆแบบนี้ คุณรู้สึกว่ามัน productive มากขึ้น และรุ้สึกสึกสนุกกับงานเพิ่มขึ้นหลายเท่า เทียบกับการที่ได้เจอกันแค่เพียงผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
เพื่อนคุณก็ได้เสนอขึ้นว่าเย็นนี้ทีมเราควรจะไปทานข้าวด้วยกัน เพราะก็ไม่ได้เจอกันมานาน มีหลายเรื่องที่อยากจะคุย update เล่นกัน เอาให้คุ้มที่ได้ออกมาจากบ้านทั้งที
จริงๆวันนี้ตอนแรกคิดว่าจะเป็นวันที่ยากลำบาก เนื่องจากไม่ได้เอาทั้งกระเป๋าเงิน และ ไม่มี mobile banking application แต่เอาจริงๆแล้วคุณรู้สึกสนุกมาก เพราะได้ลองอะไรใหม่ๆ ดังนั้น Challenge ที่ 4 วันนี้คุณก็คิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป “Challenge Accept”
คุณก็ Google เหมือนเคย และก็เจอว่า Bitkub มีการสรุปร้านอาหารที่รับชำระด้วย Cryptocurrency ไว้ด้วย โดยคุณลอง scan ดูทั้ง 3 ร้านแล้ว คิดว่าร้านแรกคือ Eat Me น่าจะเป็น choice ที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มเพื่อนของคุณที่ต้องการ ร้านที่นั่งคุยกันได้อย่างเต็มที่ และมีเครื่องดื่มให้ enjoy ด้วย
คุณมาที่ร้าน Eat me และกลุ่มเพื่อนคุณก็ชื่นชมในการเลือกร้านของคุณเพราะ Bar ของเค้าดีมาก มีเครื่องดื่มหลากหลาย รวมถึงบรรยากาศร้านที่ดีมากด้วย ซึ่งคุณก็ใช้เวลาที่นี่สักพักนึง พูดคุยกับเพื่อนก่อนที่จะถึงเวลาสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่มแล้ว และคุณก็คงจะต้องเดินทางกลับให้ทันรถไฟฟ้า แม้อยากจะอยู่ต่อก็ตาม
สรุป Challenge 4 Success: ใช้ Crypto จ่ายค่าอาหารในร้านอาหารที่บรรยากาศดีๆ ได้ ค่อนข้างจะเกินความคาดหมายเลยทีเดียว
ระหว่างที่คุณกำลังนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน คุณสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและคิดว่าจริงๆแล้วการใช้ชีวิตโดยที่มีแค่ Crypto Wallet อย่างเดียวก็เป็นไปได้ แต่อาจจะยังไม่ได้สะดวกมากนัก และก็คิดว่าการชำระเงินแบบนี้น่าจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลวิจัยที่บอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศต้นๆของโลกที่ประชากรมีการซื้อเหรียญ Crypto เก็บไว้ และให้ความสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก โดยสิ่งนี้อาจจะเปรียบเทียบได้เหมือนยุคแรกที่เราเริ่มมีการใช้งาน QR Code Payment ซึ่งตอนแรกอาจจะยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อมีคนใช้งานมากขึ้นร้านค้าต่างๆ ก็ยินดีที่จะปรับตัวมารองรับการจ่าย ทำให้เดี๋ยวนี้คุณแทบจะไม่ต้องพกเงินสดติดตัวกันอีกแล้ว
สรุป 1 day challenge นี้ถือว่าประสบความสำเร็จแม้จะพลาดเรื่องการเดินทางไปในตอนเช้า และ คุณต้องไม่ลืมที่จะเอาเงินไปคืนให้กับพนักงานที่บนรถไฟฟ้าที่เค้าให้คุณยืมเงินมาในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกในตอนต้น เรื่องนี้อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า Cryptocurrency เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้ได้ในชีวิตจริง และร้านค้าหลาย ๆ ร้าน เริ่มมีการเปิดรับการจ่าย และเห็นความเป็นไปได้ของการเติบโตในอนาคตมากขึ้น
