เมื่อไปงาน CodeMania 1001 ครั้งแรก

Chalumpol Trararak
4 min readJun 23, 2019

--

สวัสดียามเช้าครับ (ที่เขียนในตอนนี้ เวลา 20:37 น.) ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมชื่อกรนะครับ ปกติผมจะไม่ค่อยได้เขียนโค๊ดเยอะๆเท่าไหร่ เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่วันนี้ได้รับคำเชิญชวนจากลูกพี่ใหญ่ Nat Weerawan ให้ไปงาน Codemania 1001 โดยจัดที่ True Digital Park อยู่สุขุมวิท 101 ซึ่งผมไม่เคยไป และน่าจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากสำหรับผม เพราะผมเองก็ไม่เคยไปงานนี้เลย และอยากไป เลยตอบตกลงกับลูกพี่ nat ไป ซึ่งวันที่ไปก็ได้พบกับกลุ่ม Chiang Mai Maker Club พร้อมกับพี่นัทและน้องแมนไว้ประมาณ 7 คน โดยนัดกันตั้งแต่ตี 5 และมาถึงที่ Lounge ของสนามบินตั้งแต่ตี 5 47 นาที เพราะด้วยความตื่นเต้นและกลัวไม่ทันงาน ประกอบกับความง่วงเล็กน้อย ทำให้หลายๆคนจึงหลับไปสักพัก พอถึงเวลาใกล้เครื่องขึ้น (ประมาณ 7 โมง) ก็ถือโอกาสปลุกทุกคนและเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร

เมื่อเด็กดอยลงกรุงแต่เช้า (ขอบคุณรูปจาก Nat Weerawan)
5:47
ก่อนขึ้นเครื่อง

หลังจากลงเครื่องจากสนามบินดอนเมืองประมาณ 8 โมงเช้า (มาถึงเร็วกว่ากำหนด) ทุกคนก็รีบขึ้นแท็กซี่มายัง True Digital Park ในราคาประมาณ 430 บาท (รวมค่าขึ้น Tollway 2 ครั้ง 120 บาท และค่าเรียกแท๊กซี่ 50 บาท) หลังจากลงรถมาแล้วก็รีบบึ่งมาลงทะเบียนกัน ปรากฎว่า คนมาเยอะมาก จนต้องต่อคิว 2 แถวเลยทีเดียว

หน้างาน Codemania 1001

หลังจากได้ลงทะเบียนแล้ว ก็จะได้เข็มกลัด กับเสื้อ ซึ่งมันสวยดีนะครับในความรู้สึกผม หลังจากลงทะเบียนแล้ว ก็รีบขึ้นไปห้อง Auditorium ซ่งอยู่ชั้น 6 ของอาคาร เพื่อไปร่วมพิธีเปิดของงาน ซึ่งในงานก็จะได้พูดถึง digitalskill.org ซึ่งเป็น Platform ที่ทางสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทยร่วมกับ DEPA ทำร่วมกันเพื่อให้มี Learning Platform สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ในงานดิจิตอลต่างๆ โดยเน้นใน 5 หัวข้อหลักๆ คือ Digital Legacy, Internet of Things, Cyber Science, Digital Science และ English For Programming ซึ่งมี Microsoft และ Chiang Mai Maker Club ร่วมเป็นพันธมิตรให้เกิด Platform นี้ และมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการเก็บคะแนนหรือ Credit เพื่อสามารถขอใบประกาศนียบัตรจาก Microsoft และหน่วยงานในเครือ ซึ่งสามารถนำไปยื่นเพื่อสมัครงานได้อีก ถือได้ว่าเป็น Learning Platform ที่มีประโยชน์มากในยุคปัจจุบัน ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถเรียนรู้ได้เรื่อยๆเพราะ Platform นี้มีการอัพเดตตลอดเวลา และที่สำคัญที่ชอบมากคือ ฟรีครับ!!!!

หลังจากนั้น…. ซึ่งเป็น Head of True Digital Park ได้พูดถึง True Digital Park ที่มีการขยายโซนอีก ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในปี 2021 ซึ่งจะกลายเป็น Smart City ขนาดย่อมที่มีวามพร้อมทุกด้านทั้งบุคลากรที่มีความรู้ในศาสตร์ต่างๆ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ Startup การให้สถานที่ในการทำ Prototype ตลอดจน Venture Capital สำหรับการลงทุน ซึ่งเป็นนิมิตรหมายอันดีต่อ Startup ในประเทศไทยที่มี Digital Smart City ที่มีความพร้อมสำหรับธุรกิจในไทย

