The Promise Keeper

คนประสบความสำเร็จคือนักรักษาสัญญา

ผู้เขียน: รัฐธีร์ ชาญชินปวิณณัช
สำนักพิมพ์: พิมพ์ทวีคูณ
206 หน้า

ต้องยอมรับว่า ผมได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้มาสักระยะหนึ่งจากกลุ่มเพื่อนนักอ่าน ตอนนั้นเองก็ยังไม่คิดว่าจะซื้อมาอ่าน

เพราะถ้าดูจากชื่อหนังสือก็ตรงไปตรงมาครับ การพยายามทำตามแผนที่วางไว้ หรือสิ่งที่เราสัญญาไว้กับตัวเองให้ได้นั้น ก็คือหัวใจหลัก ที่จะนำเราไปสู้ความสำเร็จ

แต่สุดท้ายก็ต้องพ้ายแพ้ให้กับความอยากรู้ ว่าผู้เขียนมีวิธีการที่จะทำให้เราพิชิตคำสัญญาที่มีให้กับตัวเองได้อย่างไรอย่างไม่ย่อท้อ

หลังจากอ่านจบ ผมรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ช่วยเพิ่มพลังชีวิต สร้างแรงบันดาลใจ และเติมความมุ่งมั่นให้กับผมได้เยอะทีเดียว

แม้เนื้อหาหลายส่วนจะสอดคล้องกับสิ่งที่เคยอ่านมาแล้วจากเล่มอื่น ๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นการทบทวน โดยเนื่อหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เริ่มจาก การสร้างผู้นำ&สร้างธุรกิจ การสร้างทีม และสุดท้ายคือ การสร้างตัวเอง

ที่ผมรู้สึกน่าสนใจก็คือ ผู้เขียนไม่ได้เริ่มจากตัวเองก่อน แต่เริ่มจากมุมมองในการเป็นผู้นำก่อน

หากเป้าหมายของเราไม่ได้มองเพียงเพื่อตัวเราเอง มุมมองของผู้นำต้องพร้อมที่จะเสียสละและทำเพื่อผู้อื่น พร้อมรับมือกับโจทย์ยาก ๆ มุ่งมั่นทำภาระกิจให้สำเร็จ เพื่อสร้างแบบอย่างที่ดี เมื่อเราปลุกความอยากเป็นผู้นำขึ้นมาได้ เราจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองและกลายเป็นผู้สำเร็จในที่สุด

ในบางครั้งที่เรารู้สึกกลัว นั้นเป็นเพราะเป้าหมายของเรายังไม่ชัดเจน การย่อยเป้าหมายออกมาเป็นรายสัปดาห์ รายวัน จดจ่ออยู่กับเป้าหมายแล้วสร้างความสุขให้กับชัยชนะเล็ก ๆ ในแต่ละวัน จะทำให้เราไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป เพราะเรารู้ว่าเรากำลังเดินเข้าไปยังเป้าหมายทุก ๆ วัน

สำหรับการสร้างทีม
เราต้องสร้างบรรยาการแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ทุกคนมองเห็นภาพรวมและจุดหมายเดียวกัน โดยมีแนวคิด 4 ประการในการปรับตัวทำงานเป็นทีมที่น่าสนใจ คือ

1. ต้องคิดบวก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้บอกกับตัวเองว่า “ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วล้วนดีเสมอ” หรือในช่วงที่คุณรู้สึกแย่ที่สุด จงบอกกับตัวเองว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” (คำนี้ส่วนตัวผมรู้สึกว่าได้ผลมากครับ)

2. คิดตามความจริง อย่าเอาอารมณ์เข้ามาปรุงแต่ง

3. คิดอย่างไรให้ไปต่อในทางที่ดี เมื่อเราคิดบวกและตั้งสติได้ สิ่งต่อไปคือเราต้องคิดให้เกิดกำลังใจและการตัดสินใจ เพื่อสร้างความหวังใหม่และพร้อมที่จะลุยต่อ

4. คิดให้ก้าวหน้า คือการคิดวางแผนทีละขั้นที่ละก้าว เพื่อสร้างแผนงานและการลงมือทำ

ส่วนสุดท้ายคือ การสร้างตัวเอง ด้วยการพยายามเปลี่ยนแปลงนิสัย โดยใช้ 5 กฎของความต่