9 วิธีการสร้าง Landing page ที่ช่วยเพิ่มผลตอบรับจากการโฆษณา [เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ตอนที่ 2]

Dable
Dable ประเทศไทย
3 min readOct 21, 2021

Dable แพลตฟอร์มโฆษณาแบบเนทีฟระดับโลกได้จัดทำซีรีส์คอนเทนต์เกี่ยวกับ “เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ” เพื่อให้ผู้อ่านสามารถใช้โฆษณาเนทีฟได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

สืบเนื่องจากบทความที่แล้วเกี่ยวกับการสร้างหัวข้อและรูปขนาดย่อสำหรับโฆษณาแบบเนทีฟ (สร้างคำโฆษณาและรูปภาพอย่างไรดีให้ดึงดูดผู้บริโภค [เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ตอนที่ 1) บทความนี้ เราจะขอแนะนำ 9 วิธีการสร้าง Landing page ที่ช่วยเพิ่มผลตอบรับจากการโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างแนะนำ

| Landing page คืออะไร

Landing Page คือเว็บไซต์หน้าแรกที่ปรากฏขึ้นมาให้ผู้ใช้เห็นหลังจากกดเข้าดูโฆษณานั้นๆ การนำเสนอสินค้า-บริการให้แก่ผู้บริโภคผ่านทาง Landing page นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจในตัวสินค้า-บริการแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวสินค้า-บริการ และเพิ่มกำไรที่เกิดจากผลตอบรับของผู้บริโภคต่อโฆษณาอีกด้วย

Landing page มีเป้าหมายที่จำเพาะเจาะจง เช่น เพื่อการสมัครสมาชิก หรือกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า-บริการ ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ปกติที่มีเนื้อหาโดยทั่วไปเกี่ยวกับบริษัท ดังนั้น Landing page จะต้อง▶ดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้ที่กดเข้ามาดูจากโฆษณาให้ยังอยู่ในหน้าเว็บได้ และ▶โน้มน้าวให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการบริโภคเป็นไปในแบบที่ผู้ลงโฆษณาต้องการ

9 วิธีสร้าง Landing page ที่ช่วยเพิ่มผลตอบรับจากการโฆษณา

ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ด้วยพาดหัวเรื่องที่สะดุดตา

พาดหัวเรื่อง (Headline) เป็นข้อความที่ผู้ใช้ที่เข้ามาในหน้าเว็บจะสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกใน Landing page ผู้ใช้จะตัดสินใจกดออกหรือเลื่อนดูเนื้อหาต่อไปหลังจากที่ได้เห็นพาดหัวเรื่อง ดังนั้น การดึงดูดความสนใจด้วยพาดหัวที่สะดุดตาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

  • แนะนำสินค้าหรือบริการอย่างกระชับและชัดเจน ส่วนข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ สามารถยกไปอธิบายเพิ่มเติมได้ในพาดหัวรอง (subheadline)
  • พาดหัวเรื่องควรจะทำให้ผู้ใช้สามารถคาดเดาลักษณะคร่าวๆ ของสินค้า/บริการได้
  • การเล่นกับความสงสัยของผู้ใช้ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ดี

รูปภาพ (หรือ วีดีโอ) มีพลังมากกว่าข้อความ

รูปภาพ (หรือ วีดีโอ) สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากกว่าข้อความ และยังสามารถนำเสนอสินค้า-บริการได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปภาพ (หรือ วีดีโอ) ที่มีคุณภาพจะสามารถสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่ผู้ใช้ และสร้างความประทับใจว่าสินค้า/บริการนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ

  • ใช้รูปภาพจริงของสินค้า-บริการ แสดงให้เห็นลักษณะของสินค้าในหลายๆ มุมหรือมีข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม
  • ใช้รูปภาพของบุคคลที่ยิ้มหรือแสดงอารมณ์ที่ดี หรือรูปที่มีการใช้ชีวิตปกติเสมือนถ่ายมาจากชีวิตจริง
  • ใช้รูปภาพหรือวิดีโอขนาดใหญ่เป็นภาพพื้นหลัง หรือการใช้พื้นหลังที่มีสีแทนรูปภาพ

*ระวังการใช้รูปภาพที่ทำให้เห็นข้อความไม่ชัดเจน ส่งผลให้ยากต่อการอ่านข้อความนั้นๆ

เน้นย้ำข้อมูลที่สำคัญ เช่น ราคาหรือส่วนลด

“ราคา” เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องเน้นย้ำบน Landing page หากการซื้อสินค้า-บริการเป็นเป้าหมายหลัก และเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดเมื่อผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการจัดกิจกรรมกระตุ้นการขายใหญ่ๆ เช่น Black Friday, Cyber Monday, หรือ 10.10 Big Sale (มหกรรมลดราคาในวันที่ 10 ตุลาคม) หากคุณต้องการทำโปรโมชันลดราคา การประชาสัมพันธ์ที่เน้นย้ำเกี่ยวกับ “ส่วนลด” จึงถือเป็นสิ่งสำคัญ

  • การเน้นย้ำสามารถทำได้ด้วยการใช้สีสันหรือการออกแบบที่โดดเด่นสะดุดตา เช่น กล่องข้อความสีแดง
  • ข้อมูลสำคัญเหล่านี้สามารถจัดวางให้อยู่ด้านบนสุดของหน้าเว็บเพื่อให้ผู้ใช้เห็นเป็นอย่างแรก

*ระวังไม่ให้ส่วนประกอบอื่นๆ ที่จัดวางในหน้า Landing page รบกวนการเห็นข้อมูลสำคัญ เช่น ราคา

สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค

ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคผ่านทางรูปภาพที่สวยงามหรือข้อมูลลดราคา แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อ การสมัครสมาชิก หรือการสมัครใช้บริการก็คือความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยิ่งสินค้ามีราคาสูงเท่าไหร่ (เช่น อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์) การสร้างความเชื่อถือแก่ผู้บริโภคก็ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นเท่านั้น

  • ให้ข้อมูลสำหรับการติดต่อแก่ผู้บริโภคไว้ที่ด้านล่างหรือบริเวณใดก็ได้ของหน้า Landing page
  • การเพิ่มตราสัญลักษณ์หรือโลโก้บริษัทจะช่วยเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือของโฆษณา
  • การแสดงรายชื่อของคู่ค้าทางธุรกิจก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีเช่นกัน

ใช้ประโยชน์จากรีวิวของผู้บริโภค

การใช้รีวิวที่ดีจากผู้บริโภค ช่วยสะท้อนว่าผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ รีวิวยังมีผลกระทบอย่างมากต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคด้วย คุณภาพของสินค้า/บริการจะได้รับการพิสูจน์และยอมรับผ่านการแสดงความคิดเห็นจริงๆ จากผู้บริโภคว่าชอบสินค้าหรือไม่

  • คุณสามารถใช้รีวิวจากโซเชียลมีเดีย การให้ดาว คำรับรองจากบุคคล (หรือบริษัท) ที่มีชื่อเสียง และการเปิดรับความเห็นผ่านทางสื่อต่างๆ
  • รีวิวจากบุคคลที่มีชื่อเสียงมีประโยชน์ในด้านการทำให้สินค้า/บริการเป็นที่รู้จัก ส่วนรีวิวจากบุคคลทั่วไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อปริมาณยอดขายของสินค้า/บริการนั้นๆ

ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างตรงไปตรงมา

การทำให้ผู้ที่เข้ามาในหน้าเว็บเชื่อว่าตนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสินค้า/บริการนั้นๆ เป็นเรื่องที่จำเป็น หากคุณต้องการเก็บข้อมูลที่อยู่อีเมลของผู้บริโภค ควรมีการแจ้งว่าผู้บริโภคจะได้ประโยชน์อะไรจากการให้ข้อมูลนั้น ในกรณีของ e-commerce ควรมีการกล่าวถึงผลประโยชน์ที่ชัดเจน เช่น การส่งฟรี การรับประกันสินค้า และของสมนาคุณของลูกค้า

  • ให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์ที่เข้าใจง่าย ครบถ้วน และตรงไปตรงมา
  • แจ้งมูลค่าของผลประโยชน์หรือผลกำไรที่จะได้โดยตรง เช่น % ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืน
  • ระบุสิทธิประโยชน์ โดยใช้สัญลักษณ์ -, # ในการแยกเป็นข้อๆ

ใช้ปุ่ม Call To Action (CTA) ได้สอดคล้องกับจุดประสงค์

ปุ่ม “CTA” เป็เครื่องมือที่ดึงดูดให้ผู้ใช้เกิดพฤติกรรมที่เจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง ปุ่มคำสั่ง เช่น “ซื้อทันที” หรือ “เรียนรู้เพิ่มเติม” จะช่วยกระตุ้นผู้บริโภคในช่วงเวลาเร่งด่วน คิดและวางแผนว่าจุดใดของการเลือกซื้อที่สามารถทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ และปรับนำไปปรับใช้ในการตั้งชื่อปุ่ม CTA

  • ดึงดูดความสนใจด้วยพื้นหลังขนาดใหญ่และใช้สีที่ตัดกันรอบๆ ปุ่ม CTA
  • ปุ่ม CTA ที่อยู่ใกล้กับเป้าหมายของผู้ใช้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
  • คำว่า “ตอนนี้เลย” มีพลังอย่างมากในการกระตุ้นพฤติกรรม

ย้ำเตือนผู้บริโภคว่าเหลือโอกาสอีกไม่มากแล้ว

กลยุทธ์การตลาดแบบสินค้าขาดแคลน (Scarcity marketing) เช่น สินค้า limited edition หรือโปรโมชันในช่วงเวลาจำกัด เป็นเทคนิคการตลาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย การแจ้งผู้บริโภคว่าสินค้า/บริการนั้นมีจำกัดจะสร้างความกดดันให้แก่ผู้บริโภค และนำมาสู่พฤติกรรมการบริโภคที่คุณต้องการ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มยอดขาดเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ

  • ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการลดราคาที่จัดขึ้นในช่วงเวลาที่จำกัด
  • แสดงให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจนว่าโอกาสในการซื้อมีจำกัดและกำลังจะหมดไปด้วยการแสดงเวลานับถอยหลังในหน้าเว็บ

A/B test เป็นสิ่งจำเป็น

ในการโฆษณาสินค้า/บริการชนิดเดียวกัน การสร้างรูปภาพ หรือข้อมูลใน Landing page ที่ดีก็มีความแตกต่างกันไป ตามเพศ อายุ และ ถิ่นที่อยู่ของผู้บริโภค ดังนั้น การทำ A/B test อย่างต่อเนื่องจึงถือเป็นสิ่งจำเป็น การปรับแต่งและพัฒนา Landing page สามารถทำได้ด้วยการติดตามผลตอบรับของผู้บริโภคและการทำ A/B test เพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่กดเข้ามาในหน้าเว็บใช้เวลาในเว็บนานเท่าไหร่ ส่วนประกอบใดในหน้าเว็บที่มีการกดเข้ามากที่สุด และเว็บรูปแบบใดที่ช่วยกระตุ้นยอดขายมากที่สุด

  • ตรวจสอบลำดับการจัดวางข้อมูล สีพื้นหลัง การจัดหน้าและวางแผนผัง หรือความยาวของหน้าเว็บที่เหมาะสม
  • การปรับแต่งสีหรือข้อมูลของปุ่ม CTA เพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อให้เกิดผลตอบรับที่ดีขึ้นได้อย่างมาก
  • หากเป็นไปได้ สามารถใช้ Landing page หลายๆ แบบตามลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย

*************** Dable Content ***************

หากคุณกำลังประสบปัญหาในการสร้าง Landing page อยู่ สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ “Dable Content” ได้ นอกจากจะช่วยให้การสร้าง Landing page เป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยพัฒนาปรับแต่งเว็บให้เกิดผลลัพธ์ที่สูงขึ้นอีกด้วย

Dable ได้พัฒนาฟีเจอร์ “Dable Content” ที่จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถสร้าง Landing page ด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย และฟีเจอร์ “Outlink” ที่จะช่วยเชื่อมต่อผู้บริโภคเข้ากับ Landing page ของผู้ลงโฆษณาเอง

Dable content รองรับการสร้าง Landing page ทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ แบบ Article และ Mini content

Landing page แบบ Article มีรูปแบบการจัดวางเป็นไปตามโครงสร้างทั่วไปของบล็อกหรือเว็บไซต์ข่าว ผู้ลงโฆษณาเพียงแค่เตรียมข้อความ และเลือกรูปแบบการจัดวาง รูปแบบตัวอักษร และโครงสร้างที่กำหนดมาให้แล้ว โดยคุณสามารถเพิ่มรูปภาพ ลิงก์เว็บไซต์ วิดีโอ และแบบฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูลของผู้บริโภคเองได้ -> เรียนรู้เพิ่มเติม

Landing page แบบ Mini content เป็นหน้าเว็บที่มีป็อบอัพขึ้นมาเพื่อการชี้ชวนโดยเฉพาะ เมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณา หน้าเว็บจะเด้งขึ้นมาบนหน้าจอแทนการนำผู้ใช้เข้าไปในเว็บไซต์ภายนอกโดยตรง ผู้ลงโฆษณาสามารถสร้างข้อมูลโฆษณาในรูปแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย และเก็บข้อมูลของลูกค้าที่มีแนวโน้มในการซื้อสูงผ่านทางชุดคำถามที่สร้างขึ้น -> เรียนรู้เพิ่มเติม

*********************************************

ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจากการสร้าง Landing page การทบทวนและปรับแต่งแคมเปญตามวิธีที่ได้อธิบายมาข้างต้นนี้ นอกจากจะช่วยให้การสร้าง Landing page เป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยพัฒนาปรับแต่งเว็บให้เกิดผลลัพธ์ที่สูงขึ้นไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย

ในบทความต่อไป เราจะนำเสนอวิธีการวางสคริปต์เพื่อประเมินคุณภาพของโฆษณาและปรับแต่งพัฒนาแคมเปญ และวิธีการใช้สคริปต์เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น แคมเปญในรูปแบบการติดตามกลุ่มเป้าหมาย (Remarketing) การวางสคริปต์ที่เหมาะสมกับสินค้า/บริการของผู้ลงโฆษณา และการปรับแต่งพัฒนาโฆษณาให้สอดคล้องกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิทัล โปรดติดตามบทความต่อไปได้เร็วๆ นี้

อ่านบทความเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพแคมเปญก่อนหน้านี้:

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ Landing pages และการปรับแต่งและพัฒนาโฆษณาแบบเนทีฟ สามารถติดต่อมาได้ที่ ad-th@dable.io

--

--