การเติบโตของ Chainlink Network อย่างยั่งยืน

Chainlink Thailand
Chainlink Community
7 min readMay 3, 2023

Chainlink กำลังพัฒนาโดยมีเป้าหมายในการให้บริการด้าน decentralize ที่หลากหลาย ซึ่ง smart contract และระบบ Web2 เดิมต้องสร้างโลกที่ขับเคลื่อนด้วยความจริงในการเข้ารหัส (cryptographic truth) แม้ว่า Consensus ของ Oracle ของ Chainlink จะถูกนำไปใช้กับ price feed แบบ decentralize ในตอนแรก แต่ตอนนี้กำลังขยาย use-case อย่างการประมวลผลแบบ off-chain (off-chain computation) ที่ปลอดภัยและการทำงานแบบข้าม Network (Cross-chain interoperability)

ด้วย function ในการทำงานที่พัฒนาขึ้นของ smart contract และปัญหาในเรื่องของความไว้วางใจใน brand และสถาบันต่างๆ ที่มากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการ (demand) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับ application ที่ลดความเชื่อใจ (trust-minimized application) ที่ขับเคลื่อนโดย Decentralized oracle network (DONs) ของ Chainlink ความต้องการนี้เป็นโอกาสครั้งใหญ่แก่ Node operatorในการเก็บค่าธรรมเนียม และในที่สุดกับ Stakers สำหรับรางวัล (reward) จากการช่วยรักษาความปลอดภัย Oracle Network ของ Chainlink และ Application ที่ใช้งาน

อย่างที่เห็นว่า staking กำลังจะเกิดขึ้น Chainlink กำลังเริ่มยุคใหม่ของการเติบโตที่ยั่งยืน ความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้น และความปลอดภัยด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (cryptoeconomic) ที่แข็งแกร่งขึ้น การสนับสนุน Economics 2.0 ของ Chainlink มุ่งเน้นในการปรับใช้กลยุทธ์ใหม่และกลยุทธ์เดิมที่มีอยู่เพื่อเร่งการนำไปใช้ (adoption) ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงเศรษฐกิจของ Network อย่างต่อเนื่อง บทความต่อไปนี้จะวิเคราะห์ตลาดทั้งหมดที่เป็นไปได้ หรือ total addressable market (TAM) สำหรับ trust-minimized application และบทบาทของ Oracle ก่อนที่จะอธิบายถึงกลยุทธ์การเติบโตที่จะช่วยให้ Chainlink สามารถหามูลค่าภายในเศรษฐกิจใหม่ที่กำลังขยายตัวนี้ได้

ตลาดทั้งหมดที่เป็นไปได้ (TAM) ของ trust-minimized application ที่กำลังเติบโต

Application ที่ลดความเชื่อใจ (trust-minimized application) คือการเปลี่ยนไปสู่สถานการณ์ในอุดมคติ โดยข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาจะดำเนินการตามที่เขียนไว้อย่างแน่นอน โดยแต่ละฝ่ายไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือถอยออกจากเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าได้ การนำการลดความเชื่อใจไปใช้ในวงกว้างจะสามารถช่วยสังคมอย่างปัญหาเรื่องความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นระหว่างฝั่งสถาบันและฝั่ง user ซึ่งการนำการรับประกันด้วยการเข้ารหัส (cryptographic guarantee) ไปใช้ในบางส่วนของความสัมพันธ์ของพวกเขาเหล่านั้น ดีกว่าการพึ่งพาความเชื่อหรือระบบกฎหมายที่ดำเนินการช้าและมีราคาแพง การรับประกันการเข้ารหัส (cryptographic guarantee ) ประเภทใหม่นี้สนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐานแบบ decentralize เช่น Blockchain และ Oracle Network ซึ่งทั่วไปเรียกว่าความจริงในการเข้ารหัส (cryptographic truth) และเป็นรูปแบบหลักของ trust-minimized application

