วิวัฒนาการและทางรอดของสิ่งพิมพ์ (ตอนที่ 2) [Kindle’s Way]

Chainarong Tangsurakit
Breadcrumbs of My Life
3 min readMar 5, 2013

[PDF Version Click Here]

KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]

วิวัฒนาการและทางรอดของสิ่งพิมพ์ (ตอนที่ 2)

เป็นข่าวสะเทือนวงการสื่อทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อหัวเรืออย่าง Newsweek นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่มีผู้อ่านมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก TIME ตัดสินใจยุติการพิมพ์ข่าวแบบกระดาษอย่างถาวร เพื่อผันตัวเองเข้าสู่ Digital Format เต็มรูปแบบ เหลือไว้แต่เพียงปกสีขาวดำทึมๆ ติด hashtag #LASTPRINTISSUE เป็นฉบับสุดท้ายบนแผงลอยเมื่อสิ้นปี 2012 ที่ผ่านมา

17 กุมภาพันธ์ 1933 นิตยสาร Newsweek ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่เสนอข่าวคราวบ้านเมือง และเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้อ่านในยุคก่อนๆ จนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ผ่านการกำกับดูแลของ Thomas J.C. Martyn อดีตบรรณาธิการส่วนข่าวต่างประเทศของนิตยสาร TIME จนถูกซื้อกิจการโดย Washington Post Company ในปี 1961

ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องที่เราละเลยไม่ได้ เพราะมันทำหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาสังคมไปสู่ทางที่ดีกว่า สร้างความเจริญก้าวหน้า พร้อมทั้งเป็นกระบอกเสียงให้กับความถูกต้องต่อเรื่องอยุติธรรมที่เกิดขึ้นได้ และสื่อนี่เอง คือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายข่าวสารไปสู่วงกว้าง เป็นสาเหตุให้ TIME และ Newsweek ที่ต่างขับเคี่ยวแข่งขันกันอยู่อย่างรุนแรง สร้างยอดหมุนเวียนผู้อ่านได้มากถึง 3 ล้านคนต่อวัน กลายเป็นสื่อกระแสหลักที่สร้างอิทธิพล กำหนดแนวความคิดให้กับสังคมเป็นอย่างมาก

ในยุค 80’ เริ่มมีสื่อทางเลือกใหม่อย่างโทรทัศน์เข้ามาแทนที่การรับสารแบบดั้งเดิมผ่านหนังสือพิมพ์ จนเกิดเป็นสถานีข่าว อย่าง CNN ที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 1980 สื่อโทรทัศน์แปลงโฉมข่าวในกระดาษที่ดูน่าเบื่อหน่าย ให้มีชีวิตชีวาได้อย่างอัศจรรย์ ทำให้มันแทรกซึมเข้าสู่บ้านเมืองได้อย่างรวดเร็ว และกว้างไกลจนน่าเหลือเชื่อ บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ จึงเริ่มหั่นงบโฆษณาบางส่วนออกมาอัดฉีดเข้าสู่สื่อทางเลือกใหม่นี้ กระแสตอบรับจากโฆษณาช่วยสร้างเม็ดเงินไหลทะลักกลับเข้าสู่บริษัทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นทำให้บริษัทต่างๆ กลับลำมาเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับสื่อโทรทัศน์แทน และกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ใครต่างก็พยายามแย่งชิงพื้นที่ในอากาศนี้ จนทำให้ค่าแอร์ไทม์ที่ใช้ลงโฆษณาต้องคำนวนกันในระดับวินาที ในขณะเดียวกัน ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นสู่ช่วงขาลงของธุรกิจนิตยสารเป็นต้นมา

จนถึงปลายยุค 90’ ที่อินเตอร์เน็ต เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคม ความเจริญก้าวหน้าในการพัฒนาระบบสารสนเทศเริ่มเพิ่มระดับขึ้นอย่างรุนแรง เว็บไซต์ดังๆ อย่าง Yahoo! เริ่มเพิ่มส่วน Headlines จนผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมอีกครั้งนึง และหันมาติดตามข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์มากขึ้นเรื่อยๆ

รวมไปถึงธุรกิจโฆษณาในอินเตอร์เน็ต ก็เริ่มถือก่อตัวขึ้น โดยขุนพลเอกในวงการอย่าง Google Adwords ซึ่งเป็น Platform การแสดงผลโฆษณาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมาย โดยอาศัยอัลกอริทึ่มอันชาญฉลาดในการคำนวนความชอบส่วนตัวของผู้ใช้ และยังมีระบบประมูลที่ใช้คำนวนค่าใช้จ่ายต่อคลิก (Pay-per-click) ที่ทำให้บริษัทมีต้นทุนการโฆษณาที่ถูกลงอย่างเหลือเชื่อ และถือได้ว่าเป็น คู่แข่งตัวฉกาจต่อธุรกิจสิ่งพิมพ์ ที่แย่งงบค่าใช้จ่ายการโฆษณาออกไปอย่างหน้าตาเฉย

นิตยสารต่างๆ จึงต้องเริ่มปรับตัวจากสัดส่วนรายได้ที่ลดลงแบบพังทลาย โดยมีเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมอย่างนิตยสาร TIME ที่เริ่มขยับตัวโดยการพลิกโฉมกองบรรณาธิการครั้งใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหายอดหมุนเวียนของนิตยสารที่ลดลงไปกว่า 12% จนเหลือ 3.4 ล้านคน ในปี 2007

ปี 2008 เป็นปีแรกที่งบการโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ลดลงมากถึง 11.7% โดยเฉพาะกลุ่มผู้โฆษณาหลัก เช่น บริษัทรถยนต์, ยา, และสถาบันการเงิน ที่เริ่มกระจายงบไปสู่สื่อทางเลือกอื่นๆ ส่งผลให้นิตยสาร Newsweek เริ่มเข้าสู่ภาวะขาดทุนเป็นปีแรก

นี่ถือเป็นพายุลูกใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก ความขัดสนทางการเงิน ทำให้ Newsweek ต้องปรับขนาดองค์กรโดยเลิกจ้างงานพนักงานหลายตำแหน่งออกไป รวมถึงการสั่งปิดศูนย์ข่าวในอีกหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก เพื่อรักษาความอยู่รอดของบริษัท

เข้าสู่ปี 2009 เมื่อ Social Networks เข้ามามีบทบาทอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้คนเลิกสนใจที่จะซื้อ “นิตยสารรายสัปดาห์” เพื่อมาอ่าน “เหตุการณ์ของอาทิตย์ที่แล้ว” ในเมื่อเขาเหล่านั้น สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้แบบ “นาทีต่อนาที” ผ่านทาง Facebook และ Twitter

แนวโน้มพฤติกรรมนี้ ยิ่งซ้ำเติม Newsweek ให้ย่ำแย่ขึ้นไปอีก อันเป็นสาเหตุให้บริษัทฯ ต้องรื้อโครงสร้างองค์กรใหม่ทั้งหมด โดยการจ้างนักคิดนักเขียนชื่อดังหลายราย อย่าง Fareed Zakaria และ Christopher Hitchens เข้ามาดึงดูดผู้อ่าน รวมถึงการพลิกโฉมรูปเล่มให้มีความเขร่งขรึม และเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยการจ้างบริษัทกราฟฟิคดีไซน์ชื่อดังอย่าง Number 17 นอกจากนี้ ตัวนิตยสารยังเปลี่ยนไปใช้คุณภาพกระดาษ และเทคโนโลยีการพิมพ์ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้นอีกด้วย

จนถึงปลายปี 2010 ตัวเลขยอดผู้อ่านที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นบทพิสูจน์ว่า สิ่งที่ Newsweek ลงทุนไปทั้งหมดนั้น ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาที่ถูกหรือใกล้เคียงเลย หนำซ้ำยังทำให้บริษัทมีตัวเลขขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นมากถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั่นเป็นจุดที่ทำให้ Washington Post Company ตัดสินใจตัดหางปล่อยวัด และขายธุรกิจทั้งหมดในราคา $1 ให้กับ Dr. Sidney Harman นักธุรกิจอันดับต้นๆ แห่งอุตสาหกรรมเครื่องเสียงยี่ห้อ HARMAN

จนถึง 2 ปีที่ผ่านมา Newsweek สามารถรักษาฐานผู้อ่านไว้ได้เพียง 1.5 ล้านคน หรือเพียงครึ่งนึงของ 4 ปีก่อนหน้านั้น สถานการณ์ความเป็นอยู่ขององค์กรเริ่มเข้าสู่ช่วงหายนะ เหลือเพียงจิตวิญญาณของนักข่าว ที่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์สังคมเท่านั้น ที่คอยจุนเจือให้บริษัทนี้ยังคงดำเนินต่อไปได้ ความมุ่งมั่นต่ออาชีพ ทำให้ Newsweek ตัดสินใจเดิมพันครั้งสุดท้าย ด้วยการควบรวมกิจการกับสำนักข่าวออนไลน์ชื่อดัง อย่างเว็บไซต์ The Daily Beast ที่มียอดผู้เข้าชมไม่ซ้ำ (UIP) ประมาณ 7 ล้านคนต่อเดือน

Newsweek เดินเกมใหม่ โดยใช้ Paid-Subscription Model ที่ปล่อยข่าวบางส่วน ให้แสดงบนเว็บไซต์ The Daily Beast และขายบทความวิเคราะห์เชิงลึก ผ่านการสมัครสมาชิกกับทางนิตยสาร ซึ่งโมเดลนี้ ช่วยให้บริษัทสามารถหยุดภาวะขาดทุนสะสมเพิ่มเติมได้ แต่ก็ไม่ทำให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

Tina Brown บรรณาธิการบริหารสูงสุด จึงพยายามทุกวิถีทาง เพื่อพลิกฟื้นให้บริษัทฯ กลับมาทำกำไรให้ได้เช่นเดิม วิธีการต่างๆ รวมไปถึงการทำหน้าปกนิตยสารให้ล่อแหลม อย่าง “The First Gay President” และประเด็นศาสนาอีกปกหนึ่ง จนเกิดเป็นเสียงต่อต้านในแวดวง Social Network อย่างรุนแรง ทั้งยังไม่สร้างยอดผู้อ่านให้เพิ่มขึ้นแต่ประการใด

วันที่ 18 ตุลาคม 2012 Tina ตัดสินใจประกาศเลิกการผลิต Newsweek ฉบับกระดาษอย่างเป็นทางการ โดย Newsweek จะพิมพ์ฉบับสุดท้ายในปักษ์วันที่ 31 ธันวาคม 2012 เพื่อผันตัวเองเข้าสู่ยุค Digital Format อย่างเต็มรูปแบบ เหตุการณ์นี้ นับเป็นจุดอวสานของนิตยสาร Newsweek บนแผงลอย ที่มีระยะเวลานานเท่าชั่วอายุคนคนหนึ่ง หรือราว 80 ปี

“นิตยสารฉบับที่อยู่ในมือคุณตอนนี้ คือฉบับสุดท้ายที่เราจะตีพิมพ์ เพราะในฉบับต่อไป ตั้่งแต่ปักษ์แรกของเดือนมกราคมปีหน้า นิตยสารของเราจะย้ายไปอยู่บน Tablet, Kindle หรือว่ามือถือของคุณแทน” Tina ยังย้ำจุดยืนของเธออีกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่ใช่จุดจบของ Newsweek เพราะความเข้มข้น และจิตวิญญาณของนักข่าวนั้น จะยังคงอยู่ตลอดไป

ข้อความในประโยคก่อนหน้านี้ อาจจะไปปรากฎอยู่ที่บทบรรณาธิการของนิตยสารเล่มใดเล่มหนึ่งในอนาคตอันใกล้… สำหรับสำนักพิมพ์บ้านเรา คำถามที่ควรถาม จึงไม่ใช่คำถามประเภทที่ว่า “หนังสือ E-Book จะมาแทนที่หนังสือจริงได้หรือไม่?” หรือ “E-Book จะดีกว่าหนังสือจริงได้อย่างไร?” แต่เป็นคำถามที่สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ไม่อยากได้ยินว่า “ใครจะเป็นรายต่อไป?”

Kindle Tips

ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ Kindle Touch เพราะ Amazon เพิ่งออก Update Firmware เวอร์ชั่นใหม่ 5.3.2 ให้กับอดีตตัวท๊อป Kindle รุ่นนี้ โดยมีการปรับเปลี่ยน Interface ใหม่แบบยกเครื่อง ให้หน้าตาคล้ายคลึงกับรุ่น Paperwhite เช่น การแสดง Cover View ได้ หรือ Fucntion Time-to-Read สามารถ Download Firmware ตัวใหม่ได้ที่เว็บ Amazon.com เลยครับ

Book Recommend

The Post-American World: Release 2.0 — Fareed Zakaria $11.53

โลกหลังยุคอเมริการุ่งเรืองจะเป็นเช่นไร… หนังสือที่คาดการณ์ถึงช่วงเวลาที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มมีบทบาท เติบโต และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมประเทศระดับมหาอำนาจ แนวโน้มของศตวรรษที่ 21 อาจต่างออกไปเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิด ยุคที่โลกสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ราวกับเวทย์มนต์จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผลงานจากบรรณาธิการ Newsweek และผู้ทำรายการ “Fareed Zakaria GPS” ให้กับสื่อชื่อดังอย่าง CNN

Hikikomori and the Rental Sister: Jeff Backhaus $14.16

บนเกาะแมนฮัตตัน ชายคนนึงใช้เวลาไม่กี่นาที เพื่อออกมาซื้อของใช้จำเป็นยามค่ำคืนไร้ผู้คน ส่วนเวลาที่เหลือทั้งหมด เขาปิดกั้นตัวเองอยู่ภายในห้องส่วนตัว และใช้ชีวิตอยู่บนเตียงเป็นเวลามากกว่า 3 ปี เขาหยุดแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ กับภรรยา ทั้งๆ ที่อาศัยอยู่ห้องติดกัน จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้ Thomas Tessler กลายเป็นโรค hikikomori ผู้ซึ่งหลีกหนีการเผชิญหน้าต่อสังคม เพื่อช่วยเหลือ Thomas ให้กลับมาเป็นปกติ, ภรรยาของเขาจึงจ้าง Silke หญิงสาวผู้เคยตกอยู่ในภาวะเดียวกัน แต่เลือกที่จะฝังบาดแผลตัวเองโดยการใช้ชีวิตแบบสุดกู่กับผู้ชายนับไม่ถ้วน หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปสำรวจจิตใจของกำแพงแห่งความสูญเสีย, ความสัมพันธ์ และการเสียสละ

KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]

References:

--

--