i.poppoNow();
CoffyStudio
Published in
4 min readDec 30, 2016

--

6 เรื่องดีๆ และ 6 เรื่องยอดแย่ ที่ลืมไม่ลงในปี 2016 ( ภาคต่อ )

ว่าไปแล้วเหมือนมาทำ Blog บ่นๆ เลยเนอะ … แต่ช่างมันเถอะครับ เอาเป็นว่าทำเอาไว้อ่านปีหน้าครับ 555 ก็เวลาที่เราจะข้ามปีกัน หรือมีเรื่องราวสำคัญๆ ก็ชอบโพสลง Face Book กัน เดี๋ยวนี้มันมี Function on this day ด้วยแล้ว พอถึงวันนี้ของปีที่แล้วก็จะ บอกว่าเราเคยโพสแบบนี้ด้วยนะ อะไรทำนองนี้จ่ะ

เนื่องจากเมื่อดึกๆ ก็มีคนถามมาว่ารูปไปเอามาจากไหน บอกก่อนว่าเป็นรูปที่ถ่ายเอง 555 เออไม่คิดว่า จะต้องเอารูปที่ถ่ายฝึกเอาไว้ มาเป็นรูปบน Blog เนอะโอเค นอกเรื่องมาเยอะ เรามาเข้าเรื่องดีกว่า

6 เรื่องดีๆ ประจำปี 2016

  1. ประสบการณ์

เอ่อ … พิมพ์หัวข้อสั้นๆ นี่มันจะกำกวมแล้วก็กว้างไปมั้ง แต่บอกไม่ถูกอะ ถ้าบอกตรงๆ ตั้งแต่ต้นปีมานี่ เรื่องหัวร้อนๆ นี่เยอะนะ แต่ละเรื่องยอมรับเลยว่า เป็นประสบการณ์จริงๆ ที่ได้มาอาจจะไม่ตั้งใจ หรือ เราเองก็ตั้งใจก็มีเยอะ จากเรื่องที่แล้วที่ผมเขียน เอิ่ม …

ถ้ายกตัวอย่างจริงๆ เรื่องอาชีพที่ผมเข้าไปทำนี่ ไม่ได้มีคนมาบังคับหรอก พูดกันตรงๆ ก็อยากทำงานหาเงินอะเนอะ รายจ่ายก็มี ของอยากได้ก็มี เลยลองเข้าไปทำดู ก็ไม่ได้แย่อะไร ยอมรับด้วย ไปโง่ๆ ไม่มีข้อมูล 5555 คือ ตอนเราเข้าไปทำก็มีคนโทรมาอะแหละ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรก่อนอยู่แล้ว ถ้าทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่แล้วแต่เล่า ก็ไม่ได้ทำ เพราะผมเองที่ต้องการหยุดไว้เท่านั้นแหละ

ผมกลายเป็นคนที่ถ่ายรูปสวยขึ้นมาทันตา ?

เพื่อนผมเองหลายๆ คนก็ทักมาแบบนั้น เรื่องนี้ก็นับเป็นสิ่งที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบันนะ ตอนนี้ยอมรับว่า การที่จะถ่ายรูป ลงรูป ของผมมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ คือเมื่อก่อนมัน เป็นแค่การถ่ายรูป แต่งรูปขำๆ ในมือถือเรานี่แหละ แล้วลงในไอจี ก็ทำนองนั้นนะ เป็นแค่คนที่ชอบถ่ายรูปเล่นๆ เฉยๆ แต่ตอนนี้ ผมคิดไปไกลกว่านั้นมากกก คิดตั้งแต่เรื่องแสง ค่า F ค่า IOS เรื่องอื่นๆ โฟกัส ตัวแบบ โลเคชั่น เยอะมากจริงๆ 555 ก็เป็นการหาความรู้เองทั้งหมดครับ ตั้งแต่กลางปี จนถึงตอนนี้ มานั่งดูรูปเก่าๆ กับตอนนี้นี่ต่างกันมากๆ เอาไว้เดี๋ยวจะ รีวิวนอกรอบกันอีกทีเนอะ

ประสบการณ์อีกด้านคงเป็นเรื่องดนตรีนี่แหละ ( ไม่รู้จะเขียนอะไร … )

ก็คือจากปีที่แล้วผมมี Side Project อยู่วงนึงซึ่งมันเป็นวงที่ผมเล่นอยู่ ณ ตอนนั้นกับ วงเก่าผมเอง ซึ่งเอาสมาชิกมาผสมกัน จนได้เป็นวง The Echo รวมตัวเพื่อประกวดดนตรีของค่าย BEC Music ซึ่งงงงงง ก็หายไปเป็นปี นานมากจริงๆ ของวงนี้ที่ 1 ปีเราไม่ได้ซ้อมวงกันเลย ถามว่ามีอะไรประทับใจ คำตอบคงหนีไม่พ้นเรื่อง สมาชิกที่ลงตัวแล้วสำหรับผมมั้ง 3 คนเป็นรูมเมท มาจากวงใหม่ น้องชายอีก 1 คนเป็นน้องจากวงเก่า ซึ่งความสนิทมันมีอยู่แล้ว เวลาฟอร์มวงกันเลยเร็วมาก นับจากปีที่แล้วมาถึงปีนี้ ตอนนั้นเป็นตอนที่เพิ่งเลิกกะแฟน คือตอนนั้นอารมณ์จะทำอะไรก็ไม่ค่อยจะมีหรอก อย่างที่หลายๆ คนก็เห็นแหละที่เห็นในเฟสตอนนั้นหน่ะ เพ้อเจ้อมากกกกกก จนมีประกวดอีกรอบแต่คราวนี้เป็นของค่ายสนามหลวง โดยเอาเพลงของ lomosonic ส่งประกวด ก็เลยเป็นทริปสระบุรี ขึ้นมา คือเหมือนเป็นการ รีเฟรชตัวเองด้วยแหละ มีพลังขึ้นมาเยอะเลย จากที่เก็บตัวเงียบๆ ตอนนี้เราดีขึ้นเยอะ

อีกเรื่องคงเป็นมุมมองที่ต่างออกไปของผมเอง การที่ลองได้มาเป็นตัวแทนประกันชีวิตเนอะ ก็ไม่แย่นะ ถ้ามองในแง่ดีจริงๆ มีประโยชน์มาก เข้ามาทำ เข้ามาเรียนรู้เอง จนอยากได้เป็นของตัวเองจริงๆ แต่ในตอนที่แล้วผมเขียนออกไปว่า “ผมไม่อยากจะคาดหวังจากคนที่เข้ามารู้จักผมว่าต้องมาเป็นลูกค้าของผม” อันนี้คือเรื่องจริงแหละ ยิ่งทำก็ยิ่งไม่ใช่ ผมอยากรู้จักกับคนที่เข้ามารู้จักผมแบบไม่มีอะไรมากกว่า มันดูโอเคกว่า เพราะผมเองก็ออกจากสังคมเดิมๆ มามากจริงๆ นะ เหมือนมารู้ตัวเมื่อเราเองก็ตอนที่ได้หยุดงานนี้ลงเพื่อทำโปรเจคจบของผมเอง แต่ก่อนหน้ามีเรื่องต้องหยุดงานเฝ้าบ้าน 1 อาทิตย์เลย เพราะแม่ไป ตจว ตอนนั้นออกไปเดินเล่น ไปเที่ยวคนเดียวนะ ก็ได้เจอพี่คนนึง ท่าทางมีอายุ พี่เขามาถ่ายรูปเหมือนกัน ก็เลยได้คุยกัน ตอนนั้นคิดอะไรไปเรื่อย แต่มันไม่ได้มีโมเม้นที่เราต้องมาคิดเรื่องงานแล้ว ก็สบายใจขึ้นหน่อยนึง เป็นไปตามที่อยากเป็นคือ อยากเป็นตัวเอง ธรรมชาติของผมเป็นคนพูดมาก แต่ถ้ารวมๆ เป็นคนชอบอยู่เงียบๆ เฉยๆ คิดอะไรคนเดียวมากกว่าออกไปเจอลูกค้าอะไรแบบนั้น เพราะงั้นเลยไม่ตอบโจทย์จ้าาา

ถามว่าอะไรกันที่ใช่

ตอบว่า ตอนนี้คงหนีไม่พ้น งานในสายงานที่เราเรียนมาหน่ะแหละ ก็เคยได้บอกไปแล้วว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ คงไม่นานเกินนี้หรอก แต่อาจจะมีข้ามสายไปทางถ่ายภาพบ้างนะ ชอบเหมือนกันๆ

เอาเป็นว่า 2016 เป็นปีที่ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลย เรื่องประสบการณ์ มันได้เพิ่มพูนความสามารถขึ้นในระดับนึงเลยแหละ ชอบตรงได้รู้จักเพื่อนๆ ในสายตัวเอง ซึ่งอยากรู้จักเพื่อนสายนี้มานานมาก เพราะเพื่อนๆ รอบๆ ตัวส่วนใหญ่จะ เรียนคนละสายมากกว่าครับ แต่ไม่ใช่เพื่อนเก่าไม่ดีนะ ผมแค่อยากได้แลกเปลี่ยนความรู้บ้าง อยากลองทำในสิ่งที่แปลกออกไปบ้าง ถือว่าไม่ได้แย่ครับ แค่เราเพิ่งเริ่มเท่านั้นเอง