การลดความเชื่อใจ (Trust-minimization) ทำให้เกิดการรับประกันทางเทคโนโลยีในมุมที่สำคัญของ Application ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเนื่องจากโดยข้อได้เปรียบที่ไม่สมเหตุสมผลออกไป สิ่งนี้ช่วยฟื้นคืนความไว้วางใจของ User ที่มีกับ Application ดังที่เห็นได้จาก messaging application เนื่องจากล้มเหลวในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทำให้เกิดความต้องการของตลาดสำหรับ end-to-end encryption (E2EE) ในที่สุดจะนำมาซึ่งการยอมรับ Application ใหม่ที่เป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น messaging app อย่าง Signal ซึ่ง E2EE ให้การรับประกันด้วยการเข้ารหัสแก่ user ว่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้รับการรักษาไว้ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับอผู้ให้บริการการสื่อสาร

นอกจากการส่งข้อความเริ่มเกิดการลดความเชื่อใจด้วยการรับประกันการเข้ารหัส อุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วเศรษฐกิจโลกก็จะเป็นเช่นเดียวกัน

การลดความเชื่อใจ ภายในข้อตกลงดิจิทัลที่ซับซ้อนมากขึ้น อย่างในอุตสาหกรรมการเงินจะต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานของ hybrid smart contract โดยที่ smart contract ทำหน้าที่เป็น application layer และ Oracleทำ หน้าที่เป็น service layer ในส่วนของ Application layer จะเป็นตรรกะที่กำหนดเงื่อนไขแบบ on-chain ของข้อตกลงและเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนมูลค่า ในขณะที่ Service layer จะช่วยในด้านการเชื่อมต่อที่หลากหลายและการผสานรวมกับภายนอกที่ช่วยทำให้ Application เหล่านั้นทำงานได้

Chainlink เป็นโครงสร้างพื้นฐานศูนย์กลางของ Service layer สำหรับ trust-minimized application ให้การเข้าถึงทรัพยากรภายนอกที่สำคัญ รวมถึงข้อมูลในโลกแห่งความจริงที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว (real-world data), การประมวลผลแบบ off-chain ความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบ Cross-chain และอื่นๆ อีกมากมาย บริการเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์บน Application หลายร้อยรายการใน Blockchain network หลายสิบที่ ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโต ecosystem ของ hybrid smart contract

Smart contract แบบ Hybrid ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบทั้ง on-chain และ off-chain

Decentralized Finance (DeFi) เป็นตัวอย่างหนึ่งของรูปธุรกิจที่ใช้ Chainlink และการนำ Smart contract แบบ Hybrid มาใช้เพื่อเติบโตอย่างรวดเร็วจาก use-case เฉพาะกลุ่มไปสู่การเป็นเศรษฐกิจคู่ขนาน โดยมี Total Value Locked (TVL) มูลค่าประมาณ $250B ที่จุดสูงสุดในปี 2022 อย่างไรก็ตาม DeFi เองก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของตลาด Cryptocurrency ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ และเป็นเศษเสี้ยวของมูลค่ากว่า $867T ที่อยู่ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจถูก disrupt โดยเทคโนโลยี Blockchain และเทคโนโลยี Oracle ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในปัจจุบัน DeFi และเศรษฐกิจ Smart contract แบบ Hybrid ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เนื่องจาก use-case จริงในการค้าระดับโลก, การประกัน, อสังหาริมทรัพย์, ตราสารอนุพันธ์ และอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้นำมาประยุกต์ใช้จริง และ Smart contract แบบ Hybrid อาจเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของอุตสาหกรรม trust-minimization ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ที่ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain และ Oracle นำมาซึ่งความเป็นธรรม การกระจายอำนาจ และความโปร่งใสให้กับ back-end ที่ดำเนินการนอกเครือข่าย (off-chain)

ตลาดที่ trust-minimized application สามารถ disrupt ได้นั้นมีมูลค่าหลายร้อยล้านล้านดอลลาร์

