ETN vs. ETF: Which Is the Investor’s Dream?

ETN หรือ ETF นักลงทุนชอบแบบไหน?

Peace Art
Bitkub.com
2 min readAug 21, 2018

--

หลังจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้พุ่งทะยานไปแตะ $16,000 ต่อ BTC (ราว 520,000 บาท) จึงได้เกิดผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ มากมายที่ทำให้สามารถลงทุนใน Bitcoin ได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อเงินดิจิตอลนั้นโดยตรง เช่น ตลาดซื้อขายล่วงหน้า หรือ “Future” เป็นต้น

อย่างไรก็ตามได้มีความพยายามผลักดัน Bitcoin ETF (Exchange-Traded Fund หรือกองทุนที่จดทะเบียนซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดได้) โดยฝาแฝด Winklevoss ยื่นขออนุญาตต่อ กลต. สหรัฐฯ (US. SEC) ใน เดือนมีนาคม 2017 ภายใต้ความระแวงสงสัยของนักลงทุนสถาบันต่างๆ

ในขณะที่มีอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ชื่อว่า Bitcoin Tracker One ซึ่งซื้อขายในตลาด Nasdaq Stockholm มาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งซื้อขายกันในรูปแบบของ Exchange-Traded Note (ETN คือตราสารหนี้แบบไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน แต่ค้ำประกันโดยธนาคารหรือผู้ออกเอง สามารถซื้อขายในตลาดได้เช่นกัน) ซึ่งได้มีการโควตราคาเป็นดอลล่าร์ฯในสัปดาห์นี้.

ETN นับเป็นทางเลือกแบบ “Soft” เมื่อเทียบกับ Bitcoin ETF แม้ว่าจะสามารถเข้าถึงนักลงทุนสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กลต. สหรัฐฯ (US. SEC) แต่ก็ไม่ค่อยเป็นที่สนใจของวอลสรีตหรือมีความเคลื่อนไหวต่อข่าวและเหตุการณ์ต่างๆ มากนัก มุมมองที่มีต่อ ETN จึงหนักไปทางหมีเสียมากกว่า

ทำไมต้อง ETN หรือ ETF?

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ลงทุนในบิทคอยน์ได้อย่างปลอดภัยเพราะนักลงทุนมิได้ถือสินทรัพย์นั้นโดยตรง แม้จะมีผู้ชื่นชมมากแต่ก็มีผู้ต่อว่าอยู่มากเช่นกัน

ETF เป็นหลักทรัพย์ในตลาดที่สามารถติดตามดัชนีของกองทุน และตะกร้าสินทรัพย์ที่ถืออยู่ได้ ในที่นี้คือ Bitcoin ซึ่งหาก กลต. รับรอง ETF แล้ว กองทุนก็จะสามารถซื้อบิทคอยน์มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง และแบ่งจำหน่ายเป็นหน่วยลงทุนหรือกระจายต่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ ซึ่งเป็นการเปิดประตูให้กับนักลงทุนสถาบันเงินหนาที่คุ้นเคยกับ ETF ของสินทรัพย์อื่นอยู่ก่อนแล้ว สามารถเข้ามาลงทุนในบิทคอยน์ได้อย่างง่ายและสบายมากขึ้น

ในขณะที่ ETN ที่มองว่าเป็น ‘soft’ ETF นั้นเป็นตราสารหนี้ที่ค้ำโดยผู้ออกเช่นธนาคารซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นเป็นที่การนำสินทรัพย์มากองรวมกัน แต่มุ่งกลยุทธ์ไปที่การหาหลักทรัพย์ประเภทใหม่ที่ใส่เข้าไปในกองทุนได้ยาก หรือที่เรียกว่า Esoteric Debt (หนี้ลึกลับ)

ข้อถกเถียงที่น่าสนใจในเรื่องของประเภทผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อระบบนิเวศของคริปโตมักจะถูกใส่ไข่ เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องมากมายทั้ง ผู้ซื้อขาย วิศวกรบล็อกเชน คนอยากรวยทางลัด ผู้ศรัทธาในอนาธิปไตยและสกุลเงินคริปโตบริสุทธิ์ที่อยู่ในบิทคอยน์และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ก็ต่างคนก็ต่างมีความเชื่อของตนเอง

Andreas Antonopoulos ผู้ต่อต้านแนวคิด Bitcoin ETF ได้กล่าวว่า

“ผมจะระเบิดฟองอากาศ(โลกสวย)ของคุณ [… ] ผมรู้ว่าคนจำนวนมากต้องการเห็น ETF เกิดขึ้นเพราะ (มีม/แสลง) “ไปดวงจันทร์” “ลัมโบ(กีนี)” และทั้งหมดนั่น [… ] ผมยังคงคิดว่ามัน (ETF) จะเกิดขึ้น, ผมคิดว่ามันเป็นแนวคิดที่แย่มาก ผมต่อต้าน ETF ผมคิดว่า Bitcoin ETF จะทำลายระบบนิเวศ(ของบิทคอยน์)”

Antonopoulos ไม่ได้วิจารณ์ว่า ETF จะทำให้ราคาตกหรือเป็นการหยุดยั้งการลงทุน ที่จริงแล้วเขากล่าวต่อว่า

“ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกับ ETF เพราะสิ่งที่เราได้เห็นในตลาดอื่น ๆ คือเมื่อ ETF กลายเป็นสินค้า เช่นเดียวกับทองคำ ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้สินทรัพย์นั้นเข้าถึงนักลงทุนเป็นจำนวนมาก และนักลงทุนเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

ในขณะนี้ที่หลายคนเห็นว่า ETF จำเป็นต่อตลาดคริปโตจากมุมมองของราคา Antonopoulos ได้แย้งว่า อันตรายที่แท้จริงของการเริ่ม ETF นั้นอยู่ที่อื่น

“แต่ในอีกด้านหนึ่ง มีการอ้างเสมอว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้จะถูกควบคุมหรือปั่นอย่างหนัก และการเปิด ETF เหล่านี้เพียงแต่จะเพิ่มความสามารถของนักลงทุนสถาบันในการควบคุมหรือปั่นราคาสินค้าโภคภัณฑ์(ที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิงของ ETF นั้น) ไม่เพียงแค่ในตลาดที่พวกเขาซื้อขายเป็น ETF เท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อในวงกว้างด้วย”

ทำไม ETN ถึงไม่ทำให้ตลาดวิ่ง

หากพิจรณาเรื่อง ETF จะสามารถทำให้ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงพุ่งทะยานได้ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันจะแห่มาลงทุนนั้น อาจจะฟังไม่ขึ้นเท่าไรนัก เช่นในกรณีของ ETN การประกาศให้ซื้อขายได้ด้วยดอลล่าร์ได้(เดิมแค่ยูโรเท่านั้น) ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เราอาจสันนิษฐานได้ว่า ทางเลือกที่เล็กและปลอดภัยกว่า ETF น่าจะเป็นที่นิยมในตลาดสถาบัน แต่บางทีนักลงทุนเหล่านี้อาจหยุดดูก่อนหรือยังคงเป็นตลาดหมีเกินไป

Jeff Kilburg ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ KKM Financial อธิบายว่า บิทคอยน์ยังคงผันผวนขึ้นลงต่อไปจนกว่าจะมีการตัดสินในเรื่อง ETF และ ETN คงไม่มีผลเท่าไรนัก

“ผมคิดว่าจะมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่จริงๆแล้วมันอาจเกิดขึ้นเฉพาะกับกองทุน ETF [… ] ในระยะยาวผู้ซื้อจะต้องเข้าใจว่า ผู้คนกำลังจะเข้าถึงตลาดสินค้ามากขึ้นทั่วโลก และเรามั่นใจแน่นอนว่า มันจะมาในระยะสั้น [… ] ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ แล้วผมคิดว่ามันจะดำเนินต่อไป “

Kilburg มองในพลังของ ETF ว่าจะมีผลดีต่อตลาด และ Bart Smith ผอ. ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิตอลของตลาดลงทุนขนาดยักษ์ Susquehanna International Group กล่าวว่า ETN ได้รับความสนใจ แต่เทียบไม่ติดกับ ETF

“ที่เราเห็นอยู่มันกลับไปเป็นเหมือนเมื่อเดือนก่อน เราได้คุยกันเกี่ยวกับกับการแตกออก(จากระดับราคานี้) แต่สภาพตลาดหมี ณ ขณะนี้ คนจะไม่ซื้อจนกว่าจะมีการทำ New High”

“นี่ไม่ใหญ่เท่ากับสิ่งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กลต. ETF ในสหรัฐฯ ที่ขึ้นทะเบียนกับ กลต. จะมีผลกระทบที่ใหญ่กว่า แต่ถ้ามีบางอย่างที่ขับเคลื่อนเงินใหม่ให้เข้าไปในราคาบิทคอยน์แล้ว คุณคงจินตนาการได้ว่ามันจะขึ้น”

จอกศักดิ์สิทธิ์ ETF

ณ ขณะนี้ที่นักลงทุนสหรัฐสามารถเข้าถึง ETN และตลาด Future ผ่านสถาบันต่างๆ บิทคอยน์ยังคงไม่ไปถึงจุดสูงสุดใหม่ แม้จะมีการตื่นเต้นกับ ETF ที่จะเป็นไปได้ แต่ SEC กลต. ยังคงครุ่นคิด กับผู้สมัครขออนุญาตทำ Bitcoin ETF จำนวนหนึ่ง

ในขณะที่ไม่มีรู้ว่าบิทคอยน์จะมีราคาเท่าไรในอนาคต และข่าว ETF จะส่งผลอย่างไร มุมมองส่วนใหญ่มองว่า มันจะสร้างความแตกต่างได้ ความรู้สึกที่ว่า ยังมีภูเขาเงินลูกใหญ่ที่พร้อมจะเทเข้ามาในบิทคอยน์ แต่ถูกฉุดรั้งโดยวิธีการลงทุนที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม หากอุปสรรคเหล่านี้ถูกโค่นลง เราอาจจะเห็นบิทคอยน์มีราคาทะลุ $20,000 (660,000 บาท) หรือไม่? โปรดติดตามชมตอนต่อไป

--

--