Schap x Startup Thailand 2017

schap
2 min readJul 9, 2017

--

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปงาน Startup Thailand 2017
ซึ่งเป็นงานที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีตัวเองไปเดินอยู่ในนั้น
เพราะเรากับ Startup ไม่เคยสนิทกันมาก่อนเลยค่ะ
และเราเพิ่งจะมารู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้เอง

เราพบว่าเราคงพลาดมากถ้าไม่มางานนี้
ที่นี้เป็นเหมือนบุฟเฟ่ต์ไอเดีย ซึ่งเราเองก็ทำหน้าที่เป็นนักชิมที่ดี
โดยการแวะและเก็บใบปลิวเกือบทุกบูธที่น่าสนใจ
ตัวอย่างใบปลิวที่เราได้มา เช่น บริษัทหาคู่ที่ดูจากดวงที่สมพงษ์กัน, บริการปรึกษาจิตแพทย์ทางออนไลน์, บริการที่ให้เราสามารถปล่อยเช่ารถแบบรายวันได้ เป็นต้น
แน่นอนว่ามีทั้งบริษัทที่เรารู้สึกว่าเจ๋งมาก และบริษัทที่เรารู้สึกเฉย ๆ

สิ่งที่น่าสนใจพอ ๆ กับซุ้ม
คือ มาสคอต
บันเทิงมากค่ะ บางตัวเห็นแล้วขำลั่นเลย :D

ล้อเล่นค่ะ มาสคอตก็ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนที่น่าสนใจคือเวทีการ Pitching ของ Startup นักศึกษา
ที่พี่เก่งแนะนำให้เราลองไปฟัง พร้อมกับคำเตือนเหมือนในหนังว่า

“ฟังแล้วห้ามเคลิ้มนะ ต้องหาช่องโหว่ของเขาด้วย”

ขนลุกเลย
ซึ่งหลังจากฟังแล้วก็พบว่าจะไม่ตั้งใจฟังดีๆก็มีเคลิ้มค่ะ
เพราะแต่ละทีมพรีเซนต์ไหลลื่น และชูจุดเด่นของตัวเองได้เก่งมาก ๆ
แต่พอจบช่วงพรีเซนต์และเข้าสู่ช่วงคอมเมนต์จากกรรมการ
เหมือนความจริงปรากฎค่ะ

ช่องโหว่ค่อยๆโผล่มาทีละน้อย
บางข้อฟังแล้วร้องว้าว เพราะคิดไม่ถึง
รู้เลยว่าธุรกิจนี้ต้องมองให้กว้างและไกลจริง ๆ
เราเลยรวบรวมคอมเมนต์ของกรรมการและสิ่งที่เราได้จากการฟัง Pitching ในครั้งนี้มาค่ะ

1. ความจำเป็นในการใช้งาน

Startup บางเจ้ามีฟังก์ชันที่น่าสนใจมากค่ะ
ใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่และทันสมัยมาก
แต่เมื่อถามถึงความจำเป็นในการใช้งาน
กลายเป็นว่าฟังก์ชันดังกล่าวไม่มีความจำเป็นขนาดนั้นค่ะ
เรายังสามารถใช้เทคโนโลยีเดิม ที่ต้นทุนต่ำกว่าและใช้งานง่ายกว่าได้อยู่

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ก็เหมือนตอนที่อเมริกาทุ่มงบเป็นร้อยล้านดอลลาร์ในการผลิตปากกาที่สามารถเขียนในภาวะไร้แรงโน้มถ่วงในอวกาศได้
แต่รัสเซียแก้ปัญหานี้โดยการใช้ดินสอแทน
Startup บางเจ้า มีลักษณะแบบนั้นอยู่ค่ะ

2. ฟังก์ชันที่ฆ่าตัวเอง

การพัฒนาการให้บริการเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
แต่บางครั้งกลายเป็นว่า เราไม่สามารถหาช่องทางทำรายได้ให้กับธุรกิจได้เลย
Startup บางเจ้าเมื่อถูกถามว่าจะได้รายได้จากไหน
เลยเป็นเรื่องยากที่เขาจะอธิบายได้ค่ะ

3. ปัญหาในอนาคต

Startup มองเห็นและนำเสนอผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่เขาลืมมองถึงปัญหาในอนาคต
ปัญหาที่ว่า ในเวลาอันไม่ใกล้ไม่ไกล
จะมีรายใหญ่ ที่พร้อมมากกว่าในด้านต้นทุนและความเชี่ยวชาญ
กระโดดลงมาทำธุรกิจประเภทเดียวกัน และอาจตั้งราคาที่ต่ำกว่าได้
แย่งกลุ่มลูกค้าในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้น
Startup เหล่านี้จะแก้ปัญหาอย่างไร?

เห็นเหล่า Startup โดนยิงจนพรุนแบบนี้
ถ้าคิดจะทำ Startup จริงจัง ต้องคิดมาให้รอบคอบมาก ๆ
แนะนำเลยนะคะสำหรับผู้ที่สนใจ การ Pitching เป็นอีกหนึ่งเวทีที่ควรศึกษาเลยค่ะ
วันนี้วันสุดท้ายแล้วของงาน Startup Thailand 2017
สามารถติดตามงานครั้งถัดไปได้ที่ https://www.facebook.com/ThailandStartup/

ฌานิญา งามพิสัย (ผิง)

เรียนที่คณะวารสารศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เด็กฝึกงาน ที่ rgb72

ตอนนี้เธอไม่ได้ทำแค่ copywrite แต่กำลังฝึก AE ด้วย

--

--