2. Coffee

มันดียังไง 555 คือเป็นอีกปีที่ผมมมม รู้ตัวว่าเราเริ่มติดกาแฟแล้วแหละ ย้อนไปตอนฝึกงานนะ ตอนเป็นเด็กฝึกงาน ในบริษัทรับทำเว็บที่หนึ่งใน KPN พระราม 9 ตอนั้นผมรู้สึกว่าการที่เข้างาน 9 โมง แล้วเลิกงาน 6 โมงเย็น ช่วงบ่ายจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับผมมากๆ มันทั้งง่วงทั้งหน่วง คิดอะไรไม่ออก พี่ๆ ที่ทำงานพาไปร้านน้ำร้านนึง เอาเป็นว่า จริงๆ ก็เป็นร้านน้ำปั่นธรรมดาๆ นี่แหละครับ ไม่ได้มีอะไรเลย อีกอย่าง คือผมเองอะ แค่อยากได้อะไรแก้ง่วง ไม่ได้โฟกัสไปที่กาแฟเลยนะ อืมมม … ทำไมติด ? ก็คิดอยู่นะ แรกๆ ผมไม่ชอบกาแฟเพราะ ผมดันไปสั่งเอสเย็นปั่น ซึ่งการสั่งการแฟปั่นหน่ะ มันเสียรสชาติเอามากๆ แทนที่จะได้เสพรสชาติของมันแบบฟินๆ นะ ต้องมานั่งดูดฟองอีก ไม่มีความน่าหลงไหลเลย จนเปลี่ยนไปกินน้ำปั่นธรรมดา หลงอยู่นาน จนกลับมาก็เริ่มมาสั่งกาแฟธรรมดาๆ นี่แหละ กว่าจะรู้ตัวว่าติดก็ปาเข้าไปจะฝึกงานเสร็จละ ว๊าาาา~

ตอนนี้ก็ติดกาแฟเอามากๆ เยี่ยมไปเล้ยยยยยยยย ~

คิดงานไม่ออกส่วนใหญ่จะยกคอมไปนั่งร้านกาแฟนะ ชอบบรรยากาศอะไรแบบนั้น ไปนั่งเงียบๆ คิดงาน ลองให้เราสงบๆ บ้าง คือแถวบ้านเสียงเด็ก ดังมากเกินกว่าที่คนไม่ชอบเด็กแบบผมจะรับไหว ( ส่วนตัวจะเฉยๆ และมีระดับอยู่ว่า ทนได้แค่ไหน ) เวลาที่เกินจะทนจริงๆ จะออกไปข้างนอกเลย ไม่ค่อยทน เพราะมันทำให้เราคิดอะไรไม่ค่อยออก ( เด็กๆ แถวนี้แสบมาก ว่าเด็กไม่ดีไม่ได้จริงๆ ผมแอบรำคาญคนเลี้ยงมากกว่า )

3. สุขภาพ

เป็นปีที่ผมออกกำลังกายเองตั้งต้นปี ผมเริ่มออกวิ่งตั้งแต่วันละ 5 รอบสนามกีฬา 6 รอบ 7 รอบขึ้นไป จนได้ระยะที่พอใจบ้างแล้ว ถึงแม้ว่า จะมีป่วยในบางช่วงบ้าง แต่พอได้กลับมาเริ่มออกกำลังกายใหม่ ของเก่าที่เคยได้วิ่งไปก็ยังไม่หาย ได้รอบ ตามที่เราต้องการเหมือนเดิมเลย นับเป็นเรื่องที่น่าพอใจเหมือนกันจ่ะ ~

ลืมอัพเดทไป ถ้าเรื่องของการป่วยในระหว่างที่เราหายไป ไม่ได้ออกกำลังกายก็เป็นเรื่องธรรมดานะ แต่ป่วยในเวลาที่เราออกกำลังกายก็มีครับ สมัยเป็นนักบาสคณะ เคยมีอาการเจ็บเข่านี่ ตอนนี้ก็กลับมาเป็นอีกแบบ ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ว่าจะเป็นอีกอะ แต่สุขภาพโดยรวมแล้ว จัดว่าโอเคจ่ะ สบายใจ ~

