ศาสตร์ของ โยคะกับลมหายใจ เพื่อบำบัดสุขภาพ

BoNisa
BoBoat Yogi Life
Published in
2 min readJul 3, 2022

ในวิชาโยคะ เราใช้การเคลื่อนไหวร่างกาย ก้ม แอ่น เอียง บิด เป็นลักษณะต่างๆ จัดกระดูกจัดสรีระ คู่ไปกับการเคลื่อนไหวลมหายใจ เมื่อฝึกเป็นประจำ มีงานวิจัยมากมายพบว่าสามารถฟื้นฟูเซล และระบบกระแสประสาทได้อย่างรวดเร็ว อย่างมีงานวิจัยอง University of california ที่บอกว่าทำ Hatha yoga กับหายใจ ช่วยฟื้นฟูเซลเร็วกว่าเดิมเกือบ 300%

อย่างในปีนี้ คุณแม่ของผม ป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อมอย่างรุนแรง คือแม่ทำงานจนไหล่สะบักติดไปหมด จนถึงขึ้นชาลงปลายประสาทนิ้วมือ ลามขึ้นกระบอกตา.. สาเหตุทั้งหมดนี้มาจากตัวกระดูกคอมันเสื่อมจนไปบี้ทับเส้นประสาท แต่ละข้อๆ มันจะส่งอาการปวดลามไปตามส่วนต่างๆ จนท้ายที่สุดทนไม่ไหว ไปทำ MRI หมอก็บอกเป็นมาก แม่ก็ปวดมากจนทนไม่ไหว หมอเลยจะให้ผ่าคอใส่เหล็กอย่างเดียว
.
ตอนนั้นก็เกือบไปแล้ว เพราะตอนนั้นอาการปวดมันรุนแรง แต่เราขอไว้บอกว่า ลองมาฝึกโยคะง่ายๆ กับลมหายใจกันดูก่อน พอได้ยินคำว่าโยคะ มันจะมีภาพในหัวขึ้นมาว่าเป็นท่ายาก เอาขาชี้ฟ้าบ้าง เอาหัวปักดินบ้าง หมอก็จะเห็นคนฝึกโยคะแบบฝืนๆ มาบาดเจ็บก็มาก ภาพในหัวคนมาแบบนี้ก็เลยหลีกเลี่ยง.. แต่วันนั้นเราก็ขอ บอกแม่ว่าขอพาฝึกง่ายๆ เอาเท่าแค่ที่ไหว ไม่มีเจ็บไม่มีท่ายากอะไร
.
ก็พาฝึกแบบนั้นจริงๆ หยิบ Ashtanga Yoga นี่แหละแต่เฉพาะส่วนท่านั่งใน Primary แล้วมาลดรูปอีกทีเอาเท่าที่แม่พอจะทำได้ แต่ที่เพิ่มคือเราเป็นคนนำพาการหายใจ ให้มีจังหวะ ให้มีความหนักเบา ให้มีความยาว ประกอบลงไปในท่าอาสนะต่างๆ.. ฝึกสัปดาห์ละครั้ง คือแม่มีเวลากลับมาบ้านแค่นี้ ผ่านไปสักเดือนนึงครูที่สอนโยคะจะมองออก พวกกระดูกสะบักที่มันปูดๆ คอที่มันยื่นๆ มันก็ลดลง เลือดฝาดมันพอจะเห็นบนสีหน้ามากขึ้น และที่สำคัญพวกอาการชาปลายนิ้ว และที่เจ็บสะบักมากก็ลดลง.. พอไปหาหมอทั้งหมอกายภาพ และหมอที่ตอนแรกเค้าจะผ่า หมอก็บอกอาการดีขึ้น ไม่ต้องผ่าแล้ว.. ของคุณแม่ก็บำบัดแบบนี้ไป นี่เป็นแบบอาการมาก แต่มีเวลาน้อย อายุก็เริ่มมาก เราก็ยังแปลกใจว่าพอร่างกายแค่ได้กลับมายืดขยับจัดสรีระต่างๆ ด้วยสติ ด้วยลมหายใจ.. โรคต่างๆ อาการต่างๆ ที่เป็นมานาน มันฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
.