Chainlink โฟกัสไปที่การปลดล็อกมูลค่าทั้งหมดนี้โดยทำหน้าที่เป็น protocol สำหรับการประมวลผล off-chain แบบ decentralized ซึ่งช่วยให้ Smart contract ของ Web3 และระบบที่มีอยู่ของ Web2 สามารถใช้บริการ decentralized ที่ช่วยให้มีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความแม่นยำแบบกระจายอำนาจเพื่อตอบสนอง trust-minimized application อย่างเช่น Chainlink สามารถ:

-ปรับระบบ Web2 ให้เป็น version แบบ trust-minimized โดยไม่ต้องสร้างตั้งแต่เริ่ม

-ประมวลผลแบบ off-chain อย่างปลอดภัยเพื่อช่วยด้านความเป็นส่วนตัว (privacy) ความสามารถในการ scale (scalability) รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องสำหรับ smart contract แบบ off-chain

-จัดหา data feed แบบ decentralized เพื่อ trigger การ settlement ของ contract

-ใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของหลักประกัน (collateral) นอกเครือข่าย (off-chain)

-ส่ง output จาก smart contract เพื่อ trigger กระบวนการของระบบ off-chain

-ย้ายข้อมูล (data) และมูลค่า (asset) ระหว่าง Blockchain ที่แตกต่างกันตามตรรกะที่กำหนดหลังจากการเปิดตัว protocol ใหม่ของ chainlink นั่นคือ Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP)

ด้วยลักษณะปกติของ Oracle นั้น Chainlink มีเป้าหมายที่จะสร้าง Oracle service layer ที่ไม่เพียงแต่สามารถรองรับ Total addressable market (TAM) สำหรับ smart contract ใน blockchain ทั้งหมด แต่ยังรวมถึงความต้องการบริการแบบ decentralized ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ back-end ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างราบรื่น คำถามเชิงตรรกะคือบริการของ Oracle เหล่านี้พัฒนาได้อย่างไรและจะมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้อย่างไร

แนวทางในการสร้างมาตรฐานของอุตสาหกรรม

เมื่อดูว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมถูกกำหนดอย่างไรทั้งในอุตสาหกรรมดั้งเดิมและเศรษฐกิจ Web3 ทรัพยากรทางการเงินที่จะมาสนับสนุนการริเริ่มการเติบโตที่สำคัญเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยการระดมทุนเพื่อพัฒนาบริการใหม่และพัฒนาขีดความสามารถของบริการเดิมที่มีอยู่ project ต่างๆ จึงจะอยู่ในจุดที่ดีสำหรับตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต การสนับสนุนการเติบโตมักจะมาพร้อมกับการช่วยด้านค่าใช้จ่ายสำหรับ user รายแรกๆ และผู้ให้บริการ เพื่อสร้าง network effect ที่ทรงพลังที่จะเข้าไปจับมูลตลาดในปัจจุบัน และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ผ่านบริการที่หลากหลายและแข่งขันได้มากขึ้น

เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจ Web3 นั้น Blockchain จะเติบโตด้วยโมเดลการสร้างแรงจูงใจด้วย block reward ซึ่ง miner หรือ validator จะได้รับ reward เป็น cryptocurrency ที่สร้างขึ้นมาใหม่สำหรับการมีส่วนร่วมใน Network ซึ่งจะทำให้ blockchain สามารถสร้าง network ที่ปลอดภัยของผู้สร้าง block เพื่อป้องกันการโจมตี network หากไม่มี block reward แล้ว blockchain network จะพบกับปัญหาไก่กับไข่ :

User จะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้ blockchain หากไม่มี Network ของ Node ที่ปลอดภัย และ Network ของ Node ที่ปลอดภัยจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มี User ที่จ่ายเงินหรือ reward ทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกลไกการให้ Block reward และนำมาใช้อย่างเหมาะสม สิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจจะถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้เกิด Network ของ Node ที่ปลอดภัย และรอเวลาที่ Network จะไปสู่รูปแบบทางเศรษฐกิจที่มีรายได้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (transaction fee) สามารถคลอบคลุมการดำเนินงานของ Network ได้อย่างเต็มที่

แบบจำลองวิธีการที่ Blockchain สร้าง Block reward เพื่อสร้างแรงจูงใจเพื่อสร้างเศรษฐกิจของ Network

Oracle Reward ช่วยเพิ่มการนำ Chainlink ไปใช้อย่างไร?

คล้ายกับโมเดลการสร้างสิ่งจูงใจแบบ block reward ของบล็อกเชน เครือข่าย Chainlink oracle สร้างสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจระยะแรกผ่านการใช้ oracle rewards ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจที่จ่ายให้กับผู้ให้บริการโหนดนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น Data Feed ของ Chainlink เป็น Decentralized Oracle Network ที่ช่วยให้ DeFi เข้าถึงข้อมูลตลาดการเงินคุณภาพสูง Data feed ของ Chainlink เกิดขึ้นมาตามความต้องการของผู้ใช้สำหรับชิ้นส่วนข้อมูลโดยฉพาะบน blockchain เฉพาะ (เช่น อัตราแลกเปลี่ยน BTC/USD บน Ethereum) หลังจากเปิดตัว Data feed จะได้รับการสนับสนุนในช่วงเริ่มต้นจาก Reward ของ Oracle นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมผู้ใช้ (fee) ที่จ่ายโดยที่ใช้งาน data feed

เนื่องจาก Data feed ของ Chainlink ทำหน้าที่เป็นสินค้าสาธารณะ User สามารถใช้และจ่ายเงินสนับสนุน data feed เดียวกันหลายคนร่วมกันได้ ด้วยผู้สนับสนุนรายใหม่ที่ชำระเงินให้กับ data feed และเนื่องจากผู้สนับสนุนรายเดิมจ่าย fee มากขึ้น ต้นุทนส่วนใหญ่ของ data feed จึงสามารถครอบคลุมได้ด้วยค่าธรรมเนียมจาก User ในที่สุด เมื่อค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้ (user fee) สูงกว่าต้นทุนการดำเนินการของเครือข่าย (operation cost) การดำเนินการของ Data feed จะไม่จำเป็นต้องมีการช่วยจาก Oracle Rewards อีกต่อไป และสุดท้ายจะเกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจแก่ Data feed นั้น ที่จริงแล้ว Data feed ของ Chainlink หลายรายการได้อยู่ในสถานะที่มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจแล้วบน Blockchain ที่มีอัตราการส่งข้อมูลสูง เช่น BNB Chain และ Polygon

เพื่อเร่งความเร็วที่ Data Feed และบริการ Chainlink อื่นๆ จะไปสู่จุดที่มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ Solution การลดต้นทุนจึงถูกนำมาใช้เพื่อช่วยให้ Oracle Reward ถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเช่น การเปิดตัว Off-Chain Reporting ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของ data feed ได้ถึง 90% ทำให้สามารถส่งข้อมูล on-chain ได้มากขึ้น 10 เท่า ซึ่งส่งผลให้จำนวน data feed เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อรวมกับความสามารถในการ scale ที่ดีขึ้นของ blockchain บวกกับการลดต้นทุนการดำเนินการเพื่อกระตุ้นการเติบโต ecosystem ของ Chainlink เช่น :

  • OCR 2.0

การ upgrade เป็น Off-Chain Reporting ที่ขับเคลื่อน Data Feed ของ Chainlink จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนสำหรับการส่งข้อมูล ช่วยให้เครือข่าย oracle จำนวนมากเกิดขึ้นและจะช่วยให้เกิดค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้

  • Fast-Lane

Solution ทางเทคนิคที่ blockchain จัดสรร bandwidth ส่วนหนึ่งหรือกำหนดลำดับความสำคัญในการทำธุรกรรมสำหรับสินค้าสาธารณะ เช่น Oracle Network สิ่งนี้สามารถลดต้นทุนบน Network ที่เกี่ยวข้องกับการ update ของ Oracle ได้อย่างมาก เพิ่มเวลาตอบสนองและความน่าเชื่อถือในช่วงที่ Blockchain network มีความแออัด