4. กล้อง

มาหัดเป็นช่างภาพกันเถ้อะ ~

นั่นล่ะ … อย่างที่เราได้บอกไปว่า ได้เริ่มถ่ายรูปแบบจริงๆ จังๆ แล้วไง แต่ก็ไม่รู้สิ มันไม่ใช่แค่งานอดิเรกนะ รู้สึกมานานมากแล้วว่าอยากได้กล้องโปร เอ่อ งานนี้ขอบคุณพี่มน มากๆ ที่เอื้ออำนวยเรื่องกล้องมาให้น้องได้ลองเป็นช่างภาพฝึกหัด ดูบ้างเนอะ ช่วงแรกเรามีอะไรน่าสนใจถ่ายหมด เป็นช่วงที่ยังไม่อยากลองแต่งภาพ ถ่ายอย่างเดียว แต่เมื่อวันนึงได้ลองเอาภาพถ่ายมาแต่งเอง เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาอีกโลกนึงแหละ แล้วมันก็ดีนะ จนทำให้ผมได้อยากจะลองรับงานแบบนี้จริงๆ เลย เอิ่ม … ก็ได้นะ ได้ลองรับงานบ้าง แต่ไม่ได้เซียนขนาดนั้น แต่ถ้ามีเวลามากพอนี่ก็ว่าจะลองไปเที่ยว หาถ่ายรูปบ้างแหละ ใครสนใจลงชื่อเอาไว้เลย ~

เพื่อนเบ้น เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ …

5. Macbook Pro 2012.

จัดว่าเป็นอีก 1 อุปกรณ์ยอดเยี่ยมเลยแหละมันเป็นของมือ 2 ที่สภาพดีมากๆ ราคาก็ต่อรองได้ สบายๆ ทำให้ผมก็ได้เลิกเล่นเกมไปเกือบๆ ปีแหน่ะ ถือว่าดีนะ เพราะมีเวลาออกไปทำอย่างอื่นบ้าง แล้วในอนาคตงานที่ผมจะทำยังไงก็สายนี้อยู่แล้วแหน่ะ ไม่ได้ไปไหนหรอก เลยตัดสินใจซื้อเลย ไม่รอช้า กับราคาที่เราควบคุมได้ ( ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ราคาไปถึงแสนแล้วนะตัว 2016 หน่ะ )

มันดีหรอ …

ดีสิ

ดียังไง ….

เออก็ได้เอามาใช้ลองเขียนเว็บ ออกแบบ ทำงานแต่งรูป จัดว่าแจ่ม

หลายๆ คนก็ถามนะ ไม่เล่นเกม เป็นไปได้หรอ ตอบเลยว่าได้ แต่ก็มีแอบงองแงบ้าง อยากเล่น คือมันก็มีบ้างของผมนะ แต่ตอนนี้ก็ได้ Pc ตัวเล็กมาแก้ขัดละ เพราะผมไม่เล่นเกมใหญ่ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเล่นเกมที่เราเล่นได้ขำๆ มากกว่า

อีกอย่าง กับเรื่องแบตแล้ว ไม่ได้อวยนะ เคยเอาไปเรียนวิชา Unix System การเรียนจะประมาณว่า ทำระบบเอง เขียน Web บน Server ที่เราทำขึ้นมาเอง ถือว่านานใช้ได้นะ 8.30 เลิกก็ 12.40 วันนั้นเหลือกลับไปใช้ต่ออีก 45% ถือว่าคุยกันได้ ไม่ได้แย่มาก แต่อาจจะน้อยลงกว่า Macbook Air นะเพราะเจ้านั้นเขา 10 คือ 10 จริงๆ

