[รีวิว + สปอย]หนังสือ : How to live a good life
ชีวิตที่ดีคือกระบวนการ มันคือทิศทาง ไม่ใช่จุดหมาย
รีวิว
- เล่มนี้พูดถึงชีวิตที่ดีในมุมมองทางปรัชญาต่างๆทั่วโลกอย่าง เต๋า, สโตอิก, อิคิไก,วะบิ-ซะบินิกเซน, ฮุกกะ, ซิสุ, เตอสแด็ดนิง
- ท้ายเล่มมีรวบทุกมุมมองมาเป็นข้อสรุปในการใช้ชีวิตให้ด้วย แล้วปิดด้วยบทที่รวมเอาตั้ง 8 มุมมองมายำรวมกัน
- อ่านจะแล้วก็พอรู้ว่า ชีวิตที่ดีขึ้นอยู่กับมุมมองจริงๆ
Shopee : https://shope.ee/3px9mDRldV
Laz : https://s.lazada.co.th/s.OTLq1?cc
Link ย่อ : bit.ly/mosbook2023-029
สปอย
“ชีวิตที่ดี” ที่ผมได้เรียนรู้
1. เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล
2. ทำเต็มที่โดยไม่คาดหวังผลลัพธ์
3. เข้าใจตัวเอง ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น
4. มีน้อยลง สุขมากขึ้น
5. ผูกมัดตัวเองกับบางสิ่งที่มีความหมาย
6. ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ
7. สิ่งมีค่าแท้จริงมองไม่เห็นด้วยตา
8. อยู่ที่นี่ ณ ตอนนี้
Taoism : Ancient China
ชีวิตที่ดีในมุมมองเต๋า
การลดความคาดหวังลงบ้าง น่าจะทำให้มีความสุขได้ง่ายขึ้น
อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
- เริ่มจากมีทัศนคติที่ถูกต้อง รู้ว่าทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์กันไม่ควรเห็นตนเองสำคัญเหนือสิ่งใด
- ทัศนคติเช่นนี้นำไปสู่ความรู้สึกขอบคุณคนอื่นและสิ่งอื่นซึ่งเกื้อหนุนชีวิตเรา
- ไม่แยกตัวเองออกจาก ‘ทั้งหมด’ ไม่พยายามโดดเด่นหรือแตกต่าง
- ไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องรักษาตัวตน เพียงเป็นไปตามธรรมชาติของตัวเอง
- แทนที่จะยึดมั่นสิ่งต่างๆ ลองสละละวางและปล่อยมือจากการมีและเป็น
- ไม่นำความคาดหวังของตนไปขวางทางสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย
- อยู่กับสิ่งตรงหน้า เป็นอย่างที่เป็นอย่างแท้จริง เต็มอิ่มกับสิ่งนั้น
- เต็มที่กับทุกสิ่งที่ทำโดยไม่คาดหวังผลลัพธ์
ความสุขที่แท้ไม่ได้เกิดจากการเปรียบเทียบ
- ในธรรมชาติ ทุกชีวิตมีจุดแข็งจุดอ่อนเพื่อให้ภาพรวมทั้งหมดสมดุล
- ทุกชีวิตสามารถยินดีกับสิ่งที่เป็นได้โดยไม่ต้องดีกว่าใคร
- เข้าใจธรรมชาติตัวเอง เต็มในตัวเอง ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองกับใคร
- เข้าใจธรรมชาติคนอื่น ชื่นชมในสิ่งที่เขาเป็น
- ชีวิตที่เปี่ยมสุขโดยไม่ต้องรอคอยสิ่งใดเป็นชีวิตที่ดี
- เราเป็นเจ้าของความสุขของตัวเอง ไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ใดๆ
- เพียงอยู่กับสถานการณ์นั้น ไม่ดิ้นรนหลบหนีด้วยความคิดและความคาดหวัง
- จริงแท้กับตัวเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อวัดคุณค่าตนด้วยไม้บรรทัดคนอื่น
- เมื่อรักตัวเองได้ในแบบที่เป็นก็ไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น
- ยอมรับตัวเองในทุกมิติ ทั้งสว่างและมืด
- รักทุกสิ่งที่ตัวเองเป็น ทุกสิ่งที่ชีวิตมอบให้
- ถึงที่สุดแล้วไม่มีดีหรือร้าย มันเพียงเป็นไปตามที่ต้องเป็น
ความสุข = เหตุการณ์ที่เกิด — ความคาดหวัง
Stoicism : Ancient Greek
