People Team ขอเล่า ฉบับที่ 4 : เป็น พนักงานใหม่ ปรับตัวยังไงให้เข้ากับที่ทำงาน?

Joy Janjira
Bitkub.com
Published in
2 min readJan 31, 2023

พบกันอีกครั้งใน People Team ขอเล่าฉบับที่ 4 ค่ะ กับเรื่องที่เรียกได้ว่ารบกวนจิตใจใครหลายคนที่เชื่อว่าคนหางานน่าจะเคยเจอกับปัญหานี้

เริ่มทำงานที่แรก วางตัวยังไง?

เพื่อนร่วมทีมจะเป็นยังไงบ้างนะ?

ฝึกงานที่แรก ตื่นเต้นสุดๆ?

คำถามเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในวันที่เราได้ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และเชื่อได้ว่าไม่มากก็น้อย สิ่งรบกวนจิตใจเหล่านี้จะยังคงอยู่ไปอีกสักระยะจนกว่าเราจะสามารถปรับตัวเข้ากับองค์กรได้

ยิ่งกับในบางคนที่รู้สึกว่า พูดไม่เก่ง เข้าหาคนไม่เก่งเลย จะทำยังไงดี หรือกับบางคนที่จะเข้าไปเป็นหัวหน้าทีมจะทำยังไงให้เข้ากับทีมได้ในขณะที่เราไม่ได้มีประสบการณ์มาก สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนทำงานเกิดอาการเกร็งในช่วงแรกของการเป็นพนักงานใหม่แน่นอน

ทีนี้นอกเหนือจากเรื่องของผลการปฏิบัติงานที่แน่นอนว่าเราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก รู้ไหมคะว่าในส่วนของฝ่ายบุคคล หรือ People team แล้วนั้นเราเองก็คอยแอบดูเรื่องของความสัมพันธ์ในที่ทำงานด้วยว่าพนักงานใหม่ของเราเข้ากันได้กับเพื่อนร่วมทีมไหม และหน้าที่ของเราก็คือคอยทำให้ทุกคนเข้ากันได้กับทั้งองค์กรและทีมนั่นเองค่ะ

ซึ่ง People team ขอเล่าฉบับนี้จะขอเล่าเกี่ยวกับทริคง่ายๆ ที่จะทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับที่ทำงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วค่ะ

ข้อที่หนึ่ง ทักทายด้วยรอยยิ้ม

รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่แค่พนักงานใหม่ที่เกร็งในการไปร่วมงานที่แรก แต่พนักงานเดิมเองหลายๆ ท่านต่างก็เกร็งไม่แพ้กันเหมือนกัน ดังนั้นเราอาจเริ่มต้นวันที่ดีด้วยรอยยิ้มทักทาย เป็นคนเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ชวนรุ่นพี่ เพื่อนร่วมทีมพูดคุยด้วยรอยยิ้มค่ะ เพราะถ้าเราไปทำงานด้วยใบหน้าบึ้งตึง หลายๆ คนคงเลี่ยงที่จะเข้ามาพูดคุยก็จะกลายเป็นว่าความประทับใจแรกแย่ทั้งสองฝ่ายทำให้ในระยะแรกจะเกิดความรู้สึกอึดอัดตามมา ดังนั้นเริ่มต้นวันแรกด้วยรอยยิ้มและอารมณ์ที่ดีกันนะคะ

** ทริคสำหรับคนยิ้มไม่เก่งหรือขี้อาย เราอาจจะยิ้มและบอกกับทีมไปเลยตั้งแต่ตอนแนะนำตัวว่าเราเป็นคนขี้อายนะ อาจจะยิ้มไม่เก่ง เป็นผู้พูดไม่ถนัดแต่สามารถเป็นผู้ฟังที่ดีได้แน่ๆ แบบนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดูไปอีกแบบค่ะ บรรยากาศโดยรวมก็จะไม่แย่ด้วยเพราะทุกคนในทีมต่างรับทราบเบื้องต้นแล้วว่าเราเป็นคนขี้อาย

ภาพ : บรรยากาศการทำงานที่บิทคับ ยิ้มแย้มสดใสพร้อมต้อนรับทั้งผู้บริหารและเพื่อนร่วมทีมเลยนะ

ข้อที่สอง ทำใจมาก่อนว่าต้องมี CULTURE SHOCK

จากที่ทำงานเก่ามาที่ทำงานใหม่ จากมหาวิทยาลัยมาที่ทำงาน แน่นอนว่าสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปย่อมทำให้หลายๆ คนเกิดความรู้สึกไม่คุ้นชิน ไม่ปลอดภัยได้ง่ายกว่าปกติค่ะ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนงาน หรือ ทราบอยู่แล้วว่าเรากำลังจะเรียนจบและต้องเข้าไปทำงานจริงไม่ได้อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอีก สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนเริ่มทำเป็นอย่างแรกก็คือ เตรียมใจไว้ก่อนเลยว่าเรื่องของ culture shock จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่มากก็น้อยค่ะ

Culture shock คืออะไร?

