Ekadashi — Yogi Fasting Day

BoNisa
BoBoat Yogi Life
Published in
2 min readAug 30, 2022

วันอดอาหาร ชาวโยคี กับการคล้อยตามพลังงานโลก เพื่อสุขภาพ

โพสนี้จะพูดถึงเรื่องนี้ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกิน กับพลังงานของโลกและพระจันทร์

ในทางฝั่งอินเดีย ตั้งแต่หลายพันปีก่อน ผ่านมาอีกหลายยุค หลายศาสนา ตั้งแต่พระเวท, Jani, พุทธ, ฮินดู จนกระทั่งปัจจุบัน

การอดอาหาร หรือ Fasting เป็นสิ่งปกติที่ทำกันในบางช่วงของเดือน (หรืออย่างน้อยคือ ไม่ทานข้าว หรือแป้ง) เพื่อช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี และช่วยชะล้างของเสียในระบบออกไป

โดยมีอยู่วันหนึ่งที่อยากนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง คือวันที่เรียกว่า Ekadashi ครูเรียกง่ายๆ ว่า วันอดอาหารชาวโยคี.. แต่จริงๆ หลายๆ ศาสนาในอินเดียก็อดอาหารในวันนี้เช่นกัน

Eka แปลว่า “ความเป็นหนึ่ง” หรือ Single หรือ Oneness

Dashi มีหลายความหมาย แต่ใจความไปในทางของ คนที่ใช้แรงงาน หรือ วรรณะทาส ในทางของเขา.. แต่เดี๋ยวนี้จะเป็นคนทั่วๆ ไป ไม่ได้แบ่งแยกแบบนั้น.. หรืออาจจะรวมไปได้ถึงคนที่ฝึกตน ที่ไม่ได้สนใจในอาหารการกินมากแล้ว.. อย่างพวกโยคี ฤาษี หรือ ผู้ปฎิบัติของศาสนาต่างๆ

Ekadashi จึงเป็นวันหนึ่งที่ คนที่ปฎิบัติเพื่อออกจากความสนใจในอาหาร พากันทำ Fasting เพื่อการเจริญในทางจิตวิญญาน หรือ Spiritual

โดย Ekadashi จะนับจากวันที่ 11 หลังจากผ่านรอบพระจันทร์เต็มดวง (Full moon) และ จันทร์แรมไป (New moon)..

อย่างในช่วงวันที่ครูเขียนนี่ คือ 23 สิงหาคม 65.. นับหลังจากรอบพระจันทร์เต็มดวงที่แล้ว คือ วันที่ 12 สิงหาคม 65 ได้ 11 วันพอดี.. หรือมองอีกครึ่งหนึ่งคือ อีก 4 วัน จะถึงรอบจันทร์แรมใหม่ (อย่างในเดือนนี้คือวันที่ 27 สิงหาคม)

ทำไมเขาถึงอดอาหาร กันช่วงก่อนจันทร์แรม?

ก่อนอื่นอยากท้าวความเรื่อง ดวงจันทร์ กับแรงดึงดูดก่อน

ถ้าเราสังเกตให้ดี ในธรรมชาติ สัตว์จะมีบางช่วง บางวัน ที่เขาไม่ค่อยทานอาหาร

อย่างฮะจิ (ลูกหมาที่บ้าน) ช่วงสัปดาห์นี้ก็จะ ไม่ค่อยกินข้าว ถึงเอาอาหารอร่อยให้ ก็จะกินไม่มาก..

ในธรรมชาติ การขึ้นลงของดวงจันทร์ ส่งผลต่อระบบน้ำขึ้นน้ำลง และจะส่งผลต่อระดับน้ำขึ้นลงมากที่สุดช่วงที่จันทร์เต็มดวง หรือ เดือนแรม เนื่องจากตำแหน่งของดวงจันทร์อยู่แนวเดียวกับพระอาทิตย์ ทำให้มีแรงดึงดูดดึงน้ำมากขึ้น

ในช่วงที่พระจันทร์เต็มดวง (Full moon) ถ้าใครปลูกผัก ใช้ระบบธรรมชาติ หรือออแกนิค ลองสังเกตดูว่า พืช ผัก จะโตเร็วขึ้นช่วงนี้ สัมพันธ์กับระบบพลังงานจากดวงจันทร์

ส่วนในช่วงใกล้ๆ เดือนแรม (New Moon) จะเป็นช่วงที่ระดับน้ำขึ้นและลง แตกต่างกันมากที่สุดจากอิทธิพลดวงจันทร์อยู่แนวเดียวกับดวงอาทิตย์ ฝั่งใกล้พระอาทิตย์

แล้วเกี่ยวอะไรกับ สุขภาพและการ Fasting

ถ้าใครได้อยู่กับธรรมชาติมากหน่อย (คนอยู่นอกเมือง) ระบบน้ำในร่างกายเรา จะสัมพันธ์กับอิทธิพลพวกนี้มาก

อย่างของครูโบ หลังฝึกโยคะทุกวัน รอบของประจำเดือน จะมาแถวๆ ช่วงจันทร์แรมตลอด เป็นมานานแล้ว ซึ่งแต่ก่อนฝึกโยคะไม่เป็น เพราะร่างกายเขาค่อยๆ ปรับตัวไปตามพลังงานบนโลกได้ดีขึ้น จากแต่ก่อนได้อิทธิพลจากระบบความคิดเป็นหลัก

กลับมาที่เรื่องของสุขภาพ

เซลต่างๆ ในร่างกายคนเราก็ได้รับอิทธิพลจากพลังงานในธรรมชาติด้วย

อย่างเรากินอาหาร หลังจากนั้นก็จะย่อย หลังจากย่อย จะเป็นกระบวนการแปรรูปสารอาหารเป็นพลังงานแล้วเอาไปเลี้ยงอวัยวะ..