ชีวิตที่ดีในมุมมองสโตอิก
เรียนรู้ที่จะเตรียมพร้อมรับโชคชะตาทุกอย่าง
สถาณการณ์ไม่ได้ทำให้เราสุขหรือทุกข์ วิธีที่เราตอบสนองต่างหากที่ทำให้เราสุขหรือทุกข์
- ภัยพิบัติคือโอกาสของความดีงาม
- เรื่องร้ายในชีวิตเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันช่วยให้เราเติบโตได้
- อุปสรรคเหมือนอุปกรณ์ให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น เพื่อใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
- โฟกัสสิ่งที่ทำได้ และทำให้สุดความสามารถ
- อยู่กับตัวตนที่ดีงามที่สุด ไม่ว่าภายใต้สถานการณ์ไหนสถานการณ์ไม่ได้ทำให้เราสุขหรือทุกข์ วิธีตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นต่างหาก
- การไม่พยายามเต็มที่จะเปิดช่องว่างให้กับความเศร้าใจเสียดาย และวิตกกังวล
- ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงยอมรับและทำภายใต้เงื่อนไขนั้นให้ดีที่สุด
- ความสำเร็จมิได้วัดที่ผลแพ้ชนะ หากวัดกันที่ความทุ่มเทขณะลงสนาม
แม้แก้วแตกไป แต่โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีแก้วใบนั้นมาตั้งแต่ต้น
- สิ่งที่ขึ้นอยู่กับเราเท่านั้นถึงจะนับได้ว่าเป็นสิ่งดีหรือสิ่งร้าย นอกเหนือไปจากนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ต้องแยแส
- แยกแยะ “สิ่งที่ไม่ต้องแยแส” และฝึกแน่นิ่งกับมันบ่อยๆ
- มีเพียงผู้ไม่ต้องการสิ่งใดจากคนอื่นหรือสิ่งอื่นเท่านั้นที่เป็นอิสระ
เรามีเสรีภาพที่จะเลือกตีความเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
- การฝึกลำบากช่วยลดความยึดมั่นในความสุขตามความคาดหวัง
- เตรียมใจรับมือกับสิ่งที่ต้องเผชิญตามจริง ไม่คาดหวังให้ดีงามกว่าความจริง
- จินตนาการแง่ร้ายที่สุดไว้ เป็นวิธีฝึกเตรียมใจที่ดี
- ความจริงแล้วไม่มีอะไรเป็นของเราตั้งแต่แรก หมดเวลาก็คืนมันไป
- ปล่อยให้น้ำตาไหล แต่ก็จงปล่อยให้มันหยุดด้วย
- มีสติเพื่อมองเห็นช่องว่างของการตัดสินใจเลือกตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ
- เดินหน้าเข้าหาเป้าหมายสูงสุดคือตัวตนที่ดีงามที่สุดของตัวเองเสมอ
โฟกัสแต่สิ่งที่ควบคุมได้ !!
ซึ่งก็คือ ความคิดและการกระทำของเรา
IKIGAI : Japan
ชีวิตที่ดีในมุมมองอิคิไก
เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อพิสูจน์ให้คนอื่นยอมรับ แต่มีชีวิตเพื่อทำในสิ่งที่เชื่อและหลงไหล
มีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่กับสิ่งที่รักตลอดเวลา
- เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ทำให้มีความกระตือรือร้น ไม่เบื่อหน่าย
- ทำอย่างใส่ใจและทุ่มเทจะมอบความรู้สึกภูมิใจและอยากทำสิ่งนั้นให้ดียิ่งขึ้น
- โอบรับส่วนที่ยากหรือไม่น่าพึงใจของการงานที่ชอบ
มองเห็นเส้นชัย หลงใหลกระบวนการ
- ไม่สำคัญว่าทำอะไร หากคือทำอย่างไร
- เป็นเป้าประสงค์จากภายใน ไม่ได้แสวงหาการยอมรับจากภายนอก
- ต้อนรับตัวเองในทุกเช้าด้วยเหตุผลเล็กๆ ในการตื่นขึ้น
- มองหาความสนุกเหมือนเล่นเกมในหน้าที่การงานของตัวเอง
Ikigai คือจุดร่วมกันของ สิ่งที่รัก สิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่มีคนจ่ายเงินให้ทำ และ สิ่งที่โลกต้องการ
