เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเทรดคริปโตระยะสั้น

Preeyapa Taweewikyagan
Bitkub.com
Published in
2 min readNov 8, 2022

--

โลกของการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเต็มไปด้วยกลยุทธ์มากมายให้เลือกใช้ตามความถนัดและเป้าหมายที่แตกต่างกันของแต่ละคน การเทรดคริปโตระยะสั้น ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดทั้งมือใหม่และมือโปรทั่วโลก

แต่ก่อนที่เราจะลงลึกถึงรายละเอียดของเรื่องนี้ เราอยากให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเทรดระยะสั้นกับระยะยาวก่อน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความรู้ให้แน่น และเข้าใจหลักการเทรดอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมให้กับตัวเองได้ไม่ยาก

เทรดคริปโตระยะสั้นกับระยะยาวต่างกันอย่างไร

  • การเทรดคริปโตระยะสั้น

การซื้อขายคริปโทฯ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มักเกิดขึ้นและจบลงภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือภายในหนึ่งวัน และอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละคน โดยทำกำไรจากจังหวะที่ราคาผันผวน แม้สัดส่วนกำไรที่ได้อาจน้อยกว่าการลงทุนระยะยาว แต่ก็มีข้อดีคือสามารถทำกำไรได้บ่อยขึ้น และลดความเสี่ยงจากการถือครองคริปโทฯ ไปนาน ๆ แล้วราคาตกจนขาดทุนหนัก จึงเหมาะสำหรับการเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดขาลง หรือ Sideway แต่ก็ต้องแลกกับการใช้เวลานั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อติดตามราคาและข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

  • การลงทุนระยะยาว

การถือเหรียญระยะยาวเป็นเวลานานหลายเดือน หรือหลายปีแล้วขาย สามารถทำกำไรได้หลายเท่า แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะมีโอกาสขาดทุนหนัก หรือติดดอยนานๆ เช่นกัน วิธีนี้เหมาะกับนักลงทุนสาย VI (Value Investor) ที่เน้นการลงทุนในเหรียญคริปโทฯ ที่พื้นฐานดีเท่านั้น และมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเหรียญที่เลือกลงทุน โดยไม่หวั่นไหวกับราคาที่ผันผวน มีความอดทนสูง แม้กระทั่งตอนที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลงก็ตาม วิธีการลงทุนระยะยาวแบบนี้ในวงการคริปโทฯ เรียกกันติดปากว่า “HODL”

HODL แปลว่าอะไร

คำว่า HODL นั้นเริ่มใช้กันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยมีที่มาจากการที่นาย GameKyuubi ผู้ใช้ในเว็บบอร์ดของ Bitcointalk ซึ่งเป็นชุมชนคริปโทฯ ชื่อดังได้โพสต์กระทู้หนึ่งว่า “I AM HODLING” ซึ่งที่จริงเจ้าตัวจะบอกว่าเขาไม่ยอมขาย จะถือเหรียญที่มีต่อไป แต่ดันพิมพ์ “HOLD” ที่แปลว่า “ถือ(เหรียญคริปโทฯ)” ผิดเป็น “HODL” เพราะเมาแล้วลืมแก้ไข จึงมีคนล้อเลียนกันจนกลายเป็นมีม และฮิตติดปากถึงขนาดมีคนนิยามให้ใหม่ว่าที่จริงแล้วคำนี้เป็นคำย่อของ “Hold On for Dear Life” ซึ่งหมายถึง “ถือเอาไว้ อย่าปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาด” เพื่อเอาไว้เตือนสติคนที่ถือคริปโทฯ ไว้นานๆ ว่าอย่าเพิ่งขายนะ ถือไว้ก่อน และคนที่ถือเหรียญไว้นาน ๆ มักจะเรียกตัวเองว่าเป็น HODLER นั่นเอง

รูปแบบของการเทรดคริปโตระยะสั้นมีอะไรบ้าง

การเทรดคริปโตระยะสั้นแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ตามระยะเวลา ได้ดังนี้

