Chainlink เปิดใช้งานการบูรณาการ Blockchain IoT ได้อย่างไร

Chainlink Thailand
Chainlink Community
2 min readFeb 21, 2022

เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ที่เราคาดว่าจะมีจำนวนทะลุ 25,000 ล้านเครื่องในปี 2021 และนวัตกรรมสมาร์ทคอนแทรคในขณะนี้มีกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดเป็นแอปพลิเคชัน IoT บล็อคเชน (blockchain IoT application) ที่มีกรณีการใช้งานที่น่าสนใจจากการรวมตัวของเว็บเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ากับระบบอัตโนมัติที่ปลอดภัยของเครือข่ายบล็อคเชน อุปกรณ์ IoT เป็นอุปกรณ์ที่ฝังเทคโนโลยีที่ทำหน้าที่ส่งและรับข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ปัจจุบันอุปกรณ์ IoT มีตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น สมาร์ทวอทช์, อุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน WiFi และหูฟังไร้สาย ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ เช่น ยานยนต์อัตโนมัติ และโรงงานอัจฉริยะ

การเริ่มต้นใช้งานอุปกรณ์ IoT ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การจัดการห่วงโซ่อุปทานและการผลิตพลังงาน ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการทำงานของธุรกิจอย่างมาก ทำให้สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพและการใช้ทรัพยากรแบบเรียลไทม์ได้ และด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชน องค์กรสามารถใช้งานสมาร์ทคอนแทรคที่เป็นข้อตกลงตามสัญญาทางคณิตศาสตร์และป้องกันการปลอมแปลงซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลความจริงแหล่งเดียว (single source of truth) แก่ทุกฝ่ายและสามารถทำธุรกรรมได้โดยอัตโนมัติตามตรรกะทางธุรกิจต่างๆ ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เนื่องจากสมาร์ทคอนแทรคทำหหน้าที่เป็นตัวกำหนด หมายความว่าสัญญาเหล่านั้นจะดำเนินการโดยอัตโนมัติตามตัวชี้วัดต่างๆ ที่ตั้งไว้ซึ่งกำหนดโดยรหัสคอมพิวเตอร์เช่นกัน ดังนั้น จะไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของคู่สัญญาสามารถละเมิดภาระผูกพันตามสัญญานั้นได้ ซึ่งกำจัดปัญหาต่างๆ เช่น การชำระเงินล่าช้า, ความแตกต่างของราคา และการปฏิเสธที่จะจ่าย ทั้งหมดได้ด้วยการใช้งานสมาร์ทคอนแทรค

ด้วยการรวมอินพุตจากโลกจริงของอุปกรณ์ IoT เข้ากับการดำเนินการที่แข็งแกร่งของบล็อคเชน องค์กรต่างๆ จะมีโอกาสสร้างกระบวนการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสนับสนุนโดยการรับประกันการเข้ารหัส (cryptographic guarantees) เช่นเดียวกับการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่และเกิดตลาดใหม่จากชุดข้อมูลบนเครือข่ายบล็อคเชน

ประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อคเชนสำหรับ IoT

ด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่มีอยู่กับบล็อคเชน องค์กรจะสามารถปรับปรุงความปลอดภัยของอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว, ทำให้กระบวนการทำงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ และโปร่งใสแบบ end-to-end ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นระบบที่กระจัดกระจายและไม่โปร่งใส

ความปลอดภัย

แม้ว่าการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะทำให้อุปกรณ์ IoT มีฟังก์ชันมากมาย, มีคุณลักษณะและการออกแบบที่หลากหลาย แต่มันก็เสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากแฮ็กเกอร์ พวกเขาสามารถแทรกแซงเซ็นเซอร์จราจรในเมืองอัจฉริยะ, จี้ยานพาหนะอัตโนมัติ หรือแทรกแซงเครื่องจักรที่สำคัญในโรงงานอัจฉริยะ รวมถึงอุปกรณ์ IoT ที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลยังสามารถรั่วไหลไปยังบุคคลที่สามได้อีกด้วย แต่ด้วยออราเคิลแบบกระจายอำนาจ อุปกรณ์ IoT จะสามารถป้อนข้อมูลของพวกเขาไปยังบล็อคเชนได้อย่างปลอดภัย โดยที่ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้บนเครือข่ายและสามารถทริกเกอร์เอาต์พุตที่เชื่อถือได้สูง หากแฮ็กเกอร์ต้องการปลอมแปลงข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้บนบล็อคเชน พวกเขาจะต้องโจมตีไปที่ตัวบล็อคเชนเองซึ่งรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลอุปกรณ์ IoT อยู่