Culture shock หรือ ความตื่นตระหนกทางวัฒนธรรม คือ ประสบการณ์ที่บุคคลหนึ่งอาจมีเมื่อบุคคลนั้นย้ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่ต่างกับสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมของตน นอกจากนี้ยังเป็นความสับสนที่บุคคลหนึ่งอาจรู้สึกเมื่อประสบกับวิถีชีวิตที่ไม่คุ้นเคยอันเนื่องมาจากการย้ายถิ่นเข้าหรือการไปเยือนประเทศใหม่ การย้ายไปมาระหว่างสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ต่างกัน หรือการปรับเปลี่ยนไปใช้ชีวิตแบบอื่น (แหล่งที่มา : http://bit.ly/3COtr1l )

ดังนั้นเมื่อทำใจไว้ก่อนแล้ว หากเจอกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ เราก็จะสามารถเปิดใจกับตัวเองได้ง่ายขึ้นค่ะ ซึ่งก็จะพ้องกันกับฉบับที่ 3 ที่เราได้เล่าถึงความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรนั่นเองค่ะ เพราะวิธีหนึ่งในการรับมือกับความตื่นตระหนกทางวัฒนธรรมนี้ก็คือการที่เราได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมองค์กรไว้ก่อน

กระซิบว่าของบิทคับสามารถศึกษาได้จาก #lifeatBitkub เลยนะ จะได้เข้ามาเรียนรู้วัฒนธรรมขององค์กรเราก่อนเข้ามาทำงานจริงได้อย่างแน่นอน

ข้อที่สาม ไม่รู้ไม่แน่ใจอย่าปล่อยไว้ ถามเลย

ท่องไว้ในใจค่ะว่าเราเป็นพนักงานใหม่ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราจะไม่รู้ในหลายๆ เรื่อง ถ้าเราไม่รู้ไม่แน่ใจเรื่องไหนให้ถามเพื่อนร่วมทีมหรือหัวหน้างานได้เลยว่าเราสามารถทำแบบนี้ได้ไหม หรือมีข้อแนะนำไหนที่ไม่ควรทำหรือเปล่า เพราะนอกจากจะทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้แล้วนั้น การชวนคุยยังจะทำให้เราสามารถมีบทสนทนากับรุ่นพี่ด้วยค่ะ

** แต่มีข้อพึงระวังนะคะ ก็คือ ถ้าหากเคยถามไปแล้ว ไม่ควรถามคำถามเดิมซ้ำๆ นะ เพราะหากเป็นเราที่ต้องให้คำตอบก็คงเกิดข้อสงสัยเหมือนกันว่า ในเมื่อเคยตอบไปแล้วทำไมต้องมาตอบอีกนะ จากที่ยินดีตอบความรู้สึกก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ค่ะ

ข้อที่สี่ ที่เก่าอาจทำไว้ดี แต่อย่าลืมว่าที่นี่คือที่ใหม่แล้วนะ

หลายคนอาจเคยเป็นเพราะมันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะเปรียบเทียบระหว่างที่เก่าที่จากมากับที่ใหม่ที่ทำอยู่ค่ะ ว่าแบบที่นี่เป็นแบบนี้ ที่นั่นเป็นแบบนั้น แล้วพอเปรียบเทียบมากๆ เข้าธรรมชาติของคนเราบางทีมันก็จะเกิดเป็นความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจได้ค่ะ ว่าการตัดสินใจย้ายมานี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าย้อนเวลากลับไปจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า

เราเลยอยากจะบอกว่าไม่แปลกนะ เพราะเป็นธรรมดาของมนุษย์ค่ะ แต่เราอยากจะบอกว่าในท้ายที่สุดเมื่อเราตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ก็ตาม ก็อย่าปล่อยให้ความคิดนั้นมาบั่นทอนเหตุผลในตอนที่เราตัดสินใจย้ายมาทำงานที่นี่ค่ะ เราอาจะลองเปิดใจ ลองอดทนดูก่อน

