จากนักเทคนิคการแพทย์ สู่ Data Analyst ที่ TILDI
มาเริ่มกันที่แนะนำตัว
ผมชื่อมินนะครับ เคยเป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็น Data Analyst ทีม TILDI
นักเทคนิคการแพทย์คือ?
“นักเทคนิคการแพทย์ หรือ หมอแล็บ” หลายคนอาจเคยได้ยินอาชีพผ่านหูกันมาบ้างในช่วง COVID-19 คือบุคลากรทางการแพทย์ ที่ตรวจวิเคราะห์สารคัดหลั่งจากผู้ป่วยในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์(โรงพยาบาล) ใช้ในการวินิจฉัย ติดตาม เฝ้าระวัง ช่วยแพทย์ในการรักษาคนไข้
จุดเชื่อมโยงกับ Data Analyst
จากข้อความข้างต้น อาจจะค่อนข้างห่างไกลจากงานสาย Data พอสมควร งั้นก่อนอื่น ผมจะขอเล่าถึงจุดที่เชื่อมโยงกันก่อนนะครับ ว่าในความเป็น นักเทคนิคการแพทย์ มีการใช้ข้อมูลส่วนไหนในการพัฒนางานบริการบ้าง
ปัญหา
ถ้าลองให้นึกถึงปัญหาซักสอง — สาม ข้อที่มักเจอเวลาไปใช้บริการที่โรงพยาบาล จะนึกถึงเรื่องอะไรกัน? เชื่อว่าปัญหาเรื่อง “รอรับบริการนาน” เป็นปัญหาหลักที่ทุกคนเคยเจอมากับตัวเองไม่มากก็น้อย
ห้องปฏิบัติการเองก็มีส่วนที่ทำให้เกิดความล่าช้า ถ้าสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ ก็จะทำให้ระยะเวลารอคอยของคนไข้ลดลงได้ รวมไปถึงระดับความพึงพอใจของคนไข้จะมากขึ้นนั่นเอง
Data จึงมีบทบาทสำคัญในการหาสาเหตุของปัญหา…
จุดเปลี่ยนที่ทำให้สนใจงานด้าน Data Analyst
ผมน่าจะเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่างานที่ทำไม่ค่อยตอบโจทย์ ว่าแต่โจทย์ที่ว่าคืออะไรนะ? บางทีเราอยากทำงานที่ท้าทาย เจอโจทย์ใหม่ๆ เพราะฉะนั้น งานโรงพยาบาล อาจไม่ค่อยตรงกับจุดนี้เท่าไหร่ อีกประเด็นที่มองว่าเป็นปัญหา เป็นเรื่องการอยู่เวรของอาชีพสายการแพทย์ ใช้คำว่าค่อนข้างหนักในทุกวิชาชีพเลย จึงหาช่วงเวลาว่างเริ่มลองศึกษาทักษะเพิ่มเติมที่สนใจ
Tech Level Up Career Day 2022
จนได้มาเจอกับกิจกรรม Tech Level Up Career Day 2022: Data Day ทำให้เรามองเห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่าเราสนใจงานสาย Data จริงๆ จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้ทักษะ และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนได้มาร่วมงานกับทีม TILDI [CJ Express] นั่นเอง
ทักษะและช่องทางการเรียนรู้ที่แนะนำ
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน Core skills และ Soft Skills
Core Skills
- Spreadsheets
- SQL
- BI tools เช่น Tableau, Power BI, Looker studio
- Basic Programming
- Basic Data engineering
Soft Skills
- Presentation & Communication skills
- Learning skill: Learning how to learn
- Presentation Design
- Business Domain Knowledge
How to Learn?
มีหลากหลาย platform ที่ใช้ในการเรียนรู้ เช่น DataCamp, Udemy, Skooldio, Coursera โดยเริ่มเรียนทีละส่วน นำทักษะที่เรียนรู้มาฝึกฝนบ้าง จากข้อมูลของงานปัจจุบันที่เรามี
การเขียน SQL ในการดึงข้อมูลที่ต้องการมาใช้งาน รวมถึงการสร้าง Dashboard เพื่อใช้ในการติดตามการทำงาน อีกส่วนก็มีการนำความรู้และทักษะที่เรียนมา ลองทำโจทย์จาก Kaggle เพื่อเพิ่มเติมมุมมองที่นอกเหนือจากงานของเรา
รูปแบบงานจากโรงพยาบาล สู่ Data Analyst
Project vs Routine
การทำงานที่เป็นโปรเจคต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับรูปแบบงานของโรงพยาบาล ทั้งในแง่การวางแผนงาน ออกแบบตารางงานเอง ลำดับขั้นตอนต่างๆ จนโปรเจคนั้นๆแล้วเสร็จ
Basic Domain Knowledge
ความรู้พื้นฐานที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม จากสายการแพทย์พลิกมาเป็นสายธุรกิจ ช่วงแรกๆ ต้องยอมรับเลยว่าค่อนข้างกดดัน แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาบ้าง ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมเลย
หลักสำคัญในการทำงาน
ต้องพัฒนาอยู่เสมอ จริงๆตอนแรกผมเองอยากเขียนว่าทุกวันเหมือนกันนะ แต่ว่าพอลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง มันคงค่อนข้างกดดันเกินไปหน่อย แค่เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ก็ดีมากพอแล้ว
Learning Mindset
สุดท้ายนี้เลยว่าจะขอแชร์เทคนิคที่ดีมาก อันนึงที่ทำให้อยากที่จะเรียนรู้ และพัฒนาอยู่ตลอด (ขโมยมาจากพี่มิลส์ DE TILDI ของเรานั่นเอง) คือการจดลงในปฏิทินว่า วันนี้เราเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง ถึงจะไม่ได้จดลงในปฏิทินทุกวัน แต่ก็เป็นการช่วยให้เรามองเห็นว่า เก่งขึ้นกว่าตัวเองในเมื่อวานยังไงบ้าง แค่มีทัศนคตินี้รับรองเลยว่ามีแรงใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดแน่เลย
ติดตามบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Data Analyst ได้ ที่นี่