บันทึก(ไม่)ลับฉบับเด็กฝึกงาน ที่ Bitkub.com

P P
Bitkub.com
Published in
2 min readAug 8, 2018

ก่อนอื่นเลยอยากขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้โอกาสผู้เขียนได้มาฝึกงานที่บริษัท Bitkub นะคะ บริษัทที่ทำเว็บ cryptocurrency exchange (เว็บแลกเปลี่ยนที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นคริปโตเคอเรนซี่)

เมื่อ Jack Ma ลิขิตให้ฝึกที่ Bitkub

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า Jack Ma มาเข้าฝันผู้เขียนนะคะ ย้อนเวลาไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ก่อนที่จะได้เริ่มฝึกงาน ตอนนั้นผู้เขียนลังเลว่าจะเลือกฝึกงานที่ไหนดีระหว่างบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็กเพราะโชคดีที่บริษัทที่ติดต่อไป ต่างก็ให้โอกาสเปิดรับเรา นั่งไล่ข้อดีข้อเสีย ปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆ ก็ยังคิดไม่ตกเพราะมองไม่ออกว่าต้องคิดถึงอะไรบ้าง ตอนที่เลือกมหาลัยมียังพอมี ranking มหาลัยเป็นไกด์แต่บริษัทไม่มี ranking นี่นา

ประจวบเหมาะที่ไปเจอคำพูด Jack Ma ใน Facebook ที่บอกว่า

“ Go to a small company…So before 30 years old, it’s not which company you go, it’s which boss you follow. It’s very important. A good boss teaches you differently.” — Jack Ma

มันจะบังเอิญกระไรเยี่ยงนี้ เหมือนบุพเพสันนิวาสมั่นหมายให้เจอ ด้วยคำพูดของลุง Jack นี่แหละค่ะ ที่เข้ามาช่วยผู้เขียนตัดสินใจเลือกฝึกที่บริษัทเล็ก

สารพัดงานที่ได้ทำ กับ การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด

เนื่องจากเป็นบริษัทเล็ก (ที่อัตราการเติบโตไม่เล็ก) ก็จะมีงานจากฝ่ายอื่นๆเข้ามาแทรกมาแจมแทบทุกวันเลยค่ะ ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลา ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่เชื่อคำพูดลุง Jack ได้เรียนรู้ตั้งแต่เรื่องจิปาถะ เช่นการทำเอกสารของบริษัท, เอกสารภาษีต่างๆ, ถ่ายเอกสาร, สแกนเอกสาร, (อย่าดูถูกไปนะคะ การถ่ายเอกสารหน้า-หลัง ก็ต้องใช้ศิลปะไม่เบา) ทำKYC ลูกค้า, สั่งซื้อตู้เย็น ไปจนถึง อ่านwhite paper, ช่วยเสนอไอเดียด้านมาร์เก็ตติ้ง, (วีดีโอปล่อยเหรียญ) ช่วยออกแบบและจัดอีเว้นท์, ช่วยออกแบบเว็บไซต์, ออกแบบโบรชัวร์, เขียนข่าวในด้าน Blockchain และ Cryptocurrency, คุยกับลูกค้า, ศึกษาเรื่องกฏหมายคริปโตเคอเรนซี่, และ ได้มีโปรเจ็คเป็นของเด็กฝึกงานเอง ซึ่งโปรเจ็คหลักๆที่ผู้เขียนได้มีส่วนช่วยก็คือการทำวีดีโอให้กับบริษัทค่ะ (ซึ่งช่วงท้ายของการฝึกงานเด็กฝึกงานจะได้พรีเซ้นท์ผลงานของตัวเองให้กับ Investors ของบริษัทด้วยค่ะ)

ตลอดระยะเวลาในของการฝึกงาน ผู้เขียนรู้สึกว่าเราเหมือนเป็นพนักงานคนนึงของบริษัทมากกว่าเป็นเด็กฝึกงานซะอีก เราสามารถเสนอไอเดียได้ และ เราสามารถผิดพลาดได้ ที่ผ่านมาผู้เขียนก็ทำผิดพลาดมากมายทั้งเขียนเช็คผิด, เสียงของการไลฟ์เฟซบุ๊กมีปัญหา และ อื่นๆอีกมากมาย แต่พี่ๆใจดีให้กำลังใจและให้โอกาสเราได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเองเสมอ

ถึงแม้จะมีงานจากหลายทิศหลายทาง แต่การทำงานที่ Bitkub มีการใช้ Scrum เข้ามาช่วยจัดแจงงาน แต่ละแผนกจะมีการ Scrum กันเกือบทุกวันเพื่ออัพเดตความคลืบหน้าของงาน และ ในคนในทีม และมีการประชุมรวมกันทุกแผนกกันทุกวันศุกร์ค่ะ