  • Blockchain Gas Grants

แนวคิดที่ Blockchain จะชดเชยต้นทุนค่า gas บน Oracle Network วิธีการนี้เหมาะสม และไม่ต้องเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคใน Blockchain network โดย Ecosystem ของ Blockchain ชั้นนำหลายแห่งคาดว่าจะมีการประกาศ Grant ในอนาคตอันใกล้นี้

เมื่อ Oracle Network ของ Chainlink เข้าถึงจุดที่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจมากขึ้น Reward ของ Oracle สามารถจัดสรรใหม่เพื่อใช้กับ data feed ใหม่และบริการ Chainlink อื่นๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสสำหรับค่าธรรมเนียมที่อาจเพิ่มขึ้นสำหรับ Node operator และ reward สำหรับ staker ใน community เมื่อเวลาผ่านไป สำหรับแนวทางเศรษฐศาสตร์ของ Oracle นี้ช่วยให้มั่นใจว่า user แต่ละรายไม่ต้องเสียต้นทุนเต็มจำนวนในการดำเนินงานด้าน Data feed ซึ่งสร้าง Network effect ที่แข็งแกร่งของ Chainlink

ด้วยแบบจำลองทางเศรษฐกิจที่ได้รับการพิสูจน์นี้ Chainlink oracle กว่า 1,000 Network ถูกนำมาใช้อย่างประสบความสำเร็จบน Blockchain network จำนวนมากเพื่อตอบสนองความต้องการของ user จากรายงานการวิจัยล่าสุดของ Bank of America ระบุว่า Chainlink มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ DeFi ให้มีมูลค่ามากกว่า 203 พันล้านเหรียญสหรัฐใน Total Value Locked และจะช่วยเร่งการเพิ่ม use-case ของ blockchain ยุคถัดไปมาใช้ในด้านการเงิน, การประกันภัย, supply chain และอื่นๆ

Ecosystem ของ Chainlink มี Oracle network มากกว่า 1,000

Chainlink Economics 2.0 ด้วยการเพิ่มการเติบโตและ staking

ด้วยความสำเร็จของเหตุการณ์ต่างๆ เช่น บริการที่หลากหลายของ Chainlink สำหรับการประมวลผลแบบ off-chain ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจสำหรับ Oracle network หลาย network ที่ประสบความสำเร็จในแต่ละ blockchain และการเพิ่มขึ้นของ Oracle network กว่า 1,000 network ที่ถูกนำมาใช้ในขณะที่จำนวน Network เพิ่มขึ้น เรากำลังเข้าสู่ขั้นต่อไปของการเติบโตของ Chainlink Network : Chainlink Economics 2.0

เพื่อสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ Chainlink Foundation ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำไปสู่แนวคิดริเริ่มที่เติบโตและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งหลายโครงการใช้ LINK token ที่ผลิตขึ้นมาเพิ่มใหม่ เป้าหมายหลักของ foundation คือการสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนของ Network โดย:

  • กำหนดการออก LINK token เพื่อสนับสนุนแนวคิดการเติบโตที่สำคัญ รวมถึง Oracle reward สำหรับ Node operator และ staking reward สำหรับ staker
  • เพิ่มมาตรฐาน ข้อกำหนด และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ community ของ developer แบบ open-source และ Node operator ที่ช่วยสร้างและสนับสนุน Chainlink
  • Hosting, ตรวจสอบ และบำรุงรักษา software แบบ open-source ของ Chainlink สำหรับ developer ผ่าน platform ต่างๆ เช่น GitHub และ npm
  • ดำเนินการและสนับสนุน hackathon ของ Chainlink เพื่อกระตุ้นให้ developer ใช้เทคโนโลยี Chainlink และ Web3 ในการสร้าง
  • ดำเนินโครงการ Chainlink Grant เพื่อเป็นทุนสำหรับปรับปรุง Oracle และ Chainlink Network

เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับ community ของ Chainlink และเป็นส่วนสำคัญของ Chainlink Economics 2.0 ทาง Foundation คาดว่าไม่เกิน 5% ของ supply ทั้งหมด (Token จำนวน 50 ล้าน LINK) จะถูกย้ายเข้าสู่ supply หมุนเวียน (circulating supply) ในช่วง 9 เดือนข้างหน้า จนถึงไตรมาสแรกของปี 2023 การเปิดตัวสู่ circulating supply เหล่านี้จะสนับสนุนการเติบโตของ Network รวมถึงการเปิดตัว staking ที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ คาดว่าการเปิดตัว staking ที่กำลังจะเกิดขึ้นน่าจะมีผลกระทบทางอ้อมต่อการออก Token เหล่านี้ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าจำนวนเงินที่ฝากโดย stakers นั้นจะถึงขีดจำกัดเริ่มต้นที่วางแผนไว้ที่ 75 ล้าน token หรือไม่ ทาง Foundation คาดว่า token เหล่านี้จะถูกปล่อยสู่ supply หมุนเวียนในระยะเวลาไม่นานนี้ และจะมุ่งเน้นไปที่ Oracle reward ที่เกิดขึ้นแล้ว จนกว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมสำหรับแนวทางใหม่ที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2023

Token ที่ไม่หมุนเวียนจาก Genesis wallet จะถูกย้าย (migration) ในสัปดาห์นี้ เพื่อ upgrade ความปลอดภัยของ on-chain โดย Token จะถูกแบ่งออกตาม wallet ขนาดเล็กลงที่มีจำนวน party ทำการ sign มากขึ้น โดยใช้แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด การย้ายจาก Genesis wallet จะไม่ส่งผลกระทบต่อ supply หมุนเวียนและไม่ใช่การแสดงถึงการเปิดตัว Token

ด้านล่างนี้คือรายการของ address ที่แสดงถึง token ที่ไม่หมุนเวียนจะถูกเก็บไว้หลังจากการย้าย Token เหล่านี้ถูกแบ่งย่อยใน LINK wallet หลายอัน อย่างไรก็ตาม มีเพียง 50 ล้าน LINK เท่านั้นที่พร้อมมาเป็น supply หมุนเวียนในช่วง 9 เดือนข้างหน้า (มาจาก 7 wallets แต่ละ wallet มี 7 ล้าน LINK) เพื่อใช้สำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆ รวมถึง Oracle reward กลุ่ม staking เริ่มต้นและแนวทางที่อธิบายไว้ด้านล่าง Wallet address ใหม่และแผนการถือครองหลังจากการย้ายข้อมูลเสร็จในสัปดาห์นี้ มีดังต่อไปนี้:

เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับชุมชน Chainlink และหลีกเลี่ยงความสับสน สามารถดู supply หมุนเวียนของ LINK ได้ที่ chain.link/circulating-supply ซึ่งจะแสดงถึง supply หมุนเวียนในปัจจุบันทั้งก่อนและหลังการย้าย ตามที่ระบุไว้ข้างต้น การย้ายเริ่มจาก Genesis wallet ไปยัง wallet ใหม่ที่ปลอดภัยใหม่ตามรายการด้านบน จะไม่ส่งผลให้เกิด supply หมุนเวียนที่เกินกว่าที่เป็น

สิ่งแรกที่จะปล่อยหลังจากการโอนย้าย wallet ที่ระบุข้างต้นแล้ว จะเกี่ยวกับการกระจาย Oracle reward เดิม ทำให้สามารถดำเนินการ Oracle Netwoprk ที่มีอยู่แล้วได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ 2 ที่จะปล่อยมาเมื่อผ่านไปคือ จะค่อยๆ ขยายไปยังหมวดหมู่ด้านล่าง เพื่อช่วยให้เกิดการขยายอย่างต่อเนื่องของ Chainlink Network ไปสู่บริการแบบ Decentralized มากขึ้น มีจำนวน Network มากขึ้น และความปลอดภัยด้านเศรษฐกิจที่มากขึ้น จากการเปิดตัว Staking ที่กำลังจะมีขึ้น:

