Listening skill
นี่เป็นบทเรียนที่ผมได้รับจากการร่วมงานกับนักธุรกิจท่านหนึ่งที่ผมชื่นชม
เขาเป็นนักธุรกิจที่เปิดหลายธุรกิจ และค้าขายทั่วโลก
ดังนั้นจึงเป็นคนที่มีเวลาน้อย มีประชุมและวุ่นวายตลอดเวลา
แต่ทักษะการฟังของเขา ทำให้เวลาที่มีน้อยเป็นเวลาที่ผมรู้สึกได้ว่ามีคุณภาพอย่างยิ่ง
สิ่งหนึ่งที่ผมพบว่าเหมือนจะ Contrast ขัดแย้งแต่กลับลงตัวได้อย่างดี คือ มีเวลาน้อยที่มีคุณภาพ
ผมช่วงงาน ผมมีโอกาสเจอเขาประมาณ 1–2 สัปดาห์ต่อครั้ง
สิ่งหนึ่งที่เขาจัดการได้อย่างดีคือ
- เขามี Timebox ตลอด เวลาประชุม หรือแม้แต่ผมต้องการคำปรึกษาส่วนตัว เขาจะบอกล่วงหน้าว่า ผมได้ 30 นาที
- แต่ในเวลาประชุม เขาฟังได้ดีมากๆ สามารถโฟกัสได้ถึงขั้นถามกลับมาว่า ทำไมถึงใช้คำนี้ล่ะ หรือคำนี้แปลว่าอย่างนี้ใช่มั้ย รู้สึกสีหน้าเครียด กังวล มีอะไรหรือเปล่า เขาสามารถ Read between the line อย่างละเอียดเกือบเสมอทุกรอบ
ผมพบว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวแต่ต้องฝึกฝนเป็นอย่างมาก
คนส่วนมาก ถ้างานยุ่ง มักจะโฟกัสกับการฟังไม่ค่อยได้ มักจะฟังไปคิดเรื่องอื่นไปด้วย หรือเหม่อลอยไปด้วยฟังไปด้วย
บางคนแม้แต่งานไม่ยุ่ง ยังโฟกัสกับการฟังอย่างเต็มที่อย่างละเอียดที่เข้าใจ Between the line หรือสังเกต Body language ยากเลย
ทักษะในการแบ่งเวลาเป็นกรอบเล็กๆ กรอบละครึ่งถึงสองชั่วโมง แต่ในกรอบนั้นโฟกัสกับเรื่องที่ตั้งใจจะโฟกัสเต็มที่ เป็นทักษะที่หายาก
ผมคิดว่านี่เป็นทักษะที่ทำให้เขาสามารถบริหารธุรกิจข้ามชาติหลายๆ ธุรกิจได้พร้อมกัน ทักษะการจัดการเวลา และทักษะการฟัง Active listening ที่ทำให้แม้แต่เวลาที่มีน้อย ผมก็รู้สึกว่ามีคุณภาพ และตัดสินใจเฉียบคมที่สุดเท่าที่มีข้อมูลให้ในเวลาจำกัด
ผมเคยร่วมงานกับผู้บริหารหลายคน หลายคนตกหล่มว่าทำหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน แต่พอมาประชุมหรือมาคุยงานก็ตั้งสมาธิฟังไม่ได้ คิดอย่างอื่นในหัว
คนที่ฟังหรือมาเข้าประชุม พอเห็นว่าผู้บริหารไม่ตั้งใจฟัง โดยธรรมชาติ เขาก็จะไม่ตั้งใจพูดเช่นกัน
มันเป็นธรรมชาติของคน กลไกที่เกิดอัตโนมัติ
คนๆ นี้เป็นตัวอย่างให้ผมได้เห็นความสำคัญของทักษะการฟัง ผมโชคดีที่ได้เห็นจากมุมของคนทำงาน ว่าการมีหัวหน้าที่ตั้งใจฟังในเวลาสั้นๆ ที่มีให้ไม่กี่นาทีต่อสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ มันรู้สึก Motivated รู้สึกชื่นใจและมีพลังกลับไปลุยอุปสรรค มากกว่าการมีหัวหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ทุกวัน แต่ไม่เคยตั้งใจฟังเราเลย
ผมได้สัมผัสว่ามันมีพลังขนาดไหนด้วยตัวเอง ผมได้สัมผัสว่ามันมีผลต่อคนร่วมงานอย่างไรบ้าง ผมได้โอกาสเปรียบเทียบความแตกต่างกับการร่วมงานกับคนอื่น เห็น Contrast เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน จนเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างยิ่ง
เมื่อต้องบริหารคนอื่น ผมจะจำบทเรียนนี้ไว้ใช้ต่อ
ผมรู้สึกขอบคุณและโชคดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเขา