5 เหตุผล ทำไมผมถึงเปลี่ยนมาใช้ Medium
ผมย้ายจาก Wordpress มา Medium เพราะ…
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนบล็อกโดยใช้ระบบจัดการเนื้อหาที่เรียกว่า Wordpress ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนทำเว็บไซต์ บล็อกเก่า Coregame-th.com ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Wordpress ได้รับความนิยมอย่างมาก มียอดเข้าชมเฉลี่ยวันละ 400–600 คนโดยประมาณ
ในเดือนมีนาคม 2018 ครบรอบต่ออายุโดเมนและโฮสติ้งพอดี และช่วงนั้นเว็บไซต์โดน hack ด้วยความประมาทเลินเล่อของผมเอง ผมเลยตัดสินใจเลิกต่ออายุ และปิดบริการต่างๆ ทั้งหมดในที่สุด
ผมยังอยากที่จะเขียนบล็อกต่อ ซึ่งตอนนั้นดูไว้หลายเจ้าเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Medium, Blogger, Wordpress.com, Exteen, Tumblr ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้วก็มาลงตัวที่ Medium และยังเขียนอยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
ต่อจากนี้จะบอกเล่าเหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือก Medium แทนที่จะเลือกเจ้าอื่น
1. Medium ฟรี
ใช่แล้วครับ Medium สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายเงิน
Wordpress ที่ผมใช้อยู่ก็ฟรี แต่ผมต้องจ่ายค่าเช่าโดเมน+โฮสติ้งปีละ 1000 บาทโดยประมาณ ถึงจะเป็นเงินไม่มาก แต่ผมต้องควักกระเป๋าเงินจ่ายเอง เพราะไม่ได้ติดโฆษณาหาเงินไว้ที่เว็บ
บริการเจ้าอื่นๆ ก็ฟรีเหมือนกัน แต่ Medium ไม่มีโฆษณากวนใจ นอกจากนี้ ยังให้พื้นที่อัพโหลดรูปไม่จำกัดอีกด้วย ไม่ต้องกลัว Bandwidth เต็มเหมือนเมื่อก่อน
ทั้งนี้ ต้องแลกกับการที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ 100% เหมือนตอนใช้ Wordpress
2. Medium เร็ว
ตอนที่ผมใช้ Wordpress ผมเจอปัญหาคลาสสิกที่คนทำเว็บเจอกันทุกคน ก็คือ “เว็บบวม” นั่นเอง
ปัญหาเรื่องเว็บบวมเกิดจากการที่ลง Plugin หรือส่วนเสริมมากเกินไป ทำให้กินทรัพยากรเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และยังส่งผลให้ผู้ใช้โหลดเว็บไซต์ได้ช้าอีกด้วย
ผมพยายาม Optimize เว็บไซต์เดิมทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็นเลือกโฮสติ้งไทย ทำการปรับแต่ง Cache ทำ Minify CSS และสารพัดวิธีเท่าที่จะนึกออก ไม่ว่าจะทำอะไรก็เร็วสู้ Medium ไม่ได้เลย (ข้อดีมีแค่โหลดรูปเร็วกว่า Medium อย่างเห็นได้ชัด นอกนั้นแพ้หมด)
3. Medium เป็นมิตรกับโทรศัพท์
ยุคนี้ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนสำคัญมาก และจากผลสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ มีคนมากกว่าครึ่งที่เข้าเว็บผมผ่านโทรศัพท์ ถึงแม้ว่า Wordpress มีการปรับให้เข้ากับโทรศัพท์ด้วย Theme แต่หลายๆ อย่างยังขัดใจผม ไม่ว่าจะเป็นการเว้นพื้นที่ด้านข้างที่มากเกินไป ฟอนต์ขนาดเล็กเกินไป อ่านยาก ที่สำคัญคือการตัดบรรทัดที่ไม่ค่อยดีนัก
Medium จัดการเรื่องการแสดงผลบนหน้าจอขนาดเล็กให้โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องจัดการอะไรแม้แต่น้อย ง่ายมากๆ และจะง่ายมากกว่านั้นถ้ามีแอพ Medium อยู่ในเครื่องโทรศัพท์ (แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครโหลดแอพนี้ไว้ในเครื่องหรอก ถ้าไม่ได้เขียนบทความใน Medium)
4. Medium เป็นมิตรกับ Social Network
ในยุคที่ Social Network ครองเมือง คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าบทความที่เขียนไว้ได้รับการแชร์ต่อๆ กันไปใน Facebook, Twitter หรือที่อื่นๆ ซึ่ง Social Network เหล่านี้ไว้ใจอะไรไม่ค่อยได้ วันดีคืนดีนึกอยากจะปรับเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนซะงั้น
ตอนที่ผมทำ Wordpress ผมต้องลง Plugin สำหรับอำนวยความสะดวกในการแชร์ลง Social Network ต่างๆ ซึ่งเคยมีอยู่ครั้งนึงที่ Facebook เปลี่ยน API ใหม่ แล้ว Plugin เดิมจะไม่สามารถใช้งานได้ ผมต้องนั่งแก้ระบบ เสียเวลาอยู่ครึ่งวันกว่าจะแก้ได้
แต่เหตุการณ์แบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับ Medium เพราะมีเครื่องมือสำหรับแชร์ต่อค่อนข้างครบถ้วน และมีการอัพเดตอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือผมไม่ต้องมาตั้งค่าให้วุ่นวาย
แต่ต้องยอมรับอย่างนึงว่าผมรำคาญข้อความที่บอกว่า ถ้าอยากคอมเมนต์หรือไฮไลท์บทความ สมัครสมาชิกเว็บ Medium สิ เรื่องนี้ผมต้องยอมให้ Wordpress
5. Medium เน้นการเขียน
ข้อนี้สำคัญที่สุด และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมตัดสินใจย้ายมาที่ Medium
หน้าเขียนบทความของ Medium สะอาด ไร้สิ่งรบกวน มีเฉพาะเครื่องมือสำหรับ Format บทความที่จำเป็นเท่านั้น (ตัวหนา ตัวเอียง แทรกลิงก์ หัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย Quote และจดโน้ตเพิ่มเติม) นอกจากนี้ยังสืบเนื่องต่อจากเหตุผลข้อ 4 อีกด้วย เพราะสามารถ Embed รูป วีดีโอ หรือสื่ออื่นๆ จาก Social Network ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งหมดนี้ทำให้ผมโฟกัสที่การเขียนจริงๆ แทนที่จะเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ค่อยจำเป็นนักอย่างการตกแต่งบทความให้สวยงาม
6. โปรแกรมเมอร์หลายคนใช้ Medium
ข้อนี้เป็นข้อพิเศษ ผมแถมให้
ในช่วงหลังๆ ผมเห็นโปรแกรมเมอร์ หรือคนที่เรียน/ทำงานสายคอมพิวเตอร์หลายคนในไทยหันมาใช้ Medium กันมากขึ้น
ผมเองก็อยากมีส่วนร่วมในชุมชนเหมือนกัน เลยตัดสินใจเขียนบทความที่ Medium ครับ หวังว่าบทความผมคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
โดยรวม ผมคิดว่า Medium เป็นอะไรที่ค่อนข้างกลางๆ ตามชื่อเลยครับ คือไม่ใช่เว็บบล็อกเต็มตัว แต่ก็ไม่ใช่ Social Network เต็มตัวเหมือนกัน
สำหรับคนที่คิดอยากจะเขียนบทความ และยังไม่รู้ว่าจะฝากบทความไว้กับเจ้าไหนดี ผมแนะนำให้ลอง Medium ครับ แล้วจะติดใจ :D