  • Oracle Rewards

เพื่อลดต้นทุนเริ่มต้นของ operator และสร้าง Network effect ที่แข็งแกร่งที่สำคัญ เมื่อรวมกับค่าธรรมเนียมผู้ใช้ (user fee) สิ่งนี้จะสนับสนุน Node operator ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยบริการ Chainlink

  • Staking reward

Staking reward สำหรับ Node operator และสมาชิก community ที่ร่วม staking กับ Chainlink จะช่วยสร้างระดับความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ (security ด้าน cryptoeconomic) และการรับรอง User สำหรับบริการ Chainlink เมื่อเวลาผ่านไป

  • ขยายบริการ Chainlink

ด้วยการเปิดตัว Network เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายของชุด data ที่มีอยู่ใน Network สำหรับ Developer สิ่งนี้ช่วยปลูกฝังการสร้าง Application ที่ใช้ smart contract ในลักษณะที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากับเงินทุน

  • รองรับ Blockchain เพิ่มเติม

ทำให้ Chainlink เป็นโซลูชัน go-to oracle ทั่วทั้ง ecosystem แบบ multi-chain ทั้ง Layer 1 Network และ Layer 2 Network ซึ่งรวมถึงทั้งเครือข่าย EVM และ non-EVM blockchain

  • พัฒนาบริการ Chainlink oracle ใหม่

เพื่อขยายการทำงานของระบบเศรษฐกิจแบบ smart contract อย่างเรื่อง Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP), Fair Sequencing Services (FSS), DECO และบริการที่ตอบสนององค์กร

  • โครงการของ ecosystem ด้านอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการนำมาใช้อย่างเช่น ความปลอดภัย บริการที่เพ่ิมขึ้น และความสะดวกในการใช้งาน Chainlink ตัวอย่างของโครงการ ได้แก่ Chainlink Grants, การสนับสนุน Hackathon, การวิจัยและพัฒนา, การตรวจสอบ code (audit) และ bug bounty program

ด้วยการสนับสนุนการเติบโตของโครงการเหล่านี้ Chainlink Network จะกลายเป็น ecosystem ของบริการแบบ Decentralized ที่ยั่งยืน ขยายตัว และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งช่วยให้เกิด smart contract รุ่นต่อไปและแอปพลิเคชัน Web2 แบบ trust-minimized

สรุป

Chainlink เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในระบบที่มีความปลอดภัยสูง ใช้งานอย่างแพร่หลาย และ integrate อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม Blockchain การเติบโตของ Chainlink มาจากความปลอดภัยและบริการแบบ decentralize ที่หลากหลาย ซึ่ง Developer ฝั่ง Web3 และ Web2 สามารถเชื่อใจได้ในขณะนี้ เมื่อ Chainlink Network อยู่ในจุดที่มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในตัวเองบน Oracle network หลาย Network และ Oracle network มากกว่า 1,000 ที่เปิดตัว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเติบโตขั้นต่อไปจะเริ่มต้นแล้ว พร้อมกับการเปิดตัว Economics 2.0

เรารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ Network สามารถมอบให้กับ Developer ฝั่ง Web3 ทุกคน รวมถึงระบบ Web2 ที่ต้องการ trust-minimized การเติบโตทั้งหมดนี้ต้องการ community และ ecosystem ที่ตั้งใจ และเรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความตั้งใจและการสนับสนุนของคุณ ในขณะที่เรายังคงสร้างโลกที่ขับเคลื่อนด้วยความจริงในการเข้ารหัส (cryptographic truth)

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ chain.link สมัครรับ Chainlink newsletter และติดตาม Chainlink บน Twitter, YouTube และ Reddit

หากคุณต้องการเนื้อหาทางเทคนิคเพิ่มเติม เราขอแนะนำให้คุณอ่าน Chainlink whitepaper หรือ Chainlink 2.0 whitepaper หรือ developer documentation

--

--