เมื่อไหร่ที่ปัญหาอยู่ที่ “คน”
ถ้าใครตามผมมานาน จะรู้ว่าผมค่อนข้างเขียนบทความแนวเชิญชวนให้ไม่ตำหนิคนมามาก และเน้นให้ปรับปรุงแก้ไขมากกว่า
แต่นี่คงจะเป็นบล็อกที่ Emotional และแรงที่สุดเท่าที่ผมเขียนมา
ในฐานะผู้บริหาร เมื่อไหร่จะสรุปว่าปัญหาอยู่ที่คนได้?
ผมขอเปรียบเปรยเพื่อให้เห็นภาพ
ถ้าสมมติคุณทำระบบหนึ่ง แล้วระบบมันล่ม พอคนอื่นถาม คุณบอกว่าเพราะ Server ที่คุณใช้งานมันสเปคต่ำไป
แปลว่าถ้าเปลี่ยนให้แรงขึ้น มันต้องเสถียรขึ้น ล่มน้อยลง
ถ้าคุณเป็นนักขาย คุณไปขายของ แล้วขายไม่ได้ พอคนอื่นถาม คุณบอกว่าที่ขายไม่ได้เพราะช่วงนี้เป็นโลว์ซีซั่น
แปลว่าถ้าไฮซีซั่น ต้องขายได้ดีกว่านี้
นี่เป็นตรรกะง่ายๆ ที่ผมใช้
ปัญหาทุกอย่างมีหลายมุมมอง มองได้หลายแง่มาก
แต่ถ้าเราจะสรุปว่าปัญหาอยู่ที่ไหน แปลว่า ตรงนั้นต้องเป็นจุดที่พอแก้ไขแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง
เช่นกัน
เมื่อไหร่ที่พอคนอื่นถาม แล้วคุณจะบอกได้ว่าปัญหาอยู่ที่คน
แปลว่าถ้าเปลี่ยนคนใหม่ ปัญหาต้องลดลง
มีคนพวกนีึง ชอบพูดตลอดว่าปัญหาคือคน ทำอะไรไม่ได้
คนพวกนี้พูดว่าปัญหาคือคน เพียงเพื่อปัดให้พ้นตัว
“ปัญหาคือคน ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”
แล้วจะพูดขึ้นมาทำไมครับ
ถ้าคุณไม่พร้อมจะสอน ตักเตือน หรือเปลี่ยนคน
อย่ามาพูดว่าปัญหาคือคน
เพราะมันไม่ช่วยอะไร
คุณมามองปัญหาในมุมอื่น ซะยังจะดีกว่า ยังจะทำให้มันเดินไปข้างหน้าได้
สำหรับผม คนพวกนี้ไม่ควรมีสิทธิ์พูดว่าปัญหาคือคน
คนพวกนี้ พูดแค่ให้พ้นตัวเท่านั้น
ถ่วงให้ทุกอย่างอยู่กับที่ พูดจาพล่อยๆ ขอแค่ปัดให้พ้นตัว กลัวโดนเล่น
พวกตัวถ่วง ขี้ขลาด
คนแบบนึงที่ผมเคารพ คือคนที่พร้อมจะเดินไปข้างหน้าเสมอ
สำหรับผม การตัดสินใจบริหารมันยากอยู่แล้ว และไม่มีใครตอบได้ว่าอะไรถูก
คนที่พร้อมจะเดินไปข้างหน้า เป็นคนที่กล้าเคลมว่าปัญหาอยู่ที่คน แล้วกล้าจะเดินแผนแก้ที่คน โดยไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งนั้น
การแก้ที่คน อาจจะเป็นการอบรม ตักเตือน หรือแรงสุดก็ไล่ออกก็ได้
เมื่อมองปัญหาว่าเป็นคน มันก็แปลว่า คนพูดพร้อมจะแก้ที่คน พร้อมจะยืนหยัดว่า เมื่อคนเปลี่ยน ไม่ว่าคนเดิมแต่ภายในเปลี่ยน ความสามารถเปลี่ยน หรือเป็นคนใหม่ไปเลย ทุกอย่างจะดีขึ้น
ถ้าสมมติตัดสินใจเปลี่ยนคนเลย ก็ต้องทำโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ
ถ้าเปลี่ยนคนแล้ว Workload เราไม่พอทำไง? ผมเตรียมการไว้แล้วว่าจะต้องเปลี่ยนอย่างไร
จะหาคนดีกว่านี้ได้ยังไง? ผมเตรียมการไว้แล้วว่าจะหาจากที่ไหน
ถ้าเปลี่ยนคนแล้วไม่ดีขึ้น? ผมกล้ารับผิดชอบ พร้อเอาคอแขวน
คนที่พร้อมเดินไปข้างหน้า แม้แต่การโทษคนอื่น ก็พร้อมจะเดินไปข้างหน้า พร้อมจะยืนหยัดกับการโทษคนอื่น พร้อมจะ Get skin in the game พร้อมจะยืนหยัดกับคำพูดว่า “คนคือปัญหา” ไม่ได้พูดพล่อยๆ
ผมอาจจะไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของเขา
แต่ผมเคารพคนแบบนี้ ผมเคารพในเจตจำนงค์ และความกล้าหาญของเขา
เพราะผมก็ไม่รู้หรอกว่า ปัญหามันอยู่ที่คนมั้ย เปลี่ยนอาจจะดีหรืออาจจะไม่ดีก็ได้ าจะถูกจะผิดก็ว่ากันอีกเรื่อง พลาดไม่พลาดก็ว่ากันอีกเรื่อง
แต่คุณยืนหยัดกับคำพูดของคุณ คุณไม่ได้พูดเพื่อหยุดอยู่กับที่เพื่อปัดสวะ คุณพูดแล้วคุณพร้อมจะเดินต่อ
ผมเคารพคุณได้
และสำหรับผม ผมคิดว่า คนที่ทำแบบนี้
คือคนที่เหมาะสมได้รับสิทธิ์ที่จะพูดได้ว่า “ปัญหาคือคน”
เมื่อไหร่ที่จะบอกได้ว่าปัญหาคือคน
ก็เมื่อคุณพร้อมจะแก้ปัญหาคน พร้อมจะยืนหยัดกับคำพูดนี้ พร้อมจะพิสูจน์ว่า ถ้าคนเปลี่ยน ปัญหาหาย
ไม่ต่างอะไรกับเวลาคุณเคลมว่าปัญหาคือโลว์ซีซั่น ปัญหาคือเซอร์เวอร์สเปคห่วย นั่นแหละครับ
ถ้าทำไม่ได้ ติดโน่นติดนี่ ให้มองปัญหามุมอื่น
ผมก็เขียนไปเยอะนะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ว่ามองมุมไหนได้บ้างที่ไม่ต้องโทษกัน
ถ้ากล้าจะมองมุมนี้ ก็ต้องกล้าจะรับผิดชอบคำพูดตัวเอง กล้าจะเอา Skin in the game
แค่นั้นเอง ง่ายๆ ครับ