สุดท้ายเมื่ออวัยวะใช้พลังงาน จะเกิดของเสียขึ้นมา ซึ่งปกติจะมีการขับออกทางการขับถ่าย หรือเหงื่อ และการหายใจออก

แต่ในช่วงก่อน Full moon, New moon จะเป็นช่วงที่ระบบน้ำในตัว ขึ้นสูงกว่าปกติ (คล้ายระบบน้ำขึ้นลงของทะเล) จึงเป็นช่วงที่ร่างกายมักขับของเสีย (อย่างผู้หญิงหลายท่านมีรอบเดือนช่วงนี้)

สำหรับเรื่องอาหาร

ถ้าลองฟังร่างกายดู จะพบว่า

ช่วงก่อน Full moon, New moon เป็นช่วงที่ร่างกายตึงกว่าปกติ.. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝน อย่างเดือนสิงหา นี่ ของครูจะรู้สึกความดันในตาสูงกว่าเดิม แน่นหัว..

ตรงนี้ไม่ได้สังเกตรู้สึกได้ทุกคน ถ้าใครฟังร่างกายบ่อยๆ จะรู้สึกตรงนี้ได้ อย่างเช่นคนที่ฝึกโยคะทุกวัน จนจำส่วนต่างๆของร่ายกายตัวเองได้

ซึ่งหลายๆ ทีเราไม่ได้ดูปฏิทิน แต่รู้สึกได้ว่า

*** น่าจะใกล้รอบพระจันทร์แล้ว ***

เพราะพลังงานโลก กับร่างกาย มันสัมพันธ์กัน

และถ้าใครอยากใช้ประโยชน์จากเขาให้ได้เต็มที่

ช่วงที่เรียกว่า Ekadashi หรือ ก่อน Full moon, New moon สัก 4 วัน.. ร่างกายจะอยู่ในโหมดที่อยากขับของเสีย.. การที่ไม่เติมอาหาร หรือทานน้อยหน่อย.. จะส่งผลดีกับการขับของเสียมาก

ใครที่ทานมากช่วงนี้ จะทำให้ร่างกายอึดอัด และระบบเซลต่างๆ มีแต่ช่วงที่รับสารอาหาร แต่อาจจะไม่เพียงพอในการขับของเสียทิ้ง

อันนี้เป็นภูมิปัญญาโบราณที่มีมานานแล้ว และสังเกตดู จะมีหลายกลุ่มหลายศาสนาก็อาศัยเรื่องนี้ กับการอดอาหาร อาจจะต่างกันไปบ้าง แต่จะอยู่ในแนวทางนี้

เพราะท่านต่างๆ พบว่า ดวงจันทร์ส่งอิทธิพลต่อระบบน้ำ และระบบอารมณ์ ระบบฮอร์โมนในร่างกาย พอสมควร

ถ้าเราอารมณ์ดี จิตใจดี ดวงจันทร์จะเสริมให้ จึงเหมาะแก่การทานของเย็นๆ หรือทานน้อย หรือฝึกสมาธิเป็นต้น

แต่ถ้าใครที่ป่วย คิดมาก อารมณ์ไม่ค่อยดี ช่วงรอบพระจันทร์จะได้อิทธิพลทางลบ เสริมไปให้แย่กว่าเดิม

ซึ่งจริงๆ แล้ว จากความรู้สึกของครูที่ฟังร่างกายตัวเอง มันไม่ได้แป๊ะๆ ว่าเราต้องอดอาหารก่อนพระจันทร์กี่วันๆ แต่สำหรับครูคือ จะรู้สึกได้ว่า “ช่วงแถวนี้” มันมีผลดีต่อสุขภาพ ถ้าทานน้อยหน่อย สัก 3–4 วันก่อนรอบพระจันทร์ จะดี.. ถ้าฝืนร่างกายจะแน่นเป็นพิเศษ

และเมื่อถึงช่วงพระจันทร์ จะทำให้ร่างกายได้พักอย่างเต็มที่ มีความเย็นสบาย และเหมาะในการฝึกสมาธิ หรือฝึกลมหายใจ ลมปราณต่างๆ

เห็นไหมว่า พิธีกรรมต่างๆ นี่จริงๆ มีความเข้าใจเรื่องพลังงานเป็นที่มา ใครฝึกโยคะด้วยกันลองสังเกตดูนะครับ

ถ้าเราพัฒนา Life Sensitivity หรือความละเอียดในการรับรู้ชีวิต รับรู้พลังงานขึ้นมาได้ จากการฝึกโยคะ ฝึกลมหายใจ หรือสติ สมาธิ นี่แหละ

การใช้ชีวิตเรา จะมีวงจรที่ไม่ขัดแย้งกับระบบพลังงาน จะใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แปรปรวนมาก และสุขภาพ อารมณ์ ความสดชื่นต่างๆ จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ดังนั้น ใครสามารถทานน้อยสักนิดได้ช่วงนี้ (ไม่ต้องตรงวัน Ekadashi แป๊ะก็ได้ เอาแถวๆ นี้จนถึง New moon)

ลองดูนะครับ

รู้สึกอย่างไร นำมาเล่าสู่กันฟังได้

ยกเว้นรู้สึกหิวนะ อันนี้ ถ้าไม่เคยฝึกอด ฝึก Fasting บ้างจะเป็นกันทุกคน 55

BoBoat Yogi Life

23 สค. 65

--

--