งานวิจัยระบุ ราคา Cryptocurrency มีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับกิจกรรมกำกับดูแล

Peace Art
Bitkub.com
Published in
2 min readSep 25, 2018

--

หน้าเว็ปไซต์ของ BIS

งานวิจัยล่าสุดพบว่ากิจกรรมการกำกับดูแลของรัฐส่งผลต่อราคา Cryptocurrencies อย่างรุนแรง แม้ว่าจุดประสงค์เริ่มแรกของการสร้าง คือ การพยายามไม่ให้การกระทำของรัฐส่งผลกระทบต่อ Cryptocurrency ก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวถูกเสนอในรายงานของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ Bank for International Settlements (BIS) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเจ้าของคือ ธนาคารกลางของ 60 ประเทศที่รวมแล้วคิดเป็น 95% ของ GDP โลก

รายงานระบุว่า ตลาดมักจะไม่ตอบสนองต่อทั้งข่าวการสร้างเงิน Digital ของธนาคารกลาง หรือ การออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Cryptocurrencies แต่จะตอบสนองต่อการประกาศเกี่ยวกับการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของ Cryptocurrencies และการออกเหรียญครั้งแรกหรือ Initial Coin Offering (ICO) รวมถึงกฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ AML, CFT และ KYC

ในรายงานระบุข้อค้นพบสำคัญ 4 ข้อที่ตลาด Crypto ตอบสนองต่อการประกาศและกิจกรรมกำกับดูแล

1. ข่าวและเหตุการณ์การสั่งห้ามหรือ Ban การจำกัด การต่อสู้ทางกฎหมายของ Cryptocurrency และ ICO นั้นๆ หรือการตัดสินนโยบายและสถานะทางกฎหมายโดยหน่วยงานกำกับดูแล ตลาดจะตอบสนองต่อเหตุการณ์ลักษณะนี้รุนแรงที่สุด

นอกจากนี้ยังรวมถึงการตัดสินการกำกับดูแลของหลักทรัพย์อื่นที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ด้วย เช่น การเลื่อนการตัดสินคำขออนุญาตจัดตั้งกองทุน ETF ที่ลงทุนใน Bitcoin ของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หรือ US. SEC หรือกรณีที่ตลาดตอบสนองในทางบวก เช่น การวางกรอบทางกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ Cryptocurrencies และ ICO

2. ข่าวมาตรการกำกับดูแลด้านการต่อต้านการฟอกเงินและการก่อการร้าย หรือ Anti Money Laundering and Counter-Financing of Terrorism (AML/CFT) ที่จะจำกัดการบูรณาการ Crypto กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม เช่น การที่ Crypto Exchange ถูกห้ามใช้บริการธนาคาร ซึ่งจะส่งผลลบอย่างเป็นที่สังเกตุเห็นได้ในตลาด Crypto ในทางตรงข้าม ข่าวเกี่ยวกับการเปิดไฟเขียวให้ Startup ด้าน Crypto เข้าร่วมกับสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแล เช่น BitLicense ที่ New York ก็ส่งผลทางบวกต่อตลาด Crypto เช่นกัน

3. การประกาศเตือนแบบไม่ระบุเจาะจงเกี่ยวกับอันตรายของการลงทุนหรือซื้อขาย Cryptocurrency จะส่งผลกระทบต่อตลาดเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับประกาศของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและประกาศแผนสร้างเงิน Digital ของธนาคารกลาง หรือ Central Bank Digital Currency (CBDC) ตลาดมักจะเพิกเฉยต่อแถลงการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็ตาม เช่น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสหภาพยุโรปได้ขัดขวางการออกเหรียญ Estcoin ซึ่งเป็น Cryptocurrency ของประเทศ Estonia ข่าวดังกล่าวแทบจะไม่ส่งผลทางลบต่อตลาด Crypto เลย เช่นเดียวกับแผนการออก Cryptocurrency ที่มีน้ำมันหนุนหลังของ Venezuela

4. แม้เราจะสามารถเข้าถึงและใช้งาน Crypto ได้อย่างไร้พรมแดน แต่ Cryptocurrency สกุลเดียวกัน ของแต่ละเขตหรือประเทศกลับมีราคาที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นถึงระดับการแบ่งส่วนของตลาด (Market Segmentation) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายในรายงานว่า

“ผลจากการที่ตลาด Cryptocurrency ต้องอาศัยการดำเนินงานของสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งส่วนของตลาดตามที่ตั้งและการกำกับดูแลของหน่วยงานในประเทศนั้นๆ

ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มของ BIS ได้ที่นี่

--

--