ข้อที่ห้า เคารพ ให้สิทธิ์ และให้เกียรติ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมไทย คนที่นอบน้อมจะน่ารักน่าเอ็นดูค่ะ แต่ไม่ใช่ให้เรานอบน้อมโอนอ่อนจนกระทั่งไม่มั่นใจในตัวเองนะ แค่อยากบอกว่าเมื่อเราย้ายไปทำงานที่ใหม่แล้ว ในขอบเขตการทำงานเราควรรับผิดชอบการทำงานของเราให้เต็มที่ แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาโดยเคารพเพื่อนร่วมงาน ให้สิทธิ์คนอื่นในการแสดงความคิดเห็น และให้เกียรติน้อมรับในคำแนะนำอย่างเปิดใจค่ะ สิ่งเหล่านี้จะทำให้การทำงานของเราราบรื่นและเป็นที่น่าเอ็นดูของทุกคนในที่ทำงานค่ะ

ภาพ : บรรยากาศงาน Bitkub Marketing Mini Townhall ที่พนักงานสามารถเสนอไอเดีย แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างทีมและผู้บริหารได้

ข้อที่หก เข้าร่วมกับกิจกรรมของบริษัทพบเพื่อนใหม่

ในหลายๆ บริษัทจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสพบปะกันนอกเหนือจากเวลาทำงานปกติค่ะ เช่น กิจกรรม Outing นอกสถานที่ การรับประทานมื้อเที่ยง มื้อเย็นร่วมกัน หรืออย่างที่บิทคับเราก็จะมี Clubs กับ Bitkub HODL Day ที่เป็นกิจกรรมที่ต่อให้ไม่ได้อยู่ในทีมเดียวกันก็มีโอกาสได้มาพบปะ ผูกสัมพันธ์และเป็นการลดความเกร็งในระยะแสนสั้น ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นพนักงานใหม่ แนะนำว่าไม่ควรพลาดนะคะ เข้าร่วมเพื่อสนุก ผูกสัมพันธ์ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยละลายพฤติกรรมแล้วก็ทำให้เราเข้ากับทีมได้เร็วขึ้นค่ะ

ภาพ : บรรยากาศงาน Bitkub HODL day ที่เป็นการแข่งขันกีฬาจากพนักงานหลากหลายทีม

ข้อที่เจ็ด กำลังใจหาง่ายที่สุดจากตัวเอง

ข้อสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำก็คือ อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอค่ะ เพราะการปรับตัวทั้งกับเรื่องงาน เรื่องเพื่อนร่วมงาน ย่อมมีทั้งความท้าทายและความกดดันที่ทุกคนต้องเจอ และความกดดันเหล่านั้นย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้นสิ่งที่เราไม่อยากให้ทุกคนหลงลืมก็คือ อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองค่ะ เชื่อมั่นในตัวเองให้มากที่สุดว่าทำได้ ยิ้มให้คนอื่นแล้วคนที่เราห้ามลืมเด็ดขาดในการยิ้มให้ก็คือตัวเราเองนะคะทุกคน

ในท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนล้วนต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ต้องปรับตัว และเมื่อก้าวเข้าสู่การทำงานแล้วการปรับตัวเป็นพนักงานใหม่ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอค่ะ คำแนะนำทั้งเจ็ดข้อจึงเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่เราอยากจะใช้ในการแนะนำเพื่อให้การเริ่มต้นใหม่ของทุกคนเป็นการเริ่มต้นที่ดีบนเส้นทางที่เราได้เลือกเอง

ส่วนของบิทคับ! ทุกคนสามารถเข้าไปดูบรรยากาศการทำงาน บรรยากาศของเพื่อนร่วมทีมได้ผ่าน #lifeatBitkub หรือผ่าน Social Media ต่างๆ ในทุกช่องทางเลยนะ ลองศึกษากันก่อนและถ้านี่เป็นหนทางที่ใช่

ก็สมัครเข้ามาได้เลยที่ https://careers.bitkub.com/ นะคะ ตอนนี้เรามีหลากหลายตำแหน่ง หลากหลายทีมที่กำลังเปิดรับให้ทุกคนได้เข้ามาเป็นเพื่อนร่วมทีม ร่วมค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปกับองค์กรของเรา

ยกตัวอย่างเช่น

Content Creator Associate

IT Security Advisory

IT Security Assurance

IT Support Associate

Security Engineer

Software Engineer

Performance Tester

Mobile Developer

KYC Support Associate

แล้วสมัครเข้ามาพบกันนะคะทุกคน 💚

--

--