Botox กับ Filler ต่างกันตรงไหน ?

พูดถึงโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ กระแสแรงมาก แม้จะเกิดปัญหาบ่อยครั้งจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีฝีมือในการฉีด ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม

botulinum toxin ก็เหมือนกับตัวยาชนิดอื่นๆ ที่ผู้คนโดยทั่วไปมักรู้จักด้ยชื่อทางการค้า คนไทยและคนส่วนมากทั่วโลกรู้จัก botulinum toxin กันในชื่อ Botox จริงๆ แล้ว สารชนิดนี้มีหลายบริษัทผลิตออกมา

Botox (Botulinum Toxin)

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โบท็อกซ์ เป็นชื่อการค้าของยา ไม่ได้ชื่อของตัวยา เหมือนกับที่คนไทยติดเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ว่า มาม่า นั่นเอง

ชื่อเต็มๆคือ “โบทูลินั่มท็อกซิน” เป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างและสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) สกัดโปรตีนจากแบคทีเรียตัวนี้มาเป็นโบท็อกซ์ ที่ออกฤทธิ์โดยการทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว พอกล้ามเกิดการคลายตัวทำให้ผิวหนังที่เป็นริ้วรอยอยู่บนบริเวณกล้ามเนื้อนั้นๆเรียบเนียนขึ้นได้

โบท็อกซ์ เริ่มออกฤทธิ์ภายใน 1–2 วันหลังจากฉีดยา และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 30 วัน

โบท็อกซ์ ยังใช้รักษาอาการเหงื่อออกเยอะตามบริเวณมือ เท้า รักแร้ หรือลดกรามที่เป็นกล้ามเนื้อให้หน้าดูเล็กลง

ในไทย ถึงจะคุ้นกับชื่อของโบท็อกซ์กันดีแล้ว อาจจะเห็นว่าคลินิกส่วนใหญ่พยายามเลี่ยงไปใช้คำที่คล้ายกัน อย่าง โบท็อก (ไม่มีการันต์), โบทูลินั่มท็อกซิน, ฉีดโบฯ, โบ (เฉยๆ), ฉีดลดกล้ามเนื้อ ที่ต้องหลบเลี่ยงไปใช้คำอื่นที่ความหมายคล้ายกันแทน เพราะ “โบท็อกซ” ์เป็นชื่อของยา ซึ่งผิดกฏหมายในการโฆษณายาผ่านสื่อ มีโทษตามกฎหมาย แต่ตามกฎข้อบังคับนั้น ถ้าไม่ได้ใช้เพื่อการโฆษณาโดยตรงยังพอใช้คำว่า

ปัจจุบันโบทูลินั่มท็อกซินที่มีวางขายใน ท้องตลาด 3 ชนิด คือ

  • Type A ที่มีวางขายทั่วโลก อย่าง Botox
  • Type A ที่วางขายในยุโรป อย่าง Dysport
  • Type B ที่วางจำหน่ายในชื่อ Myobloc

เนื่องจากความนิยมของโบท็อกจึงควรระวังของปลอมด้วย

Filler

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็ม (ไม่ใช่ชื่อยา) แบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ๆ

  1. ฟิลเลอร์แบบถาวร (ห้ามใช้ในร่างกาย): พาราฟิน เป็นฟิลเลอร์แบบถาวร ถึงจะฟังดูน่าใช้ แต่น่ากลัวมาก เพราะนอกจากจะอยู่นานมากๆ แล้ว ยังเสื่อมสภาพในร่างกายได้ อาจทำให้ผิวหนังย้อยเป็นก้อน จนเคยตกเป็นข่าวมาก่อน จึงห้ามใช้กัน
  2. ฟิลเลอร์แบบไม่ถาวร (ใช้ในร่างกายได้): ไฮยาลูโรนิก แอซิด หรือ HA สารตามธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อร่างกาย สามารถย่อยสลายได้ ช่วยเติมเต็มบริเวณที่ขาดไป ถึงจะไม่ได้อยู่ถาวร ใช้ได้แค่ 4–6 เดือน แต่ช่วยให้ดูดีได้ และสามารถฉีดเพิ่มได้เรื่อยๆ

โบท็อกซ์ต่างกับฟิลเลอร์อย่างไร

จำง่ายๆ ว่า “โบท็อกซ์ใช้ลด ฟิลเลอร์ใช้เพิ่ม”

โบท็อกซ์ ใช้ลด หดการเกร็งกล้ามเนื้อ มีผลในการลดริ้วรอย รอยย่น รอยตีนกา ให้กลับมาเต่งตึง เข้ารูปได้ดีขึ้น เหมาะกับบริเวณส่วนที่มีกล้ามเนื้อพอเคลื่อนไหวได้

ฟิลเลอร์ ใช้ฉีดเติมเต็มบริเวณร่องลึก เห็นเป็นริ้วรอย ให้ตื้นขึ้นมา เหมาะกับกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม

ที่มา: โบท็อกซ์ กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร

--

--

แอดวานซ์ เมดิคอล คลินิก
Botox & Filler

ดำเนินกิจการทางด้าน healthcare หลากหลายชนิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 โดยให้บริการตรวจรักษาสุขภาพและดูแลผิวพรรณ ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเลเซอร์กว่ายี่สิบชนิด