- เหตุผลในการตื่นอาจไม่ใช่เรื่องงานเสมอไป
- ทำในสิ่งที่ตัวเองมองเห็นว่ามีคุณค่า ไม่ต้องให้คนอื่นมาประทับตรา
- กำไรจากการงาน บางครั้งมาในรูปความภาคภูมิใจ
- เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ แล้วจะภูมิใจ
- ความละเอียดอ่อนทำให้มองเห็นรายละเอียดของชีวิต
- เมื่อให้ความสำคัญ สิ่งเล็กๆ ก็พิเศษขึ้นมา
ทำงานอยู่เสมอ
- สังสรรค์และให้เวลากับคนใกล้ชิด
- ทบทวนตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าทำอะไรแล้วมีความสุข
- ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนั้นเป็นอาชีพ แต่ให้เวลากับมันบ้าง
- บางครั้งต้องรอเวลาเพื่อจะได้ทำในสิ่งที่เป็นอิคิไก
- งาน กิจกรรม หน้าที่ ขนมนมเนย ดอกไม้ เสียงฝนผู้คน เป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ได้ทั้งนั้น ไม่ประนีประนอม
ทันทีที่เราให้ความสำคัญ มันก็กลายเป็นสิ่งสำคัญขึ้นมาจริงๆ
Wabi-sabi : Japan
ขีวิตที่ดีในมุมมองวะบิ-ซะบิ
ความไม่สมบูรณ์แบบคือความปกติ
เหมือนจัดบ้านไปเรื่อยๆ
- โลกนี้ไม่มีสิ่งสมบูรณ์แบบ คงทนถาวร และเสร็จสมบูรณ์
หากคาดหวังถึงความสมบูรณ์ก็เตรียมผิดหวังได้เลย
- ความไม่สมบูรณ์แบบ เปลี่ยนแปลง เสื่อมถอย มีความงาม
- ความงามเช่นนี้เป็นความงามตามธรรมชาติ
- เมื่อโอบรับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองได้ ใจจะเบาขึ้น
- เมื่อพึงพอใจกับทั้งหมดที่มี เราย่อมรู้สึกสมบูรณ์ในตัวเอง
- ซ่อมแชมรอยแตกด้วยการทำให้ความผิดพลาดนั้นงดงาม
- คนอื่นก็ไม่สมบูรณ์แบบ จงโอบกอดสิ่งนี้ในตัวเขา
- โลกตะวันออกปรับใจยอมรับโลกที่ไม่เป็นดั่งใจได้
- สันโดษคือแยกตนออกจากเกณฑ์วัดคุณค่าของคนอื่น
- ในโลกอลหม่านและไม่แน่นอน เราก็สามารถหาความสงบใจได้
- สนิทสนมกับข้าวของเก่าแก่ที่มีเรื่องราว แทนที่จะทิ้งไปง่ายๆ
การมีของน้อยชิ้นทำให้ผูกพันลึกซึ้งกว่าการมีมากเกิน
- เมื่อหัวใจละเอียดอ่อนจะมองเห็นความงามและความสุขง่ายขึ้น
- ยิ่งตระหนักถึงความไม่จีรัง สิ่งนั้นยิ่งงาม
- เมื่อยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบย่อมมีความสุขง่ายขึ้น
- ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ของใหม่เอี่ยมก็พอใจได้
- อยู่ร่วมกับความขาดๆ เกินๆ ของตัวเองและคนอื่นได้ดีขึ้น
- อยู่ที่ไหนก็พึงพอใจได้ แม้ไม่สมบูรณ์แบบ
- มองชีวิตว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์ ค่อยๆ ตกแต่งซ่อมแซมกันไป
การเรียกร้องความสมบูรณ์แบบกับตัวเองตลอดเวลา แบบนั้นไม่น่าจะใช่ ‘ชีวิตที่ดี’
Niksen : The Netherlands
ขีวิตที่ดีในมุมมองนิกเซน
ความสุขเกิดขึ้นเมื่อคุณเลือกวิถีชีวิตเอง ไม่ต้องดีงามตามบรรทัดฐานของใคร
- การพัก (ไม่ทำอะไรเลย) สำคัญต่อชีวิต
- การไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่เรื่องผิด
- การอยู่เฉยๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ สุขภาพ และความสุข
ถ้ารู้สึกผิดเวลาไม่ทำอะไรเลย ลองทบทวนคุณค่าในใจตน
- บางมุม นิกเซนเหมือนการปล่อยใจฝันกลางวัน
- สามารถทำได้โดยใช้เวลาสั้นๆ คั่นจังหวะชีวิต
- สามารถจัดสรรเวลาเพื่อหาช่วงนิกส์ให้ตัวเอง
- ปกติตารางชีวิตมักแน่นเกินไปด้วยงานและกิจกรรม ไม่มีที่ว่างเลย
- โมเมนต์ยูเรก้าที่คิดไอเดียดีๆ ออกมักเกิดในช่วงผ่อนคลาย
- กิจกรรมงานอดิเรกไม่ควรตั้งเป้าหมายเลิศจนกดดันตัวเอง
- ลองทำสิ่งต่างๆ เพียงแค่ทำ ไม่หวังผลลัพธ์ดูบ้าง
- อย่าแปะป้ายตัวเองหรือใครว่าขี้เกียจ ทุกคนมีสิทธิ์จะนั่งเฉยๆ
- หากรู้สึกไม่ดีกับการไม่ทำอะไรเลย ลองยอมรับความรู้สึกนั้น
- แล้วค่อยๆ เพิ่มคุณค่าของการไม่ทำอะไรเลยลงไปในชีวิต
- นิกเซนคือมุมมองในการทำสิ่งต่างๆ แบบไม่เอาเป็นเอาตาย
- ลองใช้เวลาว่างกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว กลับมามีสติ
- การเห็นหรือเท่าทันความคิดและความรู้สึกทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
- ความเท่าทันทำให้เห็นว่าเราหวั่นไหวเรื่องใด ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ต้องการอะไร
- แล้วค่อยๆ มั่นคงในคุณค่าของตัวเอง โดยไม่ต้องพิสูจน์หรือเปรียบเทียบกับใคร
- เห็นคุณค่าของสิ่งธรรมดาที่เคยมองข้ามไปเพราะชีวิตเร่งรีบ
- เมื่อได้พัก ได้เข้าใจตัวเอง รื่นรมย์กับสิ่งต่างๆ ก็ย่อมรักชีวิต
ไม่ต้องรอจนมีชีวิตแบบในฝัน ถึงจะมีความสุข ยอมรับในสิ่งที่ลงตัวกับศักยภาพและเงื่อนไขในชีวิตตัวเอง
Hygge : Denmark
ชีวิตที่ดีในมุมมองฮุกกะ
เคลื่อนไหวเยอะๆ เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทำสิ่งที่มีความหมาย แล้วจะมีความสุข
- ฮุกกะคือสภาพแวดล้อมที่อุ่นใจกับคนที่เราไว้วางใจ
- ฮุกกะจะยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อถูกขับเน้นโดยพายุกระหน่ำข้างนอก
- คือการควบคุมสภาพแวดล้อมในโลกที่ควบคุมไม่ได้
เน้นความสำคัญของ we มากกว่า me
- หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ชื่นชมความสมานฉันท์
- ความเท่าเทียม ความใส่ใจ ความผูกพัน เป็นสิ่งสำคัญ
- วัฒนธรรมและสภาพอากาศมีผลต่อการสร้างบรรยากาศฮุกกะ
- ฮุกกะต้องการความไว้วางใจระหว่างกัน จึงอุ่นใจ
- ความไว้วางใจเกิดจากอำนาจที่ไม่ห่างชั้นกัน
- บรรยากาศในเมืองก็สร้างความรู้สึกฮุกกะได้
- เคล็ดลับคือเมืองนั้นต้องคิดถึง we มากกว่า me
- รากศัพท์ของ hygge มาจากคำว่ากอด
ความสุขเกิดจากการได้แบ่งปันร่วมกัน
- ฮุกกะช่วยเพิ่มช่วงเวลาดีๆ ให้ชีวิต (ความสุขในแต่ละวัน)
- เมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จะมีความสุขกับภาพรวมของชีวิต
- ความสวยงามของบ้านและเมืองมีผลต่อความสุข
- กฏยานเต้ไม่เน้นความสำคัญของปัจเจกบุคคล
- เมื่อไม่ข้าตัวเองมากก็ไม่ต้องโดดเด่น เป็นที่หนึ่ง หรือชนะคนอื่น
- ทัศนคติเช่นนี้สร้างบรรยากาศแห่งความอุ่นใจ
- ยิ่งโลกภายนอกโกลาหล ความอุ่นใจในบ้านยิ่งสำคัญ
- เราสามารถสร้างช่วงเวลาที่ดีให้เกิดขึ้นได้
Sisu : Finland
ชีวิตที่ดีในมุมมองซิสุ
ชีวิตมันยาก แต่มันก็เปิดโอกาสให้เห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง
- ใช้ความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นรับมือความท้าทายในชีวิต
- ฝึกความแข็งแกร่งได้ด้วยการทำสิ่งที่ท้าทาย เช่น แช่ตัวในน้ำเย็นจัดบ่อยๆ