ระบบอัตโนมัติ

องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากการอ่านเซ็นเซอร์โดยละเอียดของอุปกรณ์ IoT ร่วมกับสมาร์ทคอนแทรคได้เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่เป็นไปโดยอัตโนมัติและเหมาะสม ตัวอย่างเช่น ในการตั้งค่าทางอุตสาหกรรม นักพัฒนาสามารถผสานรวมสมาร์ทคอนแทรคกับเซ็นเซอร์ IoT เพื่อคาดการณ์การดำเนินการบำรุงรักษา อุปกรณ์ IoT ในโรงงานผลิตสามารถส่งข้อมูลจากเครื่องวินิจฉัย (diagnose machine) ไปยังบล็อคเชนได้เป็นระยะๆ และสามารถตั้งโปรแกรมสมาร์ทคอนแทรคให้ปิดเครื่องจักรแต่ละเครื่องได้หากอุปกรณ์เหล่านั้นทำงานไม่ปกติหรือไม่เป็นไปตามการตั้งค่าที่แนะนำ ในอนาคต ธุรกรรมระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักรแบบอัตโนมัติ (autonomous machine-to-machine transactions) อาจเกิดขึ้นได้ โดยโปรแกรมตัวแปรสมาร์ทคอนแทรคตั้งต้นจำเป็นต้องถูกป้อนข้อมูลโดยมนุษย์เท่านั้น

ความโปร่งใส

ด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT กับสมาร์ทคอนแทรค องค์กรที่ต้องจัดการธุรกรรมในเครือข่ายซัพพลายเชนที่ซับซ้อนสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งความจริงเพียงแหล่งเดียวของบล็อคเชนได้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในระหว่างการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ (movement of products) ข้อมูลภายในเครือข่ายธุรกิจที่มีอยู่มักจะอยู่อย่างกระจัดกระจายตามระบบที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายหลังบ้านที่มากเกินไป, อาจเกิดข้อผิดพลาดในสัญญาและใช้เวลานานในการประมวลผล การผสานรวมแท็ก RFID เพื่อระบุและติดตามสินค้าคงคลัง ด้วยสมาร์ทคอนแทรคบนบล็อคเชนสามารถบันทึกการปลอมแปลงและตรวจสอบการกระจายวัสดุหรือสินค้าได้ทั่วโลก ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงลูกค้าปลายทาง

เชื่อมต่อบล็อคเชนและ IoT อย่างปลอดภัยด้วยออราเคิลแบบกระจายอำนาจ

โดยปกติแล้วบล็อคเชนจะไม่สามารถเชื่อมต่อจากอินพุตภายนอกได้เลยเช่น ข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้บล็อกเชนสามารถโต้ตอบกับทรัพยากรนอกเครือข่ายได้อย่างปลอดภัย พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากออราเคิลซึ่งเป็นมิดเดิลแวร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อสมาร์ทคอนแทรคกับระบบภายนอก รวมถึงระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (enterprise resource planning: ERP) ออราเคิลจำเป็นต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT กับสภาพแวดล้อมบล็อคเชนสำหรับองค์กรต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบจำนวนมากของสมาร์ทคอนแทรค

เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT กับบล็อคเชนและเอาต์พุตใดๆ ด้วยออราเคิลของ Chainlink

เครือข่ายออราเคิลของ Chainlink ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ช่วยให้สมาร์ทคอนแทรคบนบล็อคเชนใด ๆ สามารถโต้ตอบกับข้อมูลจาก API ต่างๆ ได้ เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์ IoT ใช้ API เพื่อสื่อสารกับแอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต จึงสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายออราเคิลของ Chainlink ผ่านเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ อุปกรณ์ยังสามารถกำหนดค่าด้วยโหนดออราเคิลของ Chainlink เพื่อป้อนข้อมูลเข้าและออกจากสมาร์ทคอนแทรคได้โดยตรง ทำให้ผู้ให้บริการข้อมูลสามารถจัดหาข้อมูลบนเครือข่าย IoT ของตนและป้อนไปยังบนเครือข่ายบล็อคเชนสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจได้

Chainlink สามารถเข้าได้กับทุกๆ เครือข่ายบล็อคเชนหมายความว่าองค์กรต่างๆ สามารถใช้ออราเคิลของ Chainlink เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ของตนกับบล็อคเชนใดๆ ที่พวกเขาเลือกได้ แต่ละเครือข่ายบล็อกเชนต่างก็มีคุณสมบัติ, ประสิทธิภาพและการอนุญาตที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีตัวเลือกที่หลากหลาย Chainlink ขจัดค่าใช้จ่ายในการสร้างและสนับสนุนการบูรณาการรอบๆ บล็อกเชนแต่ละเครือข่าย ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับบล็อคเชนใดๆ ในระบบนิเวศแบบมัลติเชนที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างง่ายดาย

การรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญยิ่งโดยเฉพาะสำหรับองค์กรเมื่อเริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ โครงสร้างพื้นฐานที่ป้องกันการแทรกแซงและผ่านการทดสอบตามเวลา (time-tested) ของ Chainlink ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครือข่ายออราเคิลจะตรงตามการรับประกันความปลอดภัยพื้นฐานของการคำนวณแบบกระจายอำนาจ (decentralized computation) เมื่อเชื่อมต่อเครือข่ายบล็อคเชนกับโลกภายนอก

แอปพลิเคชั่น Blockchain IoT ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ใช้ Chainlink

ออราเคิลแบบกระจายอำนาจของ Chainlink ช่วยให้ระบบนิเวศใหม่ของอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับบล็อคเชนนั้นสามารถทำงานแบบอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆ

การติดตามห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ

ห่วงโซ่อุปทานเป็นระบบที่ซับซ้อนซึ่งมักต้องการตัวกลางหลายตัวเพื่อให้แน่ใจว่าการชำระเงินได้รับการประมวลผลอย่างถูกต้องและมีการติดตามสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ PingNET เป็นเครือข่ายการรับส่งข้อมูลแบบกระจายอำนาจ (decentralized transmission network) สำหรับอุปกรณ์ IoT กำลังวางแผนจะใช้ Chainlink เพื่อให้ซัพพลายเชนชำระเงินได้อย่างอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ IoT ที่ฝังอยู่ในพาเลทขณะขนส่งจะส่งข้อมูลตำแหน่งไปยังโหนด Chainlink เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาไปถึงที่อยู่จัดส่งที่ถูกต้องหรือไม่ หากข้อมูลตำแหน่งพิสูจน์ได้ว่าพาเลทมาถึงที่อยู่ที่ถูกต้องแล้ว ข้อมูลจะทริกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคเพื่อส่งการชำระเงินไปยังบริษัทขนส่งโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการจัดส่งและการประมวลผลที่ล่าช้า

ความโปร่งใสทางบัญชี

สาเหตุอันดับหนึ่งของความคลาดเคลื่อนในบัญชีเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ บล็อคเชนสร้างบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกันของธุรกรรม (shared ledger of transactions) ที่สามารถลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการป้อนแบบแมนนวลในกระบวนการบัญชีและสร้างประวัติที่ตรวจสอบได้ของสินทรัพย์ที่ทำธุรกรรม โปรเจ็กต์ Open Library นำเสนอฟังก์ชันนี้โดยใช้ออราเคิลของ Chainlink เพื่อสร้างระบบเช่าหนังสือแบบกระจายอำนาจ หนังสือจะถูกฝังด้วยแท็ก RFID ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะเดินทางจากลูกค้าไปยังลูกค้าผ่านระบบเช่าแบบไร้พรมแดน บริษัทต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยี RFID กับผลิตภัณฑ์เพื่อติดตามวัสดุหรือสินค้าต่างๆ ตลอดวงจรห่วงโซ่อุปทานและทำให้เกิดความโปร่งใสตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงผู้บริโภคปลายทาง

อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ

อุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับบล็อคเชนกำลังสร้างแรงจูงใจใหม่ ๆ ในด้านกีฬาและสุขภาพโดยปรับปรุงการแบ่งปันข้อมูลและความโปร่งใส Gran Fondo เป็น dApp ด้านฟิตเนสที่ชนะรองวัลรองชนะเลิศใน Hackathon ของ Chainlink ที่ EHDenver ในปี 2019 สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลสมาร์ตวอทช์กับสมาร์ทคอนแทรคโดยใช้ออราเคิลของ Chainlink กระตุ้นให้นักกีฬาเข้าแข่งขันเพื่อชิงรางวัล ETH จากสถิติด้านประกันสุขภาพ แต่ละปีมีการโกงประกันสุขภาพที่คาดว่ามีราคาสูงกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ บริษัทประกันสุขภาพจึงสามารถใช้ Chainlink เพื่อวิเคราะห์และบันทึกกิจกรรมทางกายภาพที่ตรวจสอบได้และป้องกันการปลอมแปลงจากอุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดใช้งาน IoT เพื่อประเมินเบี้ยประกันสำหรับผู้ถือกรมธรรม์แต่ละคนได้อย่างถูกต้อง

ประกันภัยพารามิเตอร์

Chainlink เชื่อมต่อเซ็นเซอร์ IoT สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันแบบกระจายอำนาจของ Arbol

สมาร์ทคอนแทรคกำลังปฏิรูปอุตสาหกรรมประกันภัยด้วยการเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบกำหนดพารามิเตอร์ ซึ่งจะจ่ายเงินให้ผู้ถือกรมธรรม์โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น โปรโตคอลการประกันแบบกระจายอำนาจ Arbol ใช้ออราเคิลของ Chainlink เพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนให้ประกันปริมาณน้ำฝน (rainfall insurance) โดยอัตโนมัติให้กับผู้ถือกรมธรรม์ เมื่อเซ็นเซอร์ IoT จับระดับของปริมาณน้ำฝนในสถานที่ๆ ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของสมาร์ทคอนแทรค อุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับบล็อคเชนสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบพารามิเตอร์ได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เซ็นเซอร์ GPS ที่บันทึกข้อมูลตำแหน่งสำหรับการประกันการขนส่ง ไปจนถึงอุปกรณ์ตรวจจับแรงกด (pressure-sensing devices) ที่ตรวจสอบแผ่นดินไหวเพื่อการประกันภัยพิบัติ

รถเช่าอัตโนมัติ

ออราเคิลแบบกระจายอำนาจที่ปลอดภัยของ Chainlink ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายบล็อคเชนเพื่อทริกเกอร์เอาต์พุตในโลกแห่งความเป็นจริง Link My Ride เป็นผู้ชนะรางวัลชนะเลิศจาก Chainlink Virtual Hackathon เชื่อมต่อ Tesla API กับออราเคิลของ Chainlink สำหรับแอปพลิเคชันเช่ารถยนต์แบบเพียร์ทูเพียร์บนบล็อกเชน เมื่อยานพาหนะสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยสมบูรณ์ เราอาจนึกภาพโมเดลการเช่าระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักรโดยรับการป้อนข้อมูลจากมนุษย์ที่น้อยที่สุด โครงสร้างพื้นฐานออราเคิลที่ผสานรวมได้ง่ายของ Chainlink มีเอกสารแนะนำการบูรณาการที่ครอบคลุม ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเรียกใช้ API ภายนอกได้อย่างปลอดภัยจากสมาร์ทคอนแทรคของตน และสามารถสำรวจกรณีการใช้งาน IoT บล็อคเชนต่าง ที่เป็นไปได้และหลากหลาย

การวัดการบริโภคและมลภาวะ

นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสให้แก่กระบวนการทำงานแล้ว การบูรณาการบล็อกเชน IoT ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ คิดค้นโมเดลสิ่งจูงใจใหม่ๆ ที่ส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืน เครื่องมืออัตโนมัติ NetObjex กำลังสร้าง loyalty program สำหรับนักเดินทางตัวยงซึ่งใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อวัดการใช้น้ำและพลังงานในโรงแรมต่างๆ สำหรับนักเดินทางที่มีระดับการบริโภคต่ำกว่าค่าเฉลี่ย สมาร์ทคอนแทรคจะมอบโทเค็นรางวัลให้กับพวกเขาโดยอัตโนมัติช ซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินสดหรือแลกใช้สำหรับการเข้าพักโรงแรมในครั้งต่อไปได้ รัฐบาลสามารถบังคับใช้ข้อจำกัดด้านมลพิษโดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่ตรวจสอบการปล่อยมลพิษจากโรงงานไปยังบล็อคเชน และยังช่วยลดการรายงานการปล่อยมลพิษที่ไม่เป็นความจริงอีกด้วย ออราเคิลแบบกระจายอำนาจของ Chainlink ช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ลงนามจากภายนอกจะถูกส่งไปยังเครือข่ายบล็อคเชนอย่างปลอดภัย จากนั้นสมาร์ทคอนแทรคก็สามารถนำมาใช้เพื่อกระตุ้นผลลัพธ์ในโลกแห่งความเป็นจริงและบังคับใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

บทสรุป

อุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับบล็อคเชนนั้นพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานของอุตสาหกรรม ในการรวมอุปกรณ์ IoT เข้ากับระบบนิเวศบล็อกเชนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างปลอดภัยและง่ายดาย จำเป็นต้องมีโซลูชันออราเคิลที่กระจายอำนาจสูงและยืดหยุ่นสูง โครงสร้างพื้นฐานออราเคิลที่ผ่านการทดสอบตามเวลาและสามารถเข้าได้กับทุกเครือข่ายบล็อคเชนของ Chainlink ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญนี้ ซึ่งทำให้เกิดแอปพลิเคชันสมาร์ทคอนแทรคใหม่ๆ ที่สามารถโต้ตอบกับข้อมูลอินพุตภายนอกและใช้ศักยภาพของบล็อคเชนด้านความเป็นธรรม ความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพมาสู่โลกภายนอก

หากคุณเป็นนักพัฒนาและต้องการเชื่อมต่อสมาร์ทคอนแทรคกับข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โปรดอ่านเอกสารสำหรับนักพัฒนาของ Chainlink หากต้องการข้อมูลการผสานรวมเชิงลึกเพิ่มเติมโปรดไปที่พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ

--

--