6. ค้นหาตัวเองจนเจอ …

จริงๆ จะบอกว่า รู้จักตัวเองมากขึน มากกว่านะ พี่ๆ ที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต หลายๆ ท่านได้ให้แนวคิดมาเยอะมากกกก เกี่ยวกับการทำงาน จริงๆ ผมแอบชื่นชมหลายๆ คนนะ เรียนจบมาลงตรงนี้เลย แล้วสำเร็จด้วย ตรงนั้นมากกว่าที่ทำให้ผมคิดว่ายังก็ทำได้แบบพี่ๆ เขาแหละ แต่ลืมไป 1 ข้อว่า “ป๊อปยังไงก็คือป๊อป” มาเข้าใจตัวเองมากขึ้น เพราะได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น เดินทางคนเดียว ไปไหนคนเดียวก็ค่อนข้างบ่อย ไม่ได้พบปะเพื่อนๆ มานานมากๆ ได้มีเวลาคิดอะไรคนเดียวก็ นานโข อยู่จากการทดลองพบว่า ผมไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้คือ หัวแข็ง ไปทางไหน แล้วก็ต้องไปทางนั้น ฮ่าๆ ผมชอบอ่านข่าวไอทีนะ อ่านตั้งแต่เรื่องอัพเดทระบบเล็กๆ ไปจนของออกใหม่ที่ต้องเปลี่ยนวงการไปเลย อะไรทำนองนั้น เริ่มอยากไปเป็นโน่น เป็นนี่ คือมันเพลินจนเราเองหยุดเองไม่ได้ แล้วรู้ว่า การที่อยู่ตรงนี้ได้พูดคุยอะไรแบบนี้มัน ทำให้เราอยากอยู่ต่อไปไง แต่ไม่ใช่ไปสายอื่นแล้วจะทำ อะไรแบบนี้ไม่ได้นะ แค่ทำน้อยลอง แต่ผมก็ยังอยากเอาตัวเองเข้ามามึนกับเรื่องน่าปวดหัวพวกนี่อยู่ดีแหละ

อ่านจนถึงตอนนี้ก็พอสรุปได้อยู่ว่า ปีนี้ผมได้ไปทำอะไรมาบ้างเนอะ จริงๆ อีกเรื่องที่อยากเพิ่มไปคือ ปีนี้ผมได้เริ่มอะไรใหม่ๆ หลายอย่างเลย Blog อันนี้ก็ด้วย แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่เขียนเป็นเพราะผมเอาเวลาไปศึกษาเรื่องของการทำ Word Press อยู่พักนึง แต่พบว่าการที่จะให้มัน Online ได้นั้นมันต้องมีค่าใช้ในการดูแล Host นิดนึง แล้วบวกกับการอยากได้โดเมนแบบ .com ของผมนั้น บทความที่อยากเขียนหรือะไรคงได้เป็นแค่ภาพถ่ายไปก่อน ส่วนตัวแล้วไม่รีบครับ ยังคง Happy อยู่กับการถ่ายภาพ ไม่ได้ซีว่าจะต้องเริ่มพรุ่งนี้ วันนี้ หรือเมื่อไหร่ แต่ถ้าได้เริ่มเลยก็ดีครับ ได้เปิดอะไรเข้าไปอีกด้าน ในปี 2017 นี้วางแผนงานสำคัญเอาไว้เยอะเลย โดย Final Project ต้องเสร็จ ได้ทันเทอม 2/2559 นี้แน่นอน แล้วพอถึงจุดๆ นั้น เราคงได้เจอกับอะไรๆ ที่มากกว่าแน่ๆ ส่วนตัวจะเริ่ม ศึกษา Content เยอะๆ ผมคิดว่าการที่มาทำอะไรแบบนี้คือไม่ได้เป็นการจำอวดเรื่องของตัวเอง Blog แบบนี้เหมือนเป็นการฝึกเล่าเรื่องมากกว่า ผมเป็นเล่าเรื่องไม่เก่งครับ เล่าเรื่องนี้ ออกไปอีกเรื่อง ลำดับเรื่องไม่เก่ง ออกไปพูดต่อหน้าคนเยอะๆ มักจะเป็นแบบนี้บวกกับการอยากเป็น Font-ent ของผมเองเลยอยากมี Blog ที่ผมเป็นคนออกแบบ Code ของมันเองทั้งหมด แต่มัวแต่รอโอกาสรอเวลา เลยมาฝึกการเล่าเรื่องในนี้ก่อนก็ดีเนอะ เอาเป็นว่าเพื่อนๆ มีแผนอะไร มีโปรเจคอะไรอยากจะทำ ทำเลยครับ อย่ารอ เพราะชีวิตสั้นเกินกว่าจะรอได้ครับ ผมแบ่งเวลาออกมาจากสิ่งที่ทำทำ อยู่ทุกวัน วันละนิด วันละหน่อย จริงอยู่ยังว่างงาน แต่ผมเชื่อเรื่อง 8 ชั่วโมงที่ 3 ครับ คนเราใช้เวลานอน 8 ชั่วโมง ทำงาน / เรียน 8 ชั่วโมงเท่ากัน แล้ว อีก 8 ชั่วโมงเราเอาไปทำอะไร ยังไงก็ลองแบ่งเวลากันดูเนอะ

สวัสดีปีใหม่ครับ โชคดี …( ไม่ต้องคลิกไม่มีพลุ )

สบายใจเมื่อไหร่ก็เริ่มได้เลยเนอะ ~

--

--