On sharing lesson learned

Chris
Chris’ Dialogue
Published in
Dec 10, 2020

วันนี้ผมได้ Reflect กับตัวเองด้วยคำถามที่สำคัญ

“เอ๊ะ ที่เราชอบ Share lesson learned เนี่ย มันได้ผลขนาดไหนนะ”

ผมลองมานึกๆ ดูนะ ว่าเวลาที่ผมรีบๆ ทำ Project บางอย่าง ผมจะรู้สึกรำคาญมากๆ กับใครก็ตามที่มาบอกว่า Don’t do this, Don’t do that

ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีประโยชน์ก็ตามที

ในเวลาที่ผมรีบ ผมอยากได้อะไรที่มันช่วยให้ผมทำงานเสร็จเร็วๆ มากกว่า

อย่างเช่น Security เวลาที่ผมรีบ ผมไม่อยากได้คนมาบอกว่า อย่าเขียนโค้ดแบบนี้สิมัน Insecure นะ อย่าทำแบบนั้นสิเดี๋ยวโดนเจาะระบบนะ

เสียงในหัวผมมันบอกว่า “รำคาญ” และ “It’s not helping”

แต่ผมจะชอบมากถ้ามี Framework มาให้แล้วบอกว่า โอเค ใช้อันนี้นะแล้วไม่ต้องกังวลเรื่อง Security อะไรเลย หรือบอกว่า ใช้อันนี้นะ แล้ว Query ทุกตัวจะเร็วไม่ต้องคิดมากแล้ว

ผมจะรู้สึกว่า This is very helpful

แต่ตรงข้าม เวลาที่ผมไม่รีบ กำลังสบายๆ ผมกลับชอบบทความพวกนี้มากๆ เลยนะ

ผมรู้สึกว่าเวลามีใครมาแชร์ว่าอย่าทำยังงั้นยังงี้ แล้วผมสบายใจพอที่จะอ่านอยู่ ไม่รีบร้อน มันมีประโยชน์มาก

และในทางตรงข้าม ในเวลาที่ผมสบายใจ ผมจะรู้สึกว่าการให้ Framework มาเลยแล้วบอกว่าใช้ยังงี้พอไม่ต้องถามไม่ต้องรู้หรอกว่าทำงานยังไง มัน “น่าเบื่อ” และ “ตื้นเขิน” เสียเหลือเกิน

อยาก Security เงี้ย เวลาผมสบายๆ ผมจะชอบให้เขามาบอกว่าอย่าทำแบบนั้นเพราะอะไร อย่าทำแบบนี้เพราะอะไร แล้วลงลึกเลยว่าสาเหตุจริงๆ มาจากไหน มากกว่าส่ง Tool ให้ตัวนึงแล้วบอกว่า “รันๆ ไปเหอะ เดี๋ยวก็รู้”

ก็แปลกดีนะ แต่ก็เป็นเรื่องจริง

การตกผลึกนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า

  1. ถ้าอยากจะแชร์ประสบการณ์ Lesson learn หรือแชร์ว่าอย่าทำแบบนั้นแบบนี้ ไปใส่ให้คนที่รีบๆ โอกาสเปิดรับจะน้อยมาก (ผมคิดว่าตรงนี้มีประโยชน์มากสำหรับคนทำโจทย์ Security awareness) ให้เลือกแชร์คนที่เขาสบายๆ อยู่
  2. แต่ถ้าเป็นห่วงจริงๆ กับคนที่รีบๆ หาทางช่วยให้เขาทำงานเสร็จเร็วขึ้นดีกว่า แล้วค่อยสอนตอนไม่รีบ
  3. ทีมที่ Operate ใน Urgency mode ตลอดเวลา จะรับบทเรียนได้น้อยมาก การทำให้เกิด Learning team ต้องพาทีมออกจาก Urgency mode เป็นระยะๆ

--

--

Chris
Chris’ Dialogue

I am a product builder who specializes in programming. Strongly believe in humanist.