5 วิธีกำจัดอีโก้ของตัวเองให้ราบคาบ

ทุกคนต่างเคยเจอคนอีโก้สูงในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เพื่อน หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว เราต่างรู้ว่าการอยู่กับคนประเภทนี้นานๆมันไม่สนุกเลย แล้วยิ่งถ้าคนคนนั้นคือตัวเราเอง

เราอาจจะมีนิยามของคำว่าคนอีโก้สูงต่างกัน แต่หลักๆแล้วคนพวกนี้จะไม่ฟังใคร เอาตัวเองเป็นหลัก และพยายามกดให้คนรอบข้างดูด้อยกว่าตัวเอง

ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดีแล้วทำไมยังจะทำตัวแบบนั้น? เพราะหลายครั้งเราต้องการพิสูจน์จุดยืนของตัวเองในสังคม พิสูจน์ว่าเราเก่ง มีความสามารถ น่าเคารพ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร แต่อาจจะลืมคิดไปว่ายิ่งเราทำตัวอีโก้สูงนี่แหละมันจะยิ่งทำให้เราไม่น่าคบ

ผมว่ามันไม่แปลกที่เราทุกคนจะมีอีโก้สูงบ้าง ทั้งที่ปกติเราอาจจะไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องแปลกก็ไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะยังไงมันก็กระทบจิตใจคนรอบข้าง สุดท้ายก็จะเป็นเราเองที่ต้องแบกความทุกข์และความรู้สึกผิดไว้ในทุกๆที่ที่เราไป

ผมเลยอยากจะเอา 5 วิธีกำจัดอีโก้มาให้เพื่อนๆได้ลองอ่าน ซึ่งสุดท้ายมันจะไม่ใช่แค่การกำจัดอีโก้ แต่มันจะยิ่งยกระดับจิตใจและความเก่งของเราให้สูงขึ้นด้วยซ้ำ

1. เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

นี่เป็นสิ่งที่ทำง่ายและสนุกที่สุด คุณอาจจะคิดว่าหนอนหนังสืออย่างผมจะแนะนำให้อ่านหนังสือลูกเดียว แต่ไม่ครับ คุณจะฟัง podcast ดูสารคดี อ่านบทความ นิตยสาร ฝึกวาดรูป เล่นดนตรี ซ้อมกีฬา หรือแม้กระทั่งนั่งคุยกับคนเก่งๆก็ได้ทั้งนั้น ทำอะไรก็ได้ที่เรารัก และมันให้คุณค่ากับตัวเราเอง

ยิ่งเรารู้มาก มันก็จะยิ่งที่ให้เรารู้ว่า “เราไม่รู้” มากขึ้น เหมือนกับคนที่บอกว่ายิ่งเราอ่านหนังสือเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งที่ให้ตู้หนังสือเราเต็มไปด้วยหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านมากขึ้น มันจะทำให้เรารู้สึกว่ามันยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เรายังไม่เก่ง และเราต้องพยายามมากขึ้น

2. ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี

ครั้งล่าสุดที่คุณได้ฟังคนอื่นพูดคือเมื่อไหร่? ผมหมายถึงฟังจริงๆ ฟังแบบที่เราไม่ได้คิดถึงคำต่อไปที่เราจะพูด ฟังแบบที่เราไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงของเขา ฟังแบบที่เราไม่ตัดสินแต่เราฟังเพื่อทำความเข้าใจจริงๆ

สังคมทุกวันนี้ไม่ได้ขาดคนพูด TED talk แทบจะขี่คอกันพรีเซ้น Podcast แข่งกันผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด สิ่งที่สังคมเราขาดจริงๆคือคนฟัง

