Be open to new possibility
มีโปรเจ๊กต์นึงที่ผมพึ่งผ่านไป เราต้องพัฒนาระบบตัวนึงขึ้นมา
ระหว่างทำโปรเจ๊กต์ มีโปรแกรมเมอร์คนนึงในทีมบอกประมาณว่า
“ไอ้ที่บอกว่าทำๆ ไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยมาจัดการ Tech debt อ่ะไม่มีจริงหรอก Business เขาก็จะ Push feature มาเพิ่มทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวเราว่างนะเขาก็จะขอเราปั่นฟีเจอร์โน่นนี่นั่นเพิ่ม ผมรู้ ผมเจอมาเยอะ ถ้าไม่พยายามไฝว้ทำให้มันถูกต้องให้มันดีตั้งแต่วันนี้นะ อย่าหวังว่าจะได้กลับมาแก้หรอก”
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะนั่นเป็นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาจริงๆ
ผ่านไปจากวันนั้นประมาณเดือนกว่า ตอนนี้เรามี Sprint ที่นั่งจัดการ Tech debt อย่างเดียวกันแล้ว ไม่ต้องทำฟีเจอร์เลย แค่ทำให้โค้ดดีขึ้นอย่างเดียว
เอาจริงๆ ผมก็ผ่านโปรเจ๊กต์กับลูกค้ามาประมาณนึง และเข้าใจว่าที่คนๆ นั้นพูดก็เป็นอะไรที่มันเกิดขึ้นในหลายๆ ที่จริงๆ และหลายๆ ลูกค้าหรือฝั่งธุรกิจก็มีอารมณ์ประมาณนั้นจริงๆ
ดังนั้นผมจะไม่บอกว่ามันถูกหรือมันผิด
ใครจะไปรู้ล่ะในเมื่อตอนเริ่มโปรเจ๊กต์ผมก็การันตีให้ไม่ได้ว่าผมจะพาทุกคนมาจุดนี้ได้ แต่ผมกลับกัน จะมาการันตีว่าเราจะไม่มีทางได้มีเวลาแก้ Tech debt ตลอด ไม่มีใครรู้หรอกในเวลานั้น
แต่ผมจะบอกว่า
เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอประสบการณ์และความเป็นไปได้ใหม่บ้างครับ