Tales of business agility
มีชาวนากับฤาษีหนึ่ง
“ท่านผู้รู้ฤาษี ข้าอยากเคลื่อนไหวข้ามลำธารนี้อย่างคล่องตัว ข้าต้องทำอย่างไร”
“ท่านเห็นหินก้อนใหญ่ในกระเป๋าสะพายหลังของท่านหรือไม่”
“ข้าเห็น”
“หินก้อนนั้นมีน้ำหนักมากมาย มันทำให้ท่านเคลื่อนไหวไม่ถนัด ท่านเอามันออกจากกระเป๋า วางไว้กับพื้น แล้วเดินต่อได้ ท่านจะเดินอย่างคล่องตัว”
“แต่กระผมทิ้งหินก้อนนี้มิได้”
“เพราะเหตุใด ท่านถึงทิ้งไม่ได้”
“ข้าเคยถูกสอนมาเมื่อ 5 ปีก่อน ว่าหินก้อนนี้จำเป็นต้องมี”
“ท่านลองไปถามผู้สอนของท่านว่าทำไมถึงต้องมี”
เขาเดินกลับไปถามอาจารย์ของเขาที่หมู่บ้าน
“อาจารย์ ทำไมเราถึงต้องแบกหินก้อนนี้ข้ามลำธาร”
“ลำธารนี้มันมีกระแสน้ำเชี่ยวมาก หากศิษย์ไม่มีหินแล้ว ศิษย์มิสามารถเดินข้ามลำธารสายนี้โดยปลอดภัย หินใหญ่นี้จักปกป้องท่านจากกระแสน้ำ เป็นน้ำหนักให้ท่านเดินไปได้”
เขากลับมาหาฤาษีอีกครั้ง
“ข้าเข้าใจแล้วว่าหินก้อนนี้มีไว้ถ่วงให้เดินผ่านกระแสน้ำอย่างมั่นคง”
“แล้วท่านเห็นว่าในเวลานี้มีกระแสน้ำหรือไม่”
“ไม่มี แต่มันเคยมีเมื่อ 5 ปีก่อนนะ ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีอีกหรือเปล่า ผมควรเผื่อหินไว้ในเป้หรือไม่”
“ท่านจะเลือกทิ้งหินนี้ไปแล้วเดินอย่างคล่องตัวบนความเสี่ยงที่อาจจะเจอกระแสน้ำเชี่ยวที่ไม่เคยเกิดเลยตลอด 5 ปีแล้วโดนพัด หรือท่านจะแบกหินที่อาจจะไม่ได้ใช้ใส่เป้ท่านต่อไป ก็คือทางเลือกของท่าน”
“ข้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจบอกท่านได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ผู้มีอำนาจไม่มีจริง มีแต่ผลลัพธ์เท่านั้น”
“เมื่อท่านต้องการความคล่องตัว ท่านจงพึงเข้าใจเช่นกันว่าของแต่ละชิ้นในเป้ ทำไมอาจารย์ถึงแนะนำท่านให้แบกติดตัวมา ท่านพิจารณาบริบทปัจจุบัน ท่านจักตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก หรือเปลี่ยนเป็นเครื่องมือใหม่ที่น้ำหนักเบาขึ้น”
“ท่านจงทำมันด้วยความเคารพในความหวังดีของอาจารย์เก่าท่าน อาจารย์เก่าท่านผ่านประสบการณ์ร้อนหนาว ผ่านเหตุการณ์มามากมาย บางอย่างเป็นแผลใจ เป็นปมเจ็บปวด จึงเกิดเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่อาจารย์ของท่านกำชับว่าขาดไม่ได้
“และท่านอันเป็นผู้ไม่มีปมเหล่านั้น จึงจักเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถขอบคุณในความเมตตาของอาจารย์ และเยียวยาปมนั้นของอาจารย์ท่านโดยการไม่ส่งต่ออุปกรณ์เหล่านั้นไปอีก”
“และเมื่อท่านเหลืออุปกรณ์ของที่จำเป็นในเป้ ท่านจะพบความสุขแห่งความคล่องตัว”
เขียนแด่งาน Business Agility 2019