ฝึกงานที่ CODIUM (ep1)

ที่ๆ พร้อมมอบโอกาส ถ้าคุณตั้งใจ

Atichat lappanopakon.
CODIUM
3 min readJul 27, 2018

--

ทำไมถึงฝึกงานที่ CODIUM ?

(ย้อนความ) ปีที่แล้วผมฝึกงานที่ Health at Home ซึ่ง environment จะเป็น startup จริงๆอยากฝึกที่เดิมแต่เนื่องจาก อยากได้ประสบการณ์จากหลายๆแบบ.

https://codium.co

รู้จัก CODIUM ได้ไง ?

… ใจไม่อยากฝึก dev แล้วอยากรู้พวกสาย marketing, management หรือไม่ก็ไปแบบ data analysis ไปเลย บังเอิญผมเจอใน job DB ตำแหน่ง software management trainee ที่ CODIUM แล้วไปเห็นว่ารับ intern ด้วยเลยจัดสะเลย.

CODIUM เป็น software house ที่นึงที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ พนักงานก็มีทั้งคนไทย และต่างชาติ.

ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะเรียกไป interview ได้โอกาสเลยคว้าเอาไว้…
ผมเริ่มศึกษาเกี่ยวกับ CODIUM อย่างจริงจัง เพื่อให้พร้อมกับการ interview
ยิ่งอ่านยิ่งอยากทำ หลักๆเลย ด้วยความเก่งของ พี่ Pac เป็น CEO ที่ dev ด้วย
เชดดดดดดดดด….. ด้วยความใจของพี่ Pac อีกถ้าผมไม่คว้าโอกาสที่จะได้ใกล้คนเก่งขนาดนี้… ผมก็โง่แล้ว

Conference by CEO

เหตุผลหลักที่เลือก CODIUM ?

… จริงๆ แล้วผมได้อีกทีนึงด้วยซึ่ง offer เงินให้สูงมาก แต่สุดท้ายแล้วผมก็เลือกที่นี้ซึ่งจนตอนนี้ ผมขอบคุณตัวเองเสมอที่เลือกที่นี้

  • * พี่ Pac พี่เขากล้าที่จะให้ และอยากให้เราได้จริงๆ
  • environment ผมชอบมันอบอุ่น รู้สึกเหมือนครอบครัว ตั้งแต่ interview
  • ได้ฝึกภาษา ที่นี่มีต่างชาติทำงานด้วยส่วนใหญ่ ก็จะพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ
ทุกอย่างที่ผมสัมผัสได้ มันก็เป็นอย่างนั้นจริง 💕 FAMILY

วันๆเขาทำไรกันบ้าง ?

.. เริ่มจาก 10 โมงทุกคนจะมารวมตัวกัน มานั่งสมาธิด้วยกัน หายใจเข้าออกพร้อมกัน ผมชอบมาก ผมอยากทำนานแล้ว มันทำให้เราสดชื่นก่อนทำงาน ใดต่อจี และดีต่อสุขภาพ หลังจากนั้นก็จะ ยืดเส้นยืดสาย ซึ่งแต่หละวันก็จะไม่ซ้ำกัน ได้เรียนรู้ท่าที่ dev ควรออก หรือการออกกำลังกายแบบ Tai Chi …เสร็จแล้วเราก็จะกลับมา standup meeting กันเป็นทีมๆ หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายไปทำงาน …ทุกคนจะมารวมกันอีกครั้ง เวลาที่ทุกคนรอคอยย ของว่างงง

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการฝึกงาน ? (ในเดือนแรก)

บริษัทมี MBP กับ Monitor ให้โคตรดี >< อยากได้ 2 อย่างนี้มานานหละ

เริ่มจาก Backend (Django)

ผมได้นั่งข้างพี่ Nook หรือ AKA nookskill ผมโชคดีมากที่ได้นั่งข้างๆ พี่เขา พี่เขาสอนดีมาก แรกๆพี่เขาช่วยหมด แต่หลังๆให้งาน และให้ไปทำเอง แต่ความสามารถผมทำไม่ทันพี่ Nook เขาจริงๆ เลยช่วยไม่ได้เยอะ

ในส่วนของ Management

ผมได้เยอะมาก พี่ Pac กล้าที่จะให้ผมทำจริงๆ ผมได้ฝึกหลายอย่าง และเกินที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำครับ

ได้เข้าประชุมจริงกับลูกค้าจริง
ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว 2 ครั้ง แต่คือ ทุกครั้งเลยครับ ที่มีการประชุม พี่ Pac ให้โอกาสเราได้เข้าไปอยู่ตรงนั้น… ได้เรียนรู้ว่าเขาทำกันยังไง แล้วแถมบนรถหลังจากคุยกับลูกค้าเสร็จพี่เขาก็จะสอน สอนจากประสบการณ์ที่เคยเจอ แล้ววิธีการรับมือต่างๆ ผมประทับใจมาก

พูดคุยกับลูกค้าแบบจริงๆ
… ทั้งโทรบ้าง, ผ่านทาง line บ้าง และก็ในที่ประชุมด้วย สิ่งที่ผมต้องทำคือ เก็บ requirement, ตามข้อมูลที่ต้องการจากลูกค้า นัดประชุมหรือ review ต่างๆ

present จริง real จริง
… ทั้งในที่ประชุม และTeamviewer ผมบอกเลยว่า ผมยังตื่นเต้นทุกครั้ง ผมกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี กลัวลูกค้าไม่ชอบที่เราพูด แต่มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ฝึก ณตอนนี้ ขอบคุณโอกาสนี้มากๆ

ประสานงานกับคนในทีม
… หน้าที่ของผมคือ ผมต้องรู้ requirement ทุกอย่างของแต่ละ module เพื่อคอยประสานงานให้คนในทีม แต่หละการประชุม ผมจะทำ Meeting Minute ไว้เพื่อให้ทีมได้เข้ามาดูว่า มีงานอะไรอีกที่ต้องทำ และเป็นเครื่องมือช่วยจำที่ดีของผมด้วย

และความรู้อีกหลายอย่างเลย
… ทั้งพี่ Pac พี่ Boom พี่ Nook และคนอื่นๆ พี่เขาจะสอนตลอด เช่น สิ่งที่เราควรทำเวลาคุยกับลูกค้า หรือเราลองทำแบบนี้ดู ลองศึกษาเรื่องนี้นะ ได้ฟังประสบการณ์จากหลายๆคน หลายๆ ตำแหน่ง และแง่คิดในการใช้ชีวิตอีกด้วย

ได้เป็น Tester ด้วย

ส่วนใหญ่แล้ว เราจะมีการ update และreview กับลูกค้าทุกๆอาทิตย์ ผมก็จะต้องคอยทดสอบอยู่เสมอ การ test โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันทำให้เราเข้าใจ requirement มากขึ้น และตอนที่เรา present เราจะเข้าใจมันจริงๆ

… หน้าที่ผมคือ สร้าง issue ใน git แล้ว tag พี่เขาที่รับผิดชอบอันนั้น พี่เขาจะให้เราลองอีกที แล้วผมก็จะไปไล่ ปิด issue

แอบได้ Design นิดหน่อย

อันนี้ผมทำเล่นๆ ตอนมี module ใหม่เกิดขึ้นมา พี่ Tae เห็นเราทำเลยบอกขนาดนี้แล้วจริงจังไปเลยบอส ฮาๆๆ

ทำขนาดนี้เหนื่อยไหม ?

ผมชอบนะ ยิ่งงานเยอะผมว่ามันท้าทายว่าเราจะบริหารมันได้ดีขนาดไหน แล้วคือตอนทำงานผมแทบไม่เครียดเลย คือพี่ Nook กับ พี่ Tae เขายิงมุกกันตลอดเวลา ไอเราก็นั่งยิ้มนั่งขำทั้งวัน ผมรู้สึกสนุกมากกว่า อยากไปทำงานทุกวัน มันเหมือนไปอยู่กับเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว ผมจึงไม่มีความรู้สึกกดดัน จนบางครั้งผมไป 8 โมงครึ่ง ทำถึง 4 ทุ่มบ้าง … เรียกผมว่าเป็นพวกบ้างานก็ได้

ไม่บ่อยหรอกครับ เป็นครั้งครา

อาหารการกินเป็นอย่างไร ?

ก็มีให้ครบทุกอย่างนะ กดน้ำได้ใกล้ๆ มีขนมตลอดเวลา ทำขนมปังชงกาแฟ แต่เด็ดเลยนี้จะเป็นของว่างตอนเย็น ดูรูปเอาหละกัน

มีแทบทุกวัน เยอะ ไม่ซ้ำ อร่อย โคตรฟินนนน (คือนี้ไม่ได้ถ่ายตลอด) รูปจาก story ไม่ค่อยชัด

… แล้วที่นี้มีแม่บ้านมาทำความสะอาดตลอด แถมล้างจานชาม แก้วให้ด้วย บอกเลยว่าสบายมากจริงๆ ห้องน้ำก็ไม่ไกล เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว

ทิ้งท้าย (ของเดือนแรก)

Power Off​: กับการนวดครั้งแรกของผม สบายสุดๆ ปวดขากันเลยทีเดียว
Power Off: กินๆๆ จัดไปแน่นๆ เดินตีพุงกลับหอ
ดูบอล พร้อมเครื่องเคียง เต็มสูตร

ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะครับ
ขอบคุณโอกาสดีๆ ที่พี่ Pac มอบให้นะครับ Sivabudh Umpudh ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ต้อนรับเป็นอย่างดีครับ รักครับ จะทำอีก 1 เดือนที่เหลือให้ดีที่สุดนะครับ.

ฝึกงานที่ CODIUM (ep2)

มีต่อภาค 2 คลิกเลย

ช่วงหลังจากนี้ ผมกะว่าจะศึกษาเรื่องของ Project Manager อย่างจริงจรัง และจะทำ Stories ลง Medium นี้ฝากติดตามด้วยนะครับ.

--

--