1.Scalping

เป็นรูปแบบการเทรดคริปโตระยะสั้นที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ด้วยการจับจังหวะซื้อคริปโทฯ เมื่อมีการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย และรีบขายทำกำไรอย่างรวดเร็วมากๆ ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ขึ้นอยู่กับความผันผวนว่ารุนแรงแค่ไหน และอาจเปิด Position เอาไว้หลายสิบหรือนับร้อย position พร้อม ๆ กันเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรด้วย

ส่วน Time frame ที่นิยมใช้ในการดูกราฟจะอยู่ที่ 1–5 นาที แล้วแต่ถนัด ด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดแบบนี้ สัดส่วนกำไรที่ได้แต่ละครั้งจึงน้อยที่สุด แถมยังเป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์มักจะเครียดหนักกว่าแบบอื่น เพราะใช้สมาธิสูงและต้องคอยจ้องหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานานตลอดทั้งวัน

2.Day Trading

เป็นการเทรดคริปโตระยะสั้นที่จบภายในวันเดียว ซื้อขายแต่ละครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยนิยมใช้ Time frame ตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป จนถึง 1 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเครียดในการรีบตัดสินใจแบบ Scalping อยากมีเวลานั่งวิเคราะห์กราฟอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ไม่อยากถือไว้นานข้ามคืน แล้วต้องกังวลว่าตื่นมาวันรุ่งขึ้นจะขาดทุน ถือว่าเป็นทางสายกลางสำหรับการเทรดระยะสั้น คนที่เทรดเป็นงานหลักหลายๆ คนจะชอบวิธีนี้มากกว่า

3.Swing Trading

การเทรดคริปโตระยะสั้นรูปแบบนี้ใช้เวลาอยู่หน้าจอน้อยที่สุดเพราะสามารถถือ Position ไว้ได้หลายๆ วัน หรืออาจนานนับเดือน นิยมดู Time frame 1 ชั่วโมง ไปจนถึง 1 วัน หรือบางคนอาจไปถึงระดับ 1 สัปดาห์ หากต้องการดูภาพรวมกว้างๆ จึงเหมาะกับคนที่ไม่อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว เช่น มีงานประจำ หรือไม่มีเวลาว่างมานั่งดูกราฟเพราะมีภาระอย่างอื่นต้องทำควบคู่ไปกับการเทรด นอกจากนี้ยังมีโอกาสทำกำไรสูงๆ ได้ภายในการเทรดไม่กี่ครั้งอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากราคาเหรียญตกมากๆ ก็เสี่ยงที่จะขาดทุนหนักมากกว่าการเทรดแบบอื่น

4 สิ่งที่คุณควรระวังในการเทรดคริปโตระยะสั้น

การเทรดคริปโตระยะสั้นแม้จะดูเหมือนว่าคุณสามารถลดความเสี่ยงจากการถือเหรียญคริปโทฯ ไว้นานๆ แล้วขาดทุนหนักเมื่อราคาเหรียญตกลงมามาก แต่หากคุณทำโดยขาดความเชี่ยวชาญก็อาจส่งผลเสียและทำให้ขาดทุนได้เช่นเดียวกัน จึงควรระวังในเรื่องต่อไปนี้

1.ศึกษาเหรียญคริปโทฯ ที่ต้องการเทรดให้ดี

เพราะหากคุณยังไม่เข้าใจพื้นฐานของเหรียญคริปโทฯ ที่น่าลงทุนนั้นๆ ก็จะทำให้ไม่เข้าใจเหตุผลในการเคลื่อนไหวของราคาได้ดีพอ และมีโอกาสขาดทุนมากขึ้น ดังนั้น ควรอ่าน Whitepaper ของผู้สร้างโปรเจกต์เหรียญที่ว่าให้เข้าใจเสียก่อน

