จดหมายข่าว Cryptocurrency #ฉบับที่ 8

CryptoThailand.com
CryptoThailand.com
Published in
2 min readFeb 7, 2018

เกิดอะไรขึ้นบ้างในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1–6 กุมภาพันธ์ 2018)

โดยทางผู้เขียน CryptoThailand.com และ 85+.cc ช่วยกันรวบรวมเรื่องต่างๆในวงการสกุลเงินคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนมาอัพเดทให้อ่านกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาตามข่าวอยู่ตลอดเวลาและไม่อยากพลาดเรื่องราวสำคัญ

ธนาคารเริ่มระงับการซื้อ cryptocurrency ด้วยบัตรเครดิต

ธนาคารใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอย่าง Bank of America, Citigroup, และ JP Morgan Chase ต่างเดินหน้าแบนการชำระเงินซื้อ cryptocurrency ด้วยบัตรเครดิต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีผู้ใช้งาน Coinbase ได้สังเกตเห็นว่า การใช้บัตรเครดิตซื้อ cryptocurrency กลับกลายเป็นกู้ใช้เงินล่วงหน้าแทน ซึ่งส่งผลกระทบให้นักลงทุนรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยากยิ่งขึ้น นักลงทุนรายใหม่ต้องซื้อ cryptocurrency ด้วยเพียงเงินสด ทางด้านธนาคาร British Lloyds ก็เตรียมระงับการซื้อบิทคอยน์ด้วยบัตรเครดิตเช่นกัน

อินเดีย

ระหว่างการเสนอแผนงบประมาณประจำปีต่อรัฐสภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย กล่าวถึงเรื่องความเข้มงวดในการใช้งาน cryptocurrency ในประเทศ หนึ่งในคำกล่าวของเค้า ระบุไว้ว่า “รัฐบาลอินเดียจะไม่ยอมรับ cryptocurrency ในการชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงจะมีมาตรการเด็ดขาดกับการใช้ crypto asset กับสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย” (อันที่จริงอินเดียก็ไม่เคยมีท่าที่บวกต่อ cryptocurrency มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว)

Monero

Proofpoint, บริษัทรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งว่า ณ ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์กว่า 5 แสนเครื่องทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจาก mining botnet ในการขุดสกุลเงินคริปโต Monero รวมเป็นมูลค่ากว่าล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้จะมีความพยายามในการบล็อกการส่ง Monero ไปที่ mining pool อยู่บ้างก็ตาม จริงๆแล้วเหล่า hacker ได้ใช้ช่องโหว่ที่ชื่อว่า EthernalBlue ซึ่งพัฒนาจากองค์การ NSA ของสหรัฐ เป็นเครื่องมือในการแพร่กระจาย botnet เหล่านี้

หมายศาลถึง Tether

เร็วๆนี้ CFTC หรือ คณะกรรมการกำกับตลาดฟิวเจอร์ได้ส่งหมายศาลถึง Teher หรือ USDT ถึงข้อกล่าวหาที่ว่า จริงๆแล้วเหรียญ USDT ไม่ได้มีเงินดอลล่าร์สหรัฐหนุนเพียงพอ 100% และรวมถึงคดีที่ใช้ในการปั่นตลาดราคาบิทคอยน์อีกด้วย ข่าวนี้ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดครับ ว่าจะลงเอยในรูปแบบไหน

เค้าแบน เราก็แบน

สืบเนื่องจากการงดโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับ cryptocurrency และ ICO บนแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง facebook ทางด้าน Weibo โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คชื่อดังของจีนก็ประกาศแบนโฆษณาเว็บเทรด cryptocurrency และ ICO เช่นกัน เหตุการณ์นี้ได้เกิดหลังจากธนาคารกลางในจีนได้เตรียมแบนการเข้าถึงเว็บเทรดจากนอกประเทศ ถ้ามองในอีกมุมนึงถือเป็นเรื่องที่ดี ในการป้องกันและคัดกรองโปรเจกต์ scam ออกจากวงการ ถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อโปรเจกต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายในการระดมทุนได้ยากยิ่งขึ้นก็ตาม

--

--

CryptoThailand.com
CryptoThailand.com

แบ่งปันความรู้ Cryptocurrency และ Blockchain