สิ่งที่สำคัญคือพี่ๆในที่ทำงานเฟรนลี่มาก นั่นรวมไปถึงพี่ๆระดับ C-levels จะค่อยช่วยเหลือและพร้อมให้คำปรึกษากับเรา ขอแค่เรากล้าเข้าไปถามและขอความช่วยเหลือ ซึ่งบางครั้งก็ได้รับคำแนะนำดีๆที่ไม่ใช่เพียงคำแนะนำในเรื่องงานเท่านั้น แต่พี่ๆจะแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในโลกการทำงานด้วยค่ะ มีแชร์ประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง และมีแม้กระทั่งแนะนำเรื่องความรักนะเออ ครบมากยิ่งกว่าคลับฟรายเดย์

ความประทับใจ

มีหลายข้อเลยค่ะ ตั้งแต่โลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้าสถานีชิดลม แถมยังใกล้ห้างอีก สะดวกมากๆ ทำงานแบบ Flexible hours โดยจะเน้นให้ทำงานเสร็จมากกว่าระยะเวลาที่ต้องอยู่ในออฟฟิศ บริษัทมีข้าวกลางวันให้ฟรี มีขนม และ มีงานเลี้ยงหรือ Company Hangout ทุกเดือน (ซึ่ง CEO ของพวกเราก ็แอบร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะคะ) มีการเล่นบัดดี้ด้วย เป็นบริษัทที่มีความเป็นกันเอง มีความอบอุ่นเหมือนครอบครัวมากๆเลยค่ะ ได้ทำงาน ได้เรียนรู้กับคนเก่งๆ ซึ่งตอนที่ได้ฝึกงานก็มีเด็กจาก Cornell และ พี่ที่เรียน Harvard มาทำงานด้วย ทำให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์มากมายเลยค่ะ

บทสรุป

ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ผู้เขียนได้มีโอกาส เรียนรู้งาน และทำความรู้จักกับคนเก่งๆมากมาย และสิ่งที่สำคัญมากๆคือได้เรียนรู้ทัศนคติที่ดีในการทำงาน การคอมเม้นให้กันอย่างโปร่งใส คุยกันด้วยเหตุผลและมีข้อมูลอ้างอิง ต้องขอบคุณที่บริษัทให้โอกาสผู้เขียนได้ฝึกงาน ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า และ ได้เพื่อนใหม่ๆจากที่นี่มากมายเลยค่ะ

ถ้าย้อนเวลาไปก่อนฝึกงานได้ จะเตรียมตัวอย่างไร

  1. อ้างอิงจากพี่ HR ที่บริษัทนะคะ Resume ไม่ควรเกิน 1 แผ่น A4 ค่ะ ใส่ข้อมูลที่สำคัญกับตำแหน่งที่จะเข้ามาฝึกงานนะคะ
  2. เตรียมข้อมูลให้พร้อม ศึกษาว่าบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร, ลูกค้าเป็นใคร, มีวิสัยทัศน์ และ พันธกิจอะไร, ใครเป็นผู้บริหาร, สถานที่ฝึกงาน, หน้าที่หรือ scope การทำงาน, ระยะเวลาฝึกงาน, สิ่งที่ต้องเตรียม ข้อมูลพวกนี้จะทำให้เราเรียนรู้งานได้เร็ว และ ต่อยอดงานได้มากขึ้นค่ะ ยิ่งเราเรียนรู้งานเร็วก็จะได้รับโอกาสทำงานที่ท้าทายมากขึ้นด้วย
  3. ตอนสัมภาษณ์ แต่งกายให้สุภาพ ตอบให้เต็มเสียง ถ้าคำถามไหนไม่รู้คำตอบก็ตอบว่าไม่รู้ได้ค่ะ ถ้าคำถามไหนไม่เข้าใจก็ตอบตามตรงว่าไม่เข้าใจ ที่สำคัญคือต้องมีความจริงใจและความกระตือรือล้นค่ะ (เตรียมคำถามไปถามบริษัทตอนสัมภาษณ์งานด้วยค่ะ)
  4. การสื่อสารสำคัญมากค่ะ การสื่อสารภายนอก การสื่อสารภายใน การสื่อสารทางกาย การสื่อสารทางสีหน้าอารมณ์ สายตา การสื่อสารกับคนในวาระต่างๆ จำคำพูดคนอื่น แต่อย่าลืมคำพูดตัวเองนะคะ (ทำยากมากเลยค่ะ ข้อนี้)
  5. มีทัศนคติที่อยากจะสร้าง value ให้กับองค์กร ยิ่ง Bitkub ที่จะบังคับให้เด็กฝึกงานมีโปรเจ็คเป็นของตัวเองอย่างน้อยหนึ่งโปรเจ็คก่อนจบฝึกงาน เพราะฉะนั้นถ้าเราเตรียมไอเดียมาก่อนก็จะมีเวลาทำโปรเจ็คได้มากขึ้น

--

--