2.ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ให้คล่อ

หากคุณเลือกที่จะเทรดคริปโตระยะสั้นแล้ว ต้องรู้วิธีดูกราฟคริปโทฯ รู้วิธีอ่านแท่งเทียน อ่านแนวรับ-แนวต้านให้เป็น สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องมือสำหรับทำ Technical Analysis (TA) เช่น การใช้ Indicator อย่าง RSI, MACD, EMA เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์กราฟราคาในเชิงเทคนิคแบบลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยให้ตัดสินใจซื้อขายได้แม่นยำมากขึ้น

3.หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์

การเทรดให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว คุณต้องฝึกการใช้หลักการและเหตุผล หลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยอารมณ์ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโกรธ อยากเอาคืน ผิดหวัง หรือโลภ เพราะอารมณ์เหล่านี้จะทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดและนำไปสู่การขาดทุนได้ง่ายมาก

4.หลีกเลี่ยงการ Scalping

ยิ่งคุณเทรดคริปโตระยะสั้นในช่วงเวลาจำกัดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำกำไรต่อเนื่องได้ยาก ยิ่งต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ระมัดระวัง และมีวินัยในการเทรดมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะการเทรดแบบ Scalping ที่ต้องตั้ง Stop loss อย่างรัดกุมทุกครั้ง แถมสัดส่วนกำไรที่น้อยยังทำให้หลายคนมักใช้เงินลงทุนต่อ Position สูง หรือใช้ Leverage เสริมเข้าไปอีก จน Overtrade จึงอาจทำให้เครียดง่ายและรู้สึกเหนื่อยล้าเร็ว บั่นทอนสุขภาพ ทั้งยังมีโอกาสผิดพลาดสูงเพราะมีเวลาให้คิดวิเคราะห์น้อยเกินไปนั่นเอง เพราะฉะนั้น หากคุณยังไม่เชี่ยวชาญมากพอ เราไม่แนะนำให้เทรดแบบ Scalping

หากคุณคิดว่าการเทรดคริปโตระยะสั้นมาก ๆ เป็นเรื่องที่หนักหนาเกินไป ก็ลองปรับเวลาการเทรดให้ใช้เวลามากขึ้น จาก Scalping เป็น Day trading หรือปรับเป็น Swing trading ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ควรถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่าคุณเหมาะกับการเทรดคริปโตระยะสั้นมากน้อยแค่ไหน ควรใช้กลยุทธ์อะไรถึงจะทำกำไรได้ตามเป้าที่คาดหวังไว้ อย่าลืมหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและติดตามข่าวสารวงการคริปโทฯ รวมถึงข่าวเศรษฐกิจโลกอย่างสม่ำเสมอด้วย จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่รอบด้านในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น

ในกรณีที่คุณคิดว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่า การทำ Dollar-Cost Averaging หรือ DCA คืออีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจ คล้ายคลึงกับการออมเงิน เพราะคุณสามารถทยอยซื้อเหรียญคริปโทฯ ที่ต้องการเก็บไว้ได้เรื่อยๆ ตามงบที่ตั้งไว้ และตามความถี่ที่คุณกำหนดเอง โดยไม่ต้องสนใจราคา แล้วค่อยขายทำกำไรในอีกหลายปีต่อมา

— — — — — — — —

เรียนรู้เรื่อง บิทคอยน์ (Bitcoin) และ Cryptocurrency ช่วยให้คุณเข้าใจโลกของคริปโทฯ ได้ดีขึ้น ที่ Bitkub Blog และหากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต

* คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

— — — — — — — —

อ่านบทความเกี่ยวกับวิธีการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ จาก Bitkub Blog ได้ที่นี่

-ลงทุนแบบ DCA กุญแจสู่การบริหารความเครียดจากการลงทุน

-5 วิธีลงทุนในคริปโตที่เหมาะสมที่สุด

-ลงทุนอะไรดี? ลดความเสี่ยงในช่วงเงินเฟ้อ

-ถือเหรียญระยะยาวดีไหม? ในช่วงตลาดแบบนี้

--

--