ซึ่งการเป็นผู้ฟังที่ดีมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือโฟกัสในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างเต็มที่ หยุดคิดหรือหาคำพูดที่เราจะพูดต่อไป ถ้าเราเข้าใจเขาจริงๆมันไม่ยากเลยที่คำต่อไปมันจะผุดขึ้นมาในหัวเรา และเราสามารถเทสความเข้าใจของเราด้วยการ ตอบด้วยคำถาม เช่น “เธอหมายความว่า ##### ใช่มั้ย?” หลายคนอาจจะกลัวว่าคำถามแบบนี้มันน่ารำคาญ แต่สำหรับคนพูดบอกเลยว่ามันเป็นเหมือนของขวัญล้ำค่า เพราะมันคือเครื่องพิสูจน์ว่าเราฟังและพยายามจะเข้าใจเขาจริงๆ

3. อย่าพยายามพิสูจน์ตัวเองทุกโอกาส

คนที่อีโก้สูงก็คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง เพราะเขาจะรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ตัวเองทุกๆสถานการณ์ เหมือนคนที่พยายามซื้อของแพงๆเพื่อทำให้ตัวเองดูรวย แต่คนรวยจริงเขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรเลย

ตัวตนของเรามีค่ามากกว่านั้น แค่เหตุการณ์เดียวมันไม่ได้กำหนดอะไร เราจำเป็นที่จะต้องปล่อยวางบ้าง อย่ากลัวที่จะไม่รู้ อย่ากลัวที่จะเป็นคนผิด และอย่ากลัวที่จะเป็นคนไร้ตัวตน

4. ช่วยเหลือคนอื่น

ถ้าคนอีโก้สูงคือคนที่เอาตัวเองเป็นหลัก การช่วยเหลือคนอื่นนี่แหละคือยาแรงสำหรับอาการนี้ เพราะถ้ามัวแต่ขลุกอยู่กับโลกของตัวเอง ปัญหาของตัวเอง อาจจะลืมไปว่ายังมีคนอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ และอาจจะลืมไปว่าการช่วยเหลือคนเหล่านี้มันรู้สึกดีขนาดไหน

มันอาจจะไม่ต้องใหญ่โตขนาดว่าบริจาคเงินเป็นแสนเป็นล้าน บินไปเป็นอาสาสมัครที่แอฟริกา แค่ทำสิ่งเล็กๆที่เราทำได้เพื่อช่วยเหลือคนรอบข้างหรือสังคมให้ดีขึ้นทุกวันมันก็ยอดเยี่ยมแล้ว

และเมื่อเราเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ เราก็จะยิ่งให้เรื่อยๆ วงการนี้เข้าแล้วออกยาก เพราะความรู้สึกดีจากการให้มันมหาศาลจริงๆ

5. ปรบมือให้กับความสำเร็จ (ของคนอื่น)

เมื่อคนรอบข้างของเราประสบความสำเร็จ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกอิจฉาบ้าง โดยเฉพาะเมื่อคนคนนั้นคือคนที่เราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ สิ่งที่ง่ายที่สุดในการทลายความรู้สึกนี้คือการปรบมือให้กับความสำเร็จของเขา

แม้เราจะรู้สึกว่าต้องขืนใจตัวเองมากๆในตอนแรก แต่หลังจากที่เราชื่นชมและยินดีกับเขาด้วยความใจจริง เราจะรู้สึกดีเหมือนเรากำลังฉลองให้กับความสำเร็จของตัวเอง แล้วเราจะเป็นอิสระจากกำแพงที่กั้นเราไว้มานาน

แม้บทความนี้จะชื่อว่าวิธีกำจัดอีโก้ให้ราบคาบ จริงๆแล้วผมโกหกครับ เราไม่ควรกำจัดมันให้ราบคาบ เพราะการมีอีโก้ต่ำเกินไปก็แย่ไม่ต่างกับการมีอีโก้สูงเกินไป เพราะมันคือการขาดความมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง ทางที่ดีเราควรสมดุลมัน เพราะอะไรก็ตามที่มากหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นครับ

หากชอบฝากกด Clap และติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

--

--