ไปทำงานมาแล้ว 2 เดือน ได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง
เราเริ่มงานประจำวันแรก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ที่บริษัท Cupcode ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเป็นวันที่หนึ่ง และเป็นก้าวแรกในการทำงานประจำ
เราทำงานในตำแหน่งอะไร เราทำอยู่ในตำแหน่งเป็น Frontend Designer หลายคนคงจะงงว่า มีตำแหน่งนี้อยู่ด้วยหรอ เราบอกได้เลยว่ามีค่ะ ถ้าในต่างประเทศมีมานานแล้วค่ะ ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ที่แปะไว้เลยค่ะ
Job Description ตามลิงค์ที่แปะไว้เลย แต่จะมีปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามลักษณะขององค์กรค่ะ
Frontend Designer ทำอะไรบ้างละ
งานหลักที่เราทำจะออกแบบพวกเว็บไซต์ responsive และ Mobile Application รวมถึงจัด HTML5 และ CSS3 ค่ะ
เราจะได้ฝึกกระบวนการคิดว่า เราต้องออกแบบอย่างไรให้ผู้ใช้งานง่ายมากที่สุด
กระบวนการตั้งแต่การถามพี่ๆในทีม Business Development หรือ (BD) เรื่องความต้องการของลูกค้า และคุยกับพี่ๆในทีม User Experience หรือ (UX) เรื่องการออกแบบอย่างไรให้ใช้งานง่ายให้มากที่สุด
จากนั้นร่าง wireframe ลงในกระดาษ จนถึงการ Design หน้าตาแอปพลิเคชั่นหรือเว็บ ไซต์ในโปรแกรม Sketch
Methodology ที่ใช้ภายในบริษัท
ที่นี่ใช้ระบบ Agile จะมีการ Standup Meeting ในทุกวันจันทร์ ทุกคนจะมายืนพร้อมเพรียงกันโดยได้นัดหมายกันมาแล้ว ส่วนวันอื่นจะใช้การ Standup Meeting ใน Basecamp แทน บอกว่าวันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง ส่วนถ้าใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากลิงค์ที่แปะไว้ให้ค่ะ
สังคมภายในบริษัท
ถ้าเราจะบอกว่า ที่นี่ คือ บ้านหลังที่สองของเรา เราจะบอกว่าทุกวันที่เรามาทำงาน เรารู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านนะ คือพี่ๆทุกคนใจดีและเป็นกันเองมากๆ เรารู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น
สิ่งหนึ่งที่เรายืนยันบอกได้อย่างชัดเจน คือ วันที่เขียนบล็อคนี้ เราคุยกับแม่เรื่องนึง แล้วแม่ก็บอกกับเราว่า
“ตั้งแต่ฟูทำงานประจำ ฟูดูมีความสุขมากกว่าตอนเรียนหนังสืออีก”
เราเองก็รู้สึกแบบนั้น แต่ยังไม่ชัวร์เลยถามจากแม่ คำตอบของแม่จึงทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เราได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้อย่างชัดเจนว่า
“เรามีความสุขและเครียดน้อยลงกว่าเมื่อก่อน แล้วเราโฟกัสเรื่องการพัฒนางานดีไซน์อย่างไรให้ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น”
ตลอดเวลา 2 เดือนที่เราทำงานที่นี่ เราได้เรียนรู้เทคนิคจากพี่ๆทุกคน ทั้ง Technical Skill และ Soft Skill รวมถึงการปรับตัว การใช้ชีวิต ขอบคุณค่า จะบอกว่ามุมมองเราเปลี่ยนไปเยอะมากเลย เรารู้สึกตัวเราโตขึ้นกว่าเมื่อก่อน
ท้ายที่สุดแล้วเรายังคงต้องเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ
เพราะเรามีคติประจำใจว่า
“There is no shortcut, only just HEART work”
และอีกคตินึง
“Stay Hungry Stay Foolish”
ตามที่ Steve Jobs ของ Appleได้กล่าวไว้ค่ะ
ขอบคุณคุณผู้อ่านที่อ่านจนจบ
นักเขียนเปื้อนฝุ่น
26–07–2017