- ชาวน่าช่วยฟื้นพลังและผ่อนคลายความเครียด
- สารแห่งความสุขมากมายหลั่งออกมาเมื่อร่างกายสัมผัสน้ำเย็นเฉียบ
- ชาวน่าส่งผลดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ทำให้สุขภาพดี
- การมองเห็นร่างกายกันและกันทำให้เกิดการยอมรับตัวเองและผู้อื่น
- ชาวน่าเป็นช่วงเวลาที่ได้ปรับทุกข์กับคนใกล้ชิด
- ความมุ่งมั่นแบบชิสุเกิดจากภูมิประเทศ อากาศ และประวัติศาสตร์
ชิสุคือความสามารถในการอดทนกับความเครียดขณะลงมือฟันฝ่าอุปสรรค
- ความแข็งแกร่งเกิดขึ้นเมื่อลงมือทำด้วยร่างกาย
- ชิสุทำให้เกิดความน่าไว้วางใจ กล่าวคือทำตามสัญญาเสมอไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ซิสุบ่มเพาะได้ด้วยการทำสิ่งที่สัญญากับตัวเองไว้อย่างสม่ำเสมอ
ต้องระวังไม่ควรกดดันตัวเองจนเกินไป
- เลือกกิจวัตรหรือเป้าหมายที่เหมาะกับตัวเอง
- การเชื่อมโยงกับธรรมชาติช่วยพื้นฟูจิตใจได้
- ในแง่หนึ่ง ซิสุคือการประคองไว้ แล้วไปต่อ
ความถ่อมตัวเป็นปัจจัยของความสุขที่ไม่ต้องโอ้อวด
- ทำในสิ่งที่เราเห็นว่าสำคัญ มิใช่ในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าสำคัญ
- ชีวิตโยนโจทย์ยากมาให้เสมอ เพียงแค่เดินหน้าต่อเท่าที่ทำได้
- ใช้ชิสุไปกับสิ่งสำคัญจริงๆ
- ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทาย จิตใจที่ไม่หวั่นไหวเป็นสิ่งสำคัญ
วันที่อากาศแย่ มันเกิดขึ้นโดยที่เราคุมไม่ได้ เราทำได้แค่ประคับประคองตัวในแต่ละฤดูแล้วก็ไปต่อ เหมือนวันธรรมดาวันหนึ่ง
Daostanding : Sweden
ชีวิตที่ดีในมุมมองเตอสแด็ดนิง
ของทุกชิ้นที่เราซื้อมา คือเวลาชีวิตที่เราแลกไป
ถ้าอยากได้น้อยลง ก็เหนื่อยน้อยลง เอาไปเวลาไปทำสิ่งที่ชอบได้มากขึ้น
- ตระหนักว่าเราทุกคนต้องตาย
- เมื่อตายจากไป ไม่ควรทิ้งสิ่งของไว้เป็นภาระของคนข้างหลัง
- การจัดการสิ่งของเป็นการเตรียมตัวตายแบบหนึ่งและเป็นการทบทวนเพื่อเข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วย
- บ้านหลายหลังมีของมากมายเกินจำเป็น
ของทุกชิ้นคือเวลาชีวิตที่ใช้ไปเพื่อแลกมันมา
ยิ่งของเยอะก็เสียเวลาดูแลเยอะ
- ทิ้งของบ่อยๆ แล้วจะซื้อของน้อยลง
- หัดมีความสุขกับการไม่ครอบครอง
- ของที่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เห็น ไม่ควรต้องเก็บไว้
- เมื่อไม่ใช้แล้วก็ส่งต่อให้คนอื่น อาจมีคนรุ่นใหม่ต้องการมัน
- บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งของก่อนส่งมอบให้เจ้าของรายใหม่
- ตระหนักว่าสิ่งที่เคยต้องการมาก ตอนนี้เราอาจไม่ต้องการแล้ว
- และสิ่งที่เคยทำให้มีความสุข ตอนนี้อาจทำให้ทุกข์ใจ
- สิ่งของที่อาจทำให้คนอยู่ข้างหลังทะเลาะเบาะแว้ง ให้จัดการมันเสีย
- จัดการความลับให้เรียบร้อยก่อนตายจากไป
- เหลือไว้แต่สิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
- เล็กลงคือสบายขึ้น
- การทิ้งของคือการหัดปล่อยมือจากสิ่งที่ชอบ
- ถึงวันหนึ่งการให้สุขใจกว่าการได้ครอบครอง
- สิ่งมีค่าที่สุดไม่ใช่สิ่งของ
อย่าทิ้งมรดกไว้เป็นภาระลูกหลาน จัดการก่อนที่พวกเขาจะตีกันเอง
ชีวิตที่มีเรื่องให้ดูแลน้อยกว่า เป็นชีวิตที่เบาสบายกว่า