ว่าด้วยความขัดแย้งทางการเมือง

Chris
Chris’ Dialogue
Published in
Dec 24, 2020

เห็นข่าวปารีณาไปสำรวจที่ สน. แห่งหนึ่ง พบว่าไม่มีการร้องเรียนของน้องหมวยที่มีข่าวล่วงละเมิดทางเพศ แล้วบอกว่านี่เป็นเด็กเลี้ยงแกะ

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จริงแท้เป็นอย่างไร นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะเขียนถึงในวันนี้

ผมว่ามันจะดีกว่ามากถ้าถามเขาดีๆ ว่าเนี่ยไปถาม สน. ไม่มีข่าว ทำไมล่ะ ร้องเรียนไปที่ไหนเหรอ ตามหาไม่เจอ แล้วถ้ามันไม่มีจริงๆ น้องก็หน้าแตกไป ความน่าเชื่อถือเขาก็เสีย ถ้ามันมี ก็จะได้เข้าใกล้ความจริงมากขึ้น

ผมมองว่า รากปัญหาการเมืองของเรามันคือเรื่อง Stance กับวิถีการปฏิบัติต่อกัน วิถีการอยู่ร่วมกัน

คือเราจะบอกว่าน้องหมวยมีท่าทีที่ทำให้คนเสียหน้า เลยไม่น่ารักไม่น่าจะพูดจาดีๆ ด้วย น้องควรต้องเปลี่ยน Stance มันก็ทำได้ หรือจะมองว่า เรามาพยายามเข้าใจความรู้สึกว่าทำไมคนๆ นึงต้องมาเรียกร้องด้วยวิธีแบบนี้ไม่ใช้ระบบ และไม่ว่าจะจริงหรือจะปลอม ทำไมมีคนจำนวนมาก Relate กับความรู้สึกนี้ มาหาสาเหตุกันเถอะ มันก็มองได้

คุณให้ Value ด้านไหนมากกว่ากันล่ะ

รากลึกลงไปอีกคือ เราจะมองว่าทำให้คนใหญ่คนโตเสียหน้าเป็นเรื่องแย่มากๆ แล้วต้องทำให้หลาบจำ ก็มองได้ หรือจะมองว่าเห้ยการที่คนๆ นึงเดือดร้อนควรจะพูดออกมาได้อย่างปลอดภัยและพยายามเข้าใจให้มากที่สุด ก็มองได้

คุณลำเอียงเข้าข้างคนมีอำนาจมีทรัพยากร หรือลำเอียงเข้าข้างคนตัวเล็กตัวน้อย รากที่แท้จริงของความขัดแย้งมันอยู่แถวๆ นั้น

ซึ่งผมไม่อายที่จะบอกว่า ผมลำเอียงเข้าข้างคนตัวเล็กตัวน้อย ผมคิดว่า คนมีอำนาจควรมีความรับผิดชอบและใช้ชีวิตบนมาตรฐานที่สูงกว่าคนตัวเล็กตัวน้อย

แนวคิดประเภทที่ว่า กว่าจะไต่เต้ามาถึงตรงนี้ ลำบากจะตาย ต้องเก็บเกี่ยวต้องได้ใช้ชีวิตสบายบ้าง ก็สมควรแล้ว ผมไม่เห็นด้วยเลย ผมมองว่าถ้าเราจะเอากันแบบนั้นคนตัวเล็กตัวน้อยก็มีทางเลือกแค่สองทางคือ แย่งอำนาจจากไฝว้กันไป หรืออยู่อย่างลำบาก แล้วภาพรวมของสังคมจะเป็นยังไงถ้าเราจะแข่งกันล่าอำนาจ ก็เป็นแบบที่เห็นนี่ไง

นอกจากนี้ มันไม่แปลกเหรอที่เจ้าคนนายคน ที่ควรจะมีความรับผิดชอบเยอะกลับถูกมองว่าควรจะสบายกว่าคนอื่น เห้ย ใช่เหรอ คุณจะมองจากมุมเขาลำบากมาก่อนเขาควรสบายอย่างเดียวเลยเหรอ ดูจากมุมอดีตล้วนๆ โดยไม่สนมุมปัจจุบันว่าการ ขนาดนี้มันสร้างปัญหาอะไรเลยเหรอ ผมว่ามันแปลกและสร้างปัญหามากนะกับการที่คนมีอำนาจเยอะมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่ำความคาดหวังต่ำ

ภาพโครงสร้างสังคมที่ผมอยากเห็นคือ คนที่อยากสบาย ไม่ต้องไปเอาอำนาจอะไร อยู่เฉยๆ ไป รับผิดชอบตามหน้าที่พื้นฐานก็จบพอแล้ว ก็สบายไง ไม่ต้องรับผิดชอบเยอะ ส่วนคนที่อยากมีบทบาทมีอิทธิพล ต้องยอมรับหน้าที่ความรับผิดชอบที่หนักหนาสาหัสกว่าคนอื่น (แต่แน่นอนว่าเข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่าด้วย จากภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ผมยังเชื่อทุนนิยม) ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อทางโครงสร้างสังคมในปัจจุบันคือ อยากสบายต้องไปมีอำนาจไปเป็นเจ้าคนนายคน

ผมคิดว่าคนเป็นผู้นำ คนมีอำนาจ เป็นเจ้าคนนายคนควรจะเป็นตำแหน่งที่รับความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ซึ่งมันก็ตามมาด้วยมีแนวโน้มที่จะลำบากมากกว่าคนอื่น มันแปลกที่เราสอนมาว่าเป็นเจ้าคนนายคนแล้วจะสบาย

ถามว่าจะเปลี่ยนจากโครงสร้างปัจจุบันไปเป็นยังงั้นได้ยังไง ยังไม่รู้ แต่ผมคิดว่าขั้นตอนนึงที่สำคัญมากคือการแชร์ความรู้สึก

ถ้าเราสามารถแชร์ความรู้สึกได้โดยไม่ต้อง Defensive stance ถ้าผู้ใหญ่สามารถแชร์ได้ว่าฉันรู้สึกเสียหน้า อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ทำแบบอื่นได้มั้ย และเด็กสามารถเข้าใจตรงนั้น และในทางกลับกัน เด็กสามารถแชร์ได้ว่าเขาอึดอัดกับขั้นตอนที่ผู้ใหญ่บัญญัติมาอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรบ้างที่เขาพบเจอมา พอเปลี่ยนได้มั้ย และผู้ใหญ่สามารถเข้าใจรับความรู้สึกนั้น มันก็จะเปลี่ยนได้

การแชร์ความรู้สึกจะเกิดต่อเมื่อเราสู้กันจน Stalemate จนยอมรับว่าเห้ยฉันต้องเข้าใจแกและหาวิธีอยู่ร่วมกันแกแล้ว ก็เป็นได้ เหมือนสมัยเด็กเราอาจจะเคยต่อยกับเพื่อนจนสุดท้ายยอมเข้าใจมุมของเพื่อนและเคารพ ก็ได้ หรือจะเกิดเร็วกว่านั้นก็เป็นได้

ผมได้แต่หวังว่าจะเกิดเร็วกว่านั้น

ผมไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าโครงสร้างที่ผมใฝฝันจะเกิดได้อย่างไร แต่ขอเชิญชวนว่า ถ้าคุณฝันเห็นสิ่งเดียวกัน ก็ช่วยกันคิดกันไปครับ

ปล. ถ้าถามว่าโครงสร้างแบบนี้ ใครจะอยากรวย ใครจะอยากมีอำนาจ ทุกคนก็อยากสบายทั้งนั้น ทุกคนก็ทำอะไรง่ายๆ หมดสิไม่พัฒนากันพอดี ผมคิดว่า เรามีมุมมองความเชื่อมั่นต่อมนุษยชาติที่แตกต่างกันเหลือเกิน และเราประเมินศักยภาพของมนุษย์ต่างกันมาก

--

--

Chris
Chris’ Dialogue

I am a product builder who specializes in programming. Strongly believe in humanist.