i.poppoNow();
CoffyStudio
Published in
2 min readFeb 16, 2019

--

ปิด Service ที่ไม่จำเป็นบน Windows 10

ฉบับช่างคอมบ้านๆ

เชื่อเลยว่าสมัยนี้จะซื้อคอมสักเครื่อง หรือลง Windows ใหม่สักทีเนี่ย windows 10 นี่น่าจะเป็น Default ไปแล้วว่าต้องเป็น Windows นี้เท่านั้น เพราะ Microsoft เองก็เพิ่งจะออกมาประกาศว่าปีนี้ (2019) จะเป็นปีสุดท้ายที่เขาจะ Support Windows 7ซึ่งเป็น End of Support พอดี หลายๆ บริษัท หรือ หลายๆ องค์กรอาจจะลง หรือ Upgrade ไปหลายเครื่องแล้วล่ะ

แต่ว่า … Windows 10 มันไม่ได้ดีเร็วแรงซะขนาดนั้นหน่ะสิ

สืบเนื่องมาจากหลายๆ เคสที่ผมเคยเจอจากเครื่อง Desktop ของ User ที่ใช้งานกันอยู่สเปคมันไม่ได้เร็วขนาดนั้น ถ้าว่ากันตรงๆ สมัยนี้ HDD ธรรมดาและ Ram แค่ 4 ไม่ได้เพียงพอต่อการใช้งานเท่าไหร่ แล้วเมื่อมาลองไล่อาการดูคิดว่าสาเหตุนี่น่าจะมาจาก Service ของเครื่องที่เปิดอยู่ แต่ User ไม่ได้ใช้เลย ซึ่งไอทีอย่างเราๆ ก็ต้องศึกษาอะไรแบบนี้ไว้บ้าง …

Blog นี้ ตอนนี้ จึงมาแนะนำวิธีปิด Service แต่ละตัวที่เราไม้ได้ใช้แต่มีผลต่อการใช้งานเครื่องมากที่สุด ผมรวมมาให้แค่ 3 Service และ แถมอีก 1 ให้ละกัน

ซึ่งเจ้าที่อยู่ของ Service มันอยู่ใน Administrative tool ข้างใน Control Panel ครับ

  1. superfetch

ยกให้เป็นตัวแรกๆ เลยที่เข้ามาปิด หลายเจ้าหลายสำนักพูดเป็นเสียงเดียวกันไปเลยว่า ปิดเหอะ ถ้าไม่อยากให้คอมช้า โดยเฉพาะ Windows 10 ด้วยแล้ว งั้นถามต่อมันคืออะไร ?

มันคือ Service ที่เก็บโปรแกรมหรือส่วนต่างๆ ที่เราใช้งานบ่อยๆ เอาไว้ใน Ram เพื่อรอให้เรามาเปิด ซึ่งมันจะไปกั๊กพื้นที่ Ram เอาไว้ใช้งานกับ Service ตัวนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ Ram เราเต็ม หรือ เกิด Memory 100% ที่เราๆ เคยเห็นกันนั่นแหละ

2. Windows Search

สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะ search อะไรก็ปิดเถอะ เพราะ Service ตัวนี้มันจะเป็นตัวช่วยในการค้นหาไฟล์ หรือ E-mail ต่างๆ รวมถึงการค้นหาไฟล์ที่อยู่ในเครื่องของเรามันทำหมด ถามว่าถ้าปิดไปแล้วจะเป็นยังไง … มันแค่ไม่เก็บ index เอาไว้เอง

ตัวนี้ผมเคยทำเครื่องเอาไว้ แล้วบังเอิญว่าไม่ได้ปิด เป็นคอมตัวเองเนี่ยแหละ ใช้ๆ ไปมันผิดสังเกตที่ว่าทำไม Disk ขึ้น 100% จังเลย เลยลองมาเปิดดูปรากฏว่าไม่ได้ผิดเจ้าตัวนี้ไว้ ทีนี้เหมือนมันทำไม่ได้แค่ทำงานเวลาที่เราเรียกหาเฉยๆ ไง ทำยันหลังบ้านเลย คอมใครที่ไม่ใช่ SSD มีเสียวอ่ะ

3. printer spooler

ตัวนี้ถ้าต้องใช้ไม่ต้งปิดก็ได้จ้า

ตัวนี้จริงๆ Computer ประจำสำนักงานนี่ไม่ควรปิดแหละ ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่าตัวมันเองเป็น Service ของ Printer นะ ถ้าปิดมันเราอาจจะ Print ไม่ได้อะไรแบบนี้ แต่ดันเหมาะกันเครื่องที่ไม่ได้ใช้เครื่อง Print เลยต่างหาก เพราะบางที่มันก็เด้งขึ้นมาแย่งกิน Memory บนเครื่องเราซะดื้อๆ ก็มี ดังนั้นถ้าไม่ได้ใช้ก็ปิดเหอะ

4. Windows Update (แถม)

ไม่ควรปิดด้วยประการทั้งปวง(สำหรับเครื่องที่ได้ Update ตลอด) แท้จริงแล้วที่แนะนำแบบนี้คือเครื่องในบริษัทจะมีการ update โดย IT ของแต่ละที่อยู่แล้ว ถ้าเราไปปิดมันก็อาจจะทำให้การ update มันไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้แต่ใช่ว่าจะดี ( Service ตัวนี้ใช่ว่าจะปิดได้เสมอไปสำหรับบริษัทื่มี policy ป้องกันการเข้าถึง service โดย user ธรรมดาจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขอะไรตรงนี้ได้เลย ) ส่วนคอมบ้านๆ แบบเราๆ ที่อยากปิดมัน ถามว่าทำได้มั้ย ทำได้ครับ ส่วนใหญ่แล้วเวลามันมี Update ใหญ่ๆ มามันจะเปิดให้เอง (แล้วจะให้ปิดเพื่อออ ?) เออนันล่ะ ถามว่าช่วยอะไรได้บ้างมั้ย ระหว่างที่ Microsoft ไม่ได้มี update มามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่ก็ต้องแลกกับการที่คอมคุณเสี่ยงต่อการโดยแฮ็คหรือโดนเข้ารหัสเอาไว้โดยแฮ็กเกอร์ เวลาไปเข้าเว็บ หรือ ไปโหลดอะไรแปลกๆ มา (ถ้าใครได้ติดตามคงได้พอได้ยินข่าวการเรียกค่าไถ่ไฟล์ด้วยสกุลเงินดิจิตอลครับ)

เอาเท่านี้แหละ อธิบายเรื่องราวคร่าวๆ แล้วกัน สำหรับมือใหม่จะได้เข้าใจง่ายๆ ส่วนมือเก๋าคงไม่ต้องบอกอะไรมากเนอะ จริงๆ ยังมีอีกนะ แต่เอาหลักๆ เพียงเท่านี้ดีกว่า ถ้าใช้ Windows 10 แล้วไม่พอใจอยากจะอัพเครื่องก็ลองศึกษาเรื่อง SSD ดูครับ ผมว่ามันน่าสนใจมากเลยนะ ถ้างบไม่พอเอาตัวพื้นที่ 120 GB มาก็ได้ครับ เอามา Boots Windows พอ แล้วเอา HDD ลูกเก่าไว้เก็บข้อมูล

ติดตามตอนใหม่ๆ ได้ที่ https://medium.com/coffystudio หรือ https://medium.com/@poppofendo

--

--