Self-awareness กับการบริหารคน

ถ้าคุณบริหารทีมโดยมีแนวคิดว่า ทุกคนฉลาดและโตเป็นผู้ใหญ่หมด

คุณไม่มีขั้นตอนมากมาย มีเท่าที่ต้องมี ให้อิสระเยอะ

คุณให้อำนาจการตัดสินใจมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เวลาไม่แน่ใจให้เยอะๆ ไว้ก่อน

คุณเสี่ยงกับการโดนโกง โดนเอาเปรียบ

ถ้าคุณบริหารทีมโดยมีแนวคิดว่า ทุกคนโกงและเอาเปรียบเราได้

คุณสร้างระบบที่ตรวจเช็คอย่างละเอียด ทุกอย่างต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อนหลายขั้น คอยตรวจสอบกันและกัน ถ้ามีใครทำอะไรคุณรู้เสมอ

คุณให้อำนาจการตัดสินใจให้น้อยที่สุด ไม่แน่ใจให้น้อยๆ ไว้ก่อน จนเห็นชัดเจนแล้วค่อยให้เพิ่ม

คุณเสี่ยงกับการที่จะเสียคนเก่งที่ต้องการพื้นที่สร้างผลงานไป

นายเอ เชื่อใน Minimal process

นายบี เชื่อในระบบตรวจสอบเยอะๆ

นายเอเสนอแนวทางของเขา

นายบีถามว่า ถ้าลูกทีมทำผิดคุณทำไง ถ้าคนโกงคุณคุณทำไง

นายเอตอบง่ายๆ ว่าก็ตามเป็นระยะๆ พลาดจริงๆ ก็แก้ไข

นายบีเสนอแนวทางของเขา

นายเอถามว่า เยอะขนาดนี้ คนเก่งๆ ไม่ทำงานกับคุณหรือลาออกทำยังไง

นายบีตอบง่ายๆ ว่า ก็หาใหม่

นายเอ เจ็บปวดมากเวลาเห็นลูกทีมเก่งๆ ไม่พอใจระบบและลาออกจากบริษัท รู้สึกเสียดายมากๆ เวลาคนที่ตัวเองตั้งความหวัง ไม่ได้โอกาสแสดงความสามารถ

นายบี เจ็บปวดมากเวลาโดนเอาเปรียบ รู้สึกโมโหโทโส เวลาคนเอาเปรียบ คนทำผิดพลาด

นายเอ เฉยๆ กับเรื่องหลัง คิดว่ามันธรรมดา ทำการใหญ่ จะมาหยุมหยิมได้ยังไง มีอะไรแบบนี้ก็แก้กันไป

นายบี เฉยๆ กับเรื่องแรก คิดว่ามันไม่เห็นแปลกตรงไหน คนมีเยอะแยะ หาใหม่ได้

ถ้านายบี พยายามบริหารแบบนายเอ

ความเจ็บปวดจากการโดนตอดเล็กตอดน้อย จะกัดกินใจนายบี จนทำให้ไม่เป็นอันทำงาน

ถ้านายเอ พยายามบริหารแบบนายบี

ความเจ็บปวดจากการเห็นคนที่ไม่ได้ใช้ศักยภาพตัวเอง จะกัดกินใจนายเอ จนไม่ได้ทำงาน

นายเอเข้าใจจุดนี้ เข้าใจว่าตัวเองรับได้กับเรื่องอะไร รับไม่ได้กับเรื่องอะไร จึงเลือกแนวทางนั้น

นายบีเข้าใจจุดนี้ เข้าใจว่าตัวเองรับได้กับเรื่องอะไร รับไม่ได้กับเรื่องอะไร จึงเลือกแนวทางนี้

เมื่อเราจะเลือกวิถีและแนวทางบริหารที่เราจะใช้

เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราชอบอะไร และรับไม่ได้กับอะไรครับ