หลังจากหมดช่วงพิธีเปิดแล้วก็เป็นช่วงใกล้เที่ยง ในงานก็เลยมีการขออาสาสมัครเพื่อที่จะเปิดประเด็นในหัวข้อต่างๆ 6 คน ซึ่งก็มีคนที่มีความกล้าในการเสนอหัวข้อต่างๆ เช่น Cashless Society ในจีน (ซึ่งผมก็เข้าไปฟังเรื่องนี้) เรื่องปัญหาภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับชาวต่างชาติ หรือแม้กระทั้งเรื่องการฝึกงานของนักศึกษา เพื่อที่จะมาพูดคุยกัในขณะทานอาหารกลางวัน ซึ่งผมคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กัน และการสร้าง Connection กันครับ

หลังจากได้พักทานอาหารกลางวันแล้ว ก็ถือเวลาอันสมควรที่จะเข้าไป Workshop ในงานกันครับ ซึ่งงานนี้มี Workshop อยู่ 2 เรื่องคือ Blockchain (Ethereum) และการทำ Smart Contract กับ Basic Monitoring ในงานจริง โดยเรื่อง Blockchain จะพี่โดม เจริญยศ และ KulapIO ซึ่งจะฝึกการใช้งาน MetaMask และ Remix โดยเบื้องต้น และการจำลองระบบ Blockchain ด้วยการ Deploy ค่าต่างๆ และทำการ Vote จากค่าที่ส่งมาจาก Remix ไปยังตัว Blockchain ครับ (ซึ่งผมเองก็ งูๆปลาๆมาก แต่ก็สู้ตาย 5555+)

อีกหนึ่ง Workshop ที่น่าสนใจมากสำหรับผมก็คือ Basic Monitoring สำหรับงานจริง ซึ่งพี่กานต์ ซึ่งเป็น DevOps Engineer จากบริษัท Line มาเป็นวิทยากร ซึ่งพี่กานต์ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับความสำคัญของการ Monitoring ข้อมูล และเครื่องมือต่างๆที่จะใช้สำหรับการ Monitoring ไล่ตั้งแต่เครืองมือการจัดการข้อมูลและการ Query ข้อมูลโดยใช้ Elasticsearch การฝากข้อมูลลง Database โดยใช้ InfluxDB และ Telegraf การแสดงผลจากฐานข้อมูลจาก InfluxDB กับ Telegraf ด้วย Prometheus และ Grafana และได้สาธิตการทำ Notification จาก Grafana ไปเตือนค่าที่ต้องการผ่านโปรแกรมต่างๆเช่น Line, Slack และอื่นๆ ซึ่งเป็นการ Workshop ที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับนักเขียนโปรแกรมที่ต้องการ Monitoring ค่าจะที่ต่างๆเพื่อแสดงผลและแจ้งเตือนค่าต่างๆไปยังผู้ใช้

นอกจากนี้ในงานยังมีบูตน่ารักๆ จากสปอนเซอร์ต่างๆที่มากันเช่น SCB, Tencent, Gettto รวมทั้งบูตของ True Digital Park ซึ่งผมเองก็ได้ของที่ระลึกกลับบ้านไปเยอะเลยครับ 555+

สุดท้ายหลังจากที่งานจบ เมื่องานเลิกย่อมมีวันเลิกรา มันก็จะเหลือแต่ความรู้สึกดีๆครับ ซึ่งความรู้สึกที่ได้มาครั้งนี้คือ ผมได้ความรู้กลับไปเยอะมาก วิทยากรเก่งมาก ผมเองบางที (หรือส่วนใหญ่) ตามไม่ทันครับ เนื่องจากเครื่องที่ผมเอามาวันนี้เพิ่งซื้อใหม่เลยไม่ได้เตรียมการ ทำให้ต้องมานั่งโหลดใหม่ซะเยอะ เสียเวลาไปพอสมควร 555+ และอีกเรื่องที่สำคัญและมีค่ามากสำหรับผมคือ ประสบการณ์จาก Developer รุ่นพี่ครับ เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆ รวมทั้ง Community ของ Developer ที่แข็งแกร่งและเก่งมาก ผมเองยังรู้สึกว่า จะต้องตื่นตัวกับการ Coding ให้มากขึ้นด้วย สุดท้ายจริงๆ ผมอยากขอบคุณ สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย DEPA Microsoft และสปอนเซอร์พันธมิตรที่ทำให้เกิดงาน Codemania ในครั้งนี้ และที่อยากขอบคุณเป็นพิเศษคือ พี่นัทจาก Chiang Mai Maker Club ที่ชวนผมมาด้วยครับ อยากขอบคุณจากใจจริงครับ

ในการผจญภัยครั้งนี้ก็คงจบลงแล้ว ผมก็ขอลาแต่เพียงเท่านี้ พบกันใหม่บทความหน้าครับ :]

--

--