เดือนแรกของปี 2018

Time line ต่างๆ ของปี

ภาพจากงานเลี้ยงบริษัท

เป็นประจำของผมอยู่แล้วที่จะมาวางแผนชีวิตตัวเองในแต่ละปีว่าปีนี้จะทำอะไร และต้องทำอะไรบ้าง เพียงแต่ไม่ได้มีการเอามาเขียนลงในบล็อคสักเท่าไหร่นัก อันที่จริง มันควรออกมาตั้งแต่หลังปีใหม่แล้วว่าผมจะทำอะไร …

ที่ต้องรอให้ถึงเดือนนึงคงเพราะปีที่แล้วเรามีเรื่องที่ต้องทำให้ได้เป็นเรื่องหลักๆ อยู่ คือเรียนให้จบ แล้วหางานทำให้ได้ก่อนรับปริญญา แล้วต้องทำให้ได้ตาม Timeline ที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งก็สำเร็จตามเป้าไปได้ด้วยดี แต่ … ในความสำเร็จตรงนั้นมันมีความผิดพลาดอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งผมมองข้ามมันไปจริงๆ เพราะเมื่อมีงานทำสิ่งที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่าย เรามีรายได้ และต้องมีรายจ่ายด้วย มันคือเรื่องการเงินที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้เลย

คือรับมาก็เก็บไว้ แล้วก็ใช้ไป ส่วนใหญ่มันหมดไปกับการกิน ค่าอาหารมากกว่า เรื่องอื่นๆ เลย เพราะแบบนี้ ปีนี้ผมจะเทความตั้งใจไปที่ “เงินเก็บ” มากกว่า “เงินใช้”

เงินเก็บ

จำเป็นต้องงัดแผนเด็ดมาใช้กับตัวเองแล้วล่ะ เพราะเริ่มมีหนี้แล้ว เริ่มไปไกลละ และต้องเริ่มซะตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวไปเลยว่า เราจะใช้จ่ายสิ่งที่ต้องจ่าย อะไรที่ยังไม่ถึงคราวต้องจ่ายก็ใช้ๆ ไปก่อน กินให้น้อยลงมากๆ เพราะจากที่ลองเอามาคำนวณดูแล้วเรื่องกินจะราวๆ สัก 45% ของเงินเดือนเลยนะ เยอะว่ะ

สุขภาพ

ผมคงไม่อยากเอาเงินที่เก็บมาไว้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลแน่ๆ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งป่วยมาถึงใช้สิทธิประกันสังคมของที่ทำงานได้แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เพราะถ้าป่วยบ่อยๆ มันแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมในหลายๆ ด้านอะ ทั้งงาน ทั้งชีวิตประจำวันที่ต้องออกไปทำอะไรอีก เพราะฉะนั้น ปีนี้จะกลับมาดูแลสุขตัวเองให้มากขึ้น

ลดความอ้วน

“ไอ้เหี้ยอ้วนนนนนนนนนน” จริงๆ 555 อ้วนที่สุดตั้งแต่เกิดมาแล้ว ตอนนี้เข้าใจคนวัยทำงานมากๆ ทำไมเขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวกันจัง คือมันไม่มีเวลาไปออกไง อย่างผมเลิกงานทุ่มนึง ถึงห้อง สองทุ่ม มันล้าไปหมดแล้วล่ะนาทีนั้น เป็นแบบนี้มาครึ่งปีแล้วน้ำหนักแบบ อย่างที่บอก มันเอาแต่กินมันเลยเยอะขึ้นแบบทวีคูณขึ้นไปอีก ตอนนี้ต้องมาลงโทษด้วยการ ออกกำลังกายซะมั่ง ถึงมันดูยากนะ แต่ว่าก็ควรทำ และ ต้องทำ ด้วยประการทั้งปวง

พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน

ไอทีไม่ได้มีงานแค่งานเดียว แต่มีแตกออกไปอีกเยอะมาก เราอาจจะไม่จะเอาทุกๆ อย่างหรอก แต่เราก็ต้องรู้พื้นฐานมันมาบ้าง แล้วก็ต้องต่อยอดไปทางที่ชอบด้วย อันนี้สำคัญ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็คิดนะ จะทำอะไรต่อ อยากเรียนต่อมั้ย อยากทำอะไร อยากไปสายไหน ไปทำงานประจำจะตอบโจทย์หรือเปล่า ทั้งหมดมันก็แค่ความคิดเท่านั้นนะ การได้ลงมือทำจริงๆ มันสำคัญกว่าทั้งหมดทั้งปวงอีก งานสาย support จริงๆ ก็สอนผมเยอะเหมือนกัน ถึงจะแต่เริ่มต้นก็เถอะแต่การได้เรียนรู้ปัญหาหน้างานนี่สอนอะไรหลายๆ อย่างเลยจริงๆ ใช้เวลาปรับตัวนานเหมือนกัน ซึ่งนานเกินไปด้วยซ้ำ เลยคิดว่าอีก 11 เดือนนี้ควรพัฒนาตัวเองจริงๆ จังๆ ได้แล้ว

2018 ตอนนี้เป็นปีที่ต้องโตขึ้นทั้งความคิด และ ก็หลายๆ อย่าง แต่มันต้องไม่ตึงไป ยังอยากคงความสนุกในการทำงานเอาไว้อยู่ ยังคงกินเที่ยว เหมือนเดิม แต่อยู่ในโหมดที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ด้วย อยากมีเงินเก็บควรมีสติให้มากกว่านี้ ข้อเสียของผมที่รุนแรงที่สุดคือไม่ชอบดูว่าเงินสดในกระเป๋าเหลือเท่าไหร่ เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน เป็นแบบนี้มานานมากๆ แล้วล่ะ ใช้แบบเหมือนยังมีเหลืออยู่ แต่ความจริงคือจะหมดแล้วนะ ยังไม่ไปกดมาอีก แล้วพอรู้ตัวอีกทีก็ไปซะแล้ว และมันต่อเนื่องมากๆ พอนานวันเข้ามันจะหมดแบบไม่รู้ตัว ถึงจะมีเก็บบ้างก็นะ เป้าหมายปีนี้ส่วนนึงจะมาจากข้อผิดพลาดที่มาจากปีที่แล้วด้วย เพราะมีแผนชัดเจนทุกเรื่อง แต่ไม่วางแผนเรื่องเงินเลย (จริงๆ มีนะ แต่เอาเข้าจริงทำไม่ได้ เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาพร้อมกันตลอด) ปีนี้เลยคิดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่าง เหตุผลไม่น่าเอามาเป็นข้ออ้างเลยจริงๆ

และก็เหมือนเดิม จบบล็อคนี้เอาไว้แค่นี้ เจอกันอีกทีปลายปี 2018 นะครับ บรั๊ยส์