ในการฝึกลมหายใจ ในทางโยคีศาสตร์เขาเรียกกันว่า ปราณายามะ.. ปราณ ก็คือตัวลมปราณ คือพลังงานที่มาจากอากาศธาตุภายนอก มีออกซิเจน ความร้อนเย็น และอื่นๆ ที่ร่างกายเราสามารถเอามาใช้ได้..​ ส่วนคำว่า ‘ยามะ’ แปลว่าควบคุม จริงๆ ก็คือการฝึก หรือ การศึกษานี่แหละ.. คนเราส่วนมาก หายใจ แต่หายใจแบบไม่ได้ประกอบไปด้วยสติ การฝึกลมปราณ อย่าพึ่งสนใจกับคำศัพท์เท่ห์ๆ มาก หายใจไปด้วยความรู้สึก ให้ระบบประสาทเรารู้สึกว่าลมมันไปอยู่ส่วนไหน เข้าท้องพอง หรือเข้าอกยก มันก็ไม่ได้ผิดอะไรฝึกไปก่อน แต่ให้ได้หายใจด้วยสติและความตั้งใจแบบสบายๆ.. ส่วนครูจะเป็นผู้นำพารูปแบบการหายใจ มันมีหลายแบบ ช้าบ้าง ยาวบ้าง เบาบ้าง หนักบ้าง เข้าซ้ายก็มี เข้าขวาก็ได้ พอได้แล้วมันก็สนุกเหมือนออกกำลังกาย แต่ออกกำลังกายด้วยลม.. พอเริ่มเข้าใจ พวกเราจะเข้าใจเองว่าลมหายใจอย่างเดียวนี้ มันพลิกไปทำงานได้กับทุกส่วน ทุกอวัยวะในร่างกาย ทั้งระบบเลือด ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบประสาท พวกเนื้อเยื่ออ่อน เส้นเอ็น กระดูก มันไปได้หมด และที่สำคัญมันต้องรู้สึก เราเอาระบบประสาทเรานี่แหละเป็นตัวบอก ไม่ใช่มโนคิดไปเอง.. คือฝึกลมหายใจมันแค่พื้นๆ แบบนี้ เอาเพื่อสุขภาพกายและอารมณ์ก่อน ยังไม่ต้องดิ่งไปไกลขนาดคนนั่งสมาธิลึกๆ
.
ในวิชาโยคะ เขาก็แบ่งร่างกายเป็นชั้นๆ เป็นส่วนๆ เหมือนกัน.. การจำแนกอาจจะต่างจากทางพุทธบ้าง แต่ความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน คือ 1. ชั้นกายอาหาร เรียกว่า Annamaya Kosha.. คือ กายเนื้อ Physical Body ที่เรากินไปเพื่อหล่อเลี้ยงบำรุงมันนี่แหละ.. มันเกิดจากการสะสมกันของอาหาร ที่มาทำงานกับซอฟแวร์และความทรงจำที่บันทึกไว้ในเซลในพันธุกรรม.. เวลากินไปมันก็แยกส่วน แล้วส่งไปใช้ให้เป็นกล้ามเนื้อบ้าง สารหล่อเลี้ยงต่างๆ บ้าง.. กินไม่ดี กินเยอะไป ทำงานเยอะไปไม่รู้จักดูแล มันก็ป่วยเป็นโรคของมัน.. 2. ชั้นลมปราณ หรือ Pranamaya Kosha คือธาตุลม ธาตุไฟ อันเป็นของมาจากภายนอก ทำหน้าที่เข้าไปเป็นพลังงาน ทั้งเพื่อการเผาผลาญ ทั้งเพื่อเป็นกระแสไฟฟ้าต่างๆ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ระบบต่างๆ ของร่างกาย.. มีการโคจรหมุนเวียน ไขว้ไปมา ในวิชาแพทย์แผนไทย แผนจีน ก็มีการศึกษาเส้นลมนี่มาก ถ้าไม่ใช่หมอเราก็ไม่ต้องไปรู้ละเอียดขนาดนั้นก็ได้ สรุปสั้นๆ คือร่างกายเรามีเส้นทางของพลังงานนี่แหละไหลไปทุกสัดส่วน จุดตัดใหญ่ๆ เรียกว่า ‘จักระ’ เส้นทางย่อยๆ เรียก ‘นาดี’ เรื่องนี้ยาว ไว้จะขยายความในโอกาสถัดไป.. 3. ชั้นของข้อมูล หรือ Mano Maya Kosha คือมันไม่ใส่แค่สมองกับความคิดเท่านั้น แต่ในทุกๆ เซลของเราเป็นระบบข้อมูลอิสระ มีซอฟแวร์ มีการทำงานของตัวเอง และมีหน่วยความจำของตัวเอง ทำให้เรากินอะไรไปก็ได้ ตับมันก็ยังเป็นตับ ปอดก็ยังเป็นปอด ไม่ใช่เรากินตับหมูไปแล้วตับจะโตอย่างเดียว..​ในชั้นนี้ คือส่วนที่ลมปราณละเอียดเข้าไปทำงานด้วย อย่างพวกระบบต่อมไร้ท่อที่ลอยๆ อยู่..​ระบบประสาทอัตโนมัติ.. หรืออวัยวะภายในต่างๆ มันทำงานและเหนี่ยวนำได้ด้วยกระแสประสาท.. ถ้าแบบง่ายๆ เลยก็คือ เวลาคนป่วยฉุกเฉิน อย่างเป็นแพนิก หรือชัก ถ้าพอหายใจได้ คนปฐมพยาบาลจะบอกให้หายใจช้าๆ หายใจเช้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ มันก็จะเริ่มหาจุดสมดุลย์ได้ คือลมหายใจเรานี่แหละที่มันไปทำงานกับระบบข้อมูลในเซล ในอวัยวะต่างๆ และส่งสัญญานบอกให้เกร็งหรือให้ผ่อนได้..
.
หลังจากนี้อีกสองชั้น เป็นส่วนที่อยู่นอกเหนือกฎของฟิสิกส์ คือเป็น Non-Physical Dimension อันประกอบด้วย 4. ชั้นของความรู้ หรือ ตัวรู้ เรียกว่า Vijanamaya Kosha คือในไทยเราที่เรียกว่า วิญญาณนี่แหละ การศึกษามันมาทางเดียวกันยุคนั้น.. คำว่า วิ มาจาก Visesh หรือ วิเศษ.. แปลว่า ขั้นกว่า หรือ อย่างยิ่ง.. ส่วนคำว่า ญาณ ก็คือ ‘ความรู้’ แต่มันไม่ใช่ความรู้แบบที่เราเรียนมาจากหนังสือ มันเป็นความรู้ ความเข้าใจ ที่มันมีอยู่ของมันในธรรมชาติ.. และเมื่อรวมกับ วิ มันก็เลยเป็นความรู้ขั้นกว่า หมายความว่า มันเป็นความรู้ที่เกินขอบเขตของระบบประสาททาง ตามองเห็น เกินที่หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส และสมองนึกคิด..​ ถึงเวลามันจะรู้ขึ้นมาเอง และสุดท้ายคือ 5. ชั้นของอนันดา มันเป็นพลังงานดั้งเดิม เมื่อตัวเรามีสมาธิพอ ใจเราเปิดออกพอ เมื่อได้ไปสัมผัสประสบการณ์ที่ได้รับคือความสุขอย่างยิ่ง ความสุขอย่างละเอียด ใครที่เคยนั่งสมาธิเข้าญาณ หรือฝึกลมปราณละเอียด ก็จะสัมผัสได้ตรงนี้ ตัวเขาเป็นพลังงานของเขา แต่พอเราไปสัมผัสได้ ประสบการณ์ที่เราได้รับคือความสงบสุข
.
ตัวที่เราจะมาเรียน มาฝึก กันมาก คือตัวของลมหายใจ กับตัวของร่างกาย เพราะเป็นของพื้นๆ ที่ยังไงถ้ายังไม่ตาย เราก็ต้องอยู่กับมัน และด้วยลมปราณมันเชื่อมไปทุกชั้นทุกระบบ เมื่อฝึกให้ดีแล้วสุขภาพทั้งโรคจากร่างกาย โรคจากอารมณ์ และโรคจะความคิด ก็จะลดลง หรือหายไปอย่างแน่นอน เหมือนเครื่องยนต์ที่น้ำมันดี เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สายไฟดี การทำงานของมันจะดี โรคต่างๆ จะอยู่ไม่ได้เอง
.
วันนี้ก็ขอเกริ่นเรื่องศาสตร์ของลมหายใจเพื่อสุขภาพ ประมาณนี้ เดี๋ยวที่เหลือเรามาฝึกด้วยกัน
.
เพจ: BoBoat Yogi Life
29 มิ.ย. 2022

--

--