12 แอพที่ผมใช้ทุกวัน
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Smartphone เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากจริงๆ และสิ่งที่ทำให้ Smartphone ทำได้ขนาดนั้นก็คือ “App” ถือว่าเป็นหัวใจของ Smartphone เลยทีเดียว เพราะลำพังแค่ตัว Smartphone นั้น คงไม่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตของเราได้ โพสท์นี้ผมจึงเอา 12 แอพบน iPhone ที่ผมใช้เป็นประจำ ใช้ทุกวัน ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ครับ :)
1-2-3 แชท, ทวีต และแชร์
นับว่าเป็นแอพพื้นฐานเลยก็ว่า สำหรับ LINE, Twitter, Facebook เพราะเป็นแอพที่ใช้งานบ่อยที่สุด โดยเฉพาะ LINE ในงานประจำวันของผม ปัจจุบัน LINE ได้เข้ามาช่วยงานมากจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแจ้งเหตุร้ายในพื้นที่, รายงานข่าว, แจ้งเรื่องด่วน ฯลฯ
Twitter ผมใช้สำหรับถ่ายทอดความคิดและความเป็นไปในชีวิตแต่ละวัน รวมถึง ติดตามข่าวสารต่างๆ และตามอ่านความคิดของเพื่อนๆ ในสังคมออไลน์
Facebook คงไม่ต้องพูดถึง เชื่อว่าทุกคนรู้จักกันดี
4. Evernote — จด, จด และจด
ถึงแม้ว่า iPhone จะมี Notes ติดตั้งมาให้ในเครื่องแล้วก็ตาม แต่ Notes บน iPhone ยังไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการ “จดบันทึก” แบบจริงจัง เพราะไม่สามารถแนบรูปภาพ หรือไฟล์อื่นๆ ได้นอกจากข้อความ
Evernote เป็นแอพที่สามารถใช้แทน Notes ใน iOS ได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มา นอกจากมันสามารถจดบนทึกเป็นขัอความได้แล้ว ยังสามารถแนบรูปภาพ ไฟล์เสียง ฯลฯ เข้าไปในบันทึกของเราด้วย และจุดเด่นที่สุดของ Evernote ก็คือ รองรับทุก Platform และมีระบบ Sync ข้ามเครื่อง นั่นก็คือ เราสามารถจดบันทึกบน iPhone แล้วไปเปิดดูบน PC หรือมือถือเครื่องอื่นได้ แค่ Log in ด้วย Evernote Account ซึ่งแน่นอนว่า “ฟรี” ครับ
5. Wunderlist — “แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้าง?”
ในแต่ละวัน เราอาจมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง แล้วถ้าเป็นคนขี้ลืม เรียงลำดับความสำคัญของงานไม่ถูก เราก็จะจดลงบนกระดาษ แล้วมาแปะไว้หน้าคอมฯ … จะดีกว่าไหมครับ ถ้าเราใช้ iPhone ของเราเป็นเลขาส่วนตัวซะเลย
Wunderlist เป็นแอพ To-Do List ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบมาก สามารถสร้างได้หลายกลุ่มงาน เช่น รายการที่ต้องทำวันนี้, รายการที่ต้องซื้อ พร้อมทั้งตั้งเวลาเตือน เผื่อเราลืม นอกจากนี้ Wunderlist ยังรองรับหลาย Platform และมีระบบ Sync ข้ามเครื่องเหมือน Evernote เลยครับ ทำให้เราสามารถสร้างรายการสิ่งที่ต้องทำไว้บน iPhone แล้วมาเปิดดูบน PC ได้ ขณะกำลังทำงานหน้าคอมฯ มีอะไรที่ต้องเราต้องบันทึกว่าต้องทำอะไร ก็พิมพ์ใส่ Wunderlist บนคอมฯ กลับบ้านไป หรือออกข้างนอก ก็ไม่ต้องกลัว เพราะมันจะอยู่ใน iPhone ของเราทันที
6. Dropbox — กล่องมหัศจรรย์
นึกภาพสมัยที่เรายังต้องเก็บข้อมูลลงบนแผ่นดิสก์ขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งบันทึกลงบน Flash Drive ที่แม้จะมีขนาดเล็ก และมีความจุมาก แต่ถ้าเราทำหาย หรือมันเสียละ??
Dropbox เป็นบริการ Cloud ทีทำให้เราสามารถเก็บไฟล์งานต่างๆ ของเราออนไลน์ ไปยัง Server ของ Dropbox ทำให้สามารถเปิดดูได้ตลอดเวลา แค่มี PC,Smartphone หรือ Tablet ลืม Flash Drive ไปได้เลยครับ (เว้นแต่คุณมีไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มากจริงๆ และมี Internet ความเร็วต่ำ คงใช้ Dropbox ได้ไม่สะดวกนัก)
ผมใช้ Dropbox ในการเก็บไฟล์งานเอกสารสำคัญๆ รวมถึงไฟล์รูปที่ต้องใช้อยู่เป็นประจำ หากมีงานค้างที่ทำงาน จะกลับไปทำต่อที่บ้าน ก็แค่บันทึกลง Dropbox กลับบ้าน หรือระหว่างไปเที่ยว ก็สามารถดึงไฟล์งานมาแก้ไขได้ทุกเมื่อ
7. Mailbox — “พักผ่อนให้เต็มที่เมื่อ Inbox คุณว่างเปล่า”
ปกติ Email ของเราจะไหลเข้ามาใน iPhone และแสดงผลทั้งหมดอยู่ใน Inbox จริงอยู่ว่ามีการแสดงความแตกต่างระหว่างฉบับที่อ่านแล้ว กับฉบับที่ยังไม่ได้อ่าน แต่เวลาเห็นรายการ Email ใน Inbox ยาวเป็นหางว่าวแบบนั้น เราคงไม่สบายตาสักเท่าไหร่
Mailbox เป็นแอพ Email Client (ปัจจุบันรองรับแค่ Gmail) ที่ยัดความสามารถทางด้าน To-Do List มาใส่ไว้ด้วย โดยเอา Email ของเรานั่นแหละ เป็นรายการสิ่งที่ต้องทำ เมือเรารับ Email งาน แล้วดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ก็แค่ถูๆ กำหนดให้เป็น Archive แค่นี้ Email ฉบับนั้นก็จะหายไปจาก Inbox (ถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ต่างหาก) ทำให้ไม่รกสายตาเราอีกต่อไป
และสำหรับฉบับที่ยังไม่ถึงเวลาดำเนินการ เราก็สามารถกำหนดเวลาในการเปิดอ่านภายหลังได้ โดยทาง Mailbox มีเวลาให้เราเลือกใช้ได้ทันที เมื่อถึงเวลา มันก็จะเตือนให้เราเปิดอ่าน และดำเนินการกับ Email ฉบับนั้น ไม่พลาดงาน ไม่รกสายตากับ Inbox ที่เต็มไปด้วย Email อีกต่อไป แม้ว่าปัจจุบัน Mailbox ยังรองรับแค่ Gmail แต่ในอนาคตอันใกล้ Mailbox คงจะออกอัพเดทเพื่อรองรับบริการ Email จากค่ายอื่นๆ แน่นอนครับ
8. TurboScan — ลืมสแกนเนอร์กับเครื่องถ่ายเอกสารไปเลยครับ!!
สำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศ คงหนี 2 อุปกรณ์สำคัญนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือ สแกนเนอร์ และเครื่องถ่ายเอกสาร แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคที่งานไหลอยู่บนมือถือ การใช้สแกนเนอร์และเครื่องถ่ายเอกสาร คงไม่เหมาะนัก เพราะการที่จะเอา “เอกสาร” หรือ “ไฟล์” ที่ได้จากอุปกรณ์เหล่านี้ เข้าสู่มือถือนั้น มีหลายขั้นตอน ถ้าหากเราสามารถใช้มือถือเราเป็นสแกนเนอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารละครับ? คงจะดีไม่ใช่น้อย
TurboScan เป็นแอพที่สามารถ สแกนเอกสารต่างๆ ที่เป็นแผ่นกระดาษ มาเป็นไฟล์ในรูปแบบ PDF หรือ JPG ได้อย่างง่ายๆ และรวดเร็ว โดยผลที่ได้จากการสแกนด้วย TurboScan จะมีหน้าตาเหมือนผ่านเครื่องถ่ายเอกสาร หรือเครื่องสแกนเนอร์เลยครับ และสามารถส่งต่อไฟล์ หรือนำไฟล์ดังกล่าวไปใช้งานได้ทันที ง่าย เร็ว และประหยัด
เวลาผมได้รับหนังสือด่วน ที่ต้องส่งต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ หากใช้วิธีการเดิมๆ คงจะช้า ผมก็แค่เอาเอกสารดังกล่าว มาสแกนด้วย TurboScan จากนั้นก็ส่งไปยังอีเมล์ของผู้เกี่ยวข้อง หรือเข้า LINE ได้ทันที คุณภาพที่ได้ก็พอๆ กับถ่ายเอกสารแจกนั่นแหละครับ แต่ว่าเร็วกว่า ประหยัดกระดาษ และสามารถติดตามการตอบรับจากผู้เกี่ยวข้องได้ง่ายกว่า จากนั้นค่อยส่งตัวเอกสารที่เป็นกระดาษตามไปทีหลัง (หากจำเป็น)
9-10-11 แล้วจะพิมพ์งาน แก้งานบน iPhone หรือ iPad ได้หรือ??????
หลังจากที่ได้ลองใช้ Keynote หนึ่งในสามแอพชุด iWork ของ Apple ทำให้ผมลืม PowerPoint ไปเลย (ไม่นับเรื่องที่ลำบากเวลาจะต่อออกโปรเจคเตอร์ เพราะต้องมีอุปกรณ์เสริมต่อพ่วง)
หากต้องทำ Presentation นำเสนองานอะไรสักอย่าง Keynote คือคำตอบครับ ใช้งานได้ทั้งบน iPhone และ iPad ตัวแอพออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่แทบจะไม่ต้องใช้คอมฯ เลยก็ได้ครับ สามารถเปิดไฟล์ PowerPoint ได้ แก้ไขได้ (แม้จะเพี้ยนไปบ้าง เพราะคนละ Platform) และงานที่ทำด้วย Keynote ก็สามารถบันทึกเป็นไฟล์ PowerPoint หรือ PDF ได้ด้วยนะครับ
Pages เป็นตัวที่สองที่ผมใช้บ่อย เพราะมันสามารถใช้แทน MS-Word ได้สบายๆ (ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ) จะใช้งานง่ายมากถ้าเป็น iPad เพราะหน้าจอใหญ่ ฟีเจอร์ก็สุดยอดตามสไตล์ Apple และใช้งานได้เหมือน Keynote เลยครับ สำหรับรูปแบบไฟล์ต่างๆ
ตัวสุดท้ายในชุด iWork ก็คือ Numbers แอพด้านกระดาษทำการ (ถ้านึกไม่ออกว่าคืออะไร ให้นึกถึง MS-Excel ไว้ครับ) เราสามารถสร้างรายรับรายจ่ายอย่างง่าย ฯลฯ ได้บนมือถือของเรา พวกสูตรต่างๆ การสร้างกราฟต่างๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
12. Reeder — ไม่พลาดข่าวสำคัญ โดยไม่ต้องเปิดเว็บไซต์
Reeder เป็นแอพอ่าน RSS ที่ใช้ง่าย สวยงาม และสบายตา เพิ่งมีอัพเดทรองรับ Feedly เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่ Google Reader ปิดตัวลง
Reeder ทำให้ผมสามารถติดตามข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผมเข้าเป็นประจำได้ โดยที่ไม่ต้องเปิดทีละเว็บ แต่ Reeder จะดึงฟีดข่าวทั้งหมดมาให้ผมอ่านได้ในหน้าจอเดียว เลือกอ่านได้ทันที ขณะอ่าน จะแชร์เนื้อหานั้นๆ ไปให้เพื่อนๆ ได้อ่านด้วย ก็ทำได้อย่างง่ายดาย UI ก็ออกแบบมาเหมือนกับกำลังอ่านหนังสือ สบายตามากครับ
และนี่ก็คือ 12 แอพที่ผมใช้เป็นประจำทุกวัน ตื่นเช้ามาก็เข้าครบเกือบ 12 แอพ (ยกเว้นแอพงานอ่ะนะครับ) พูดได้เลยว่า ตั้งแต่มี iPhone, iPad ทำให้งานผมสะดวกขึ้นจริงๆ ครับ :)