MasterCard เสนอระบบ Blockchain สำหรับธุรกรรมแบบ B2B
MasterCard ยื่นจด 3 สิทธิบัตรระบบ Blockchain สำหรับธุรกรรมแบบธุรกิจต่อธุรกิจ
ผู้ให้บริการชำระเงินข้ามประเทศ MasterCard ได้พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อทำให้ธุรกรรมปริมาณมหาศาลใน B2B ง่ายและทันสมัยมากขึ้น โดยยื่นจด 3 สิทธิบัตรในเดือนมีนาคมและได้รับจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ US Patent and Trademark Office (USPTO) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
(Link สิทธิบัตร : 1, 2 และ 3)
แม้จะมีชื่อคล้ายกันว่า “วิธีการและระบบสำหรับการประมวลผลการบันทึกธุรกรรมแบบจุดต่อจุด” (“Method and System for Recording Point to Point Transaction Processing”) ทาง MasterCard ได้อธิบายว่า ระบบชำระเงินแบบ B2B จำเป็นต้องได้รับการอัพเดทเพื่อตอบสนองการใช้งานของธุรกิจปัจจุบัน เจ้าของสิทธิบัตรชี้ต่อว่าระบบปัจจุบันใช้การชำระแบบรายบุคคล (“individual payment transactions”) เป็นแกนหลักในการประมวลผล พวกเขายังกล่าวต่อว่า
“ผลจากการร่วมมือของ B2B ในศตวรรตที่ 21ทำให้แพล็ตฟอร์มการชำระเงินที่เทอะทะและไม่เชื่อมถึงกันจากศตวรรตที่ 20 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก จำนวนธุรกรรมที่ต้องประมวลมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบชำระเงินและสถาบันการเงินมากขึ้นทุกๆ วัน”
MasterCard เสนอการใช้ Blockchain หรือเทคโนโลยีเล่มบัญชีดิจิตอล (Digital Ledger Technology : DLT) ที่สามารถแก้ไขปัญหาของระบบ B2B ในปัจจุบันได้ด้วยระบบชำระที่เป็นเอกภาพ สามารถเก็บข้อมูลให้ตรวจสอบได้ง่ายและเห็นได้ชัดโดยผู้มีส่วนร่วม
“การใช้งานบัญชีอย่าง Blockchains มีประโยชน์มากเช่น การไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงใดๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลขึ้นไปอีก”
MasterCard ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรด้าน Blockchain มากขึ้นเรื่อยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เช่น ก่อนหน้านี้ในเรื่องการเพิ่มความเร็วของธุรกรรม Cryptocurrency และล่าสุด เรื่องวิธีการใช้ลายเซ็นดิจจิตอลในธุรกรรม Blockchain เป็นต้น นอกจากนี้ MasterCard ยังมีสิทธิบัตรด้าน Blockchain ที่อยู่ระหว่างการรอการอนุมัติจาก USPTO อีกเป็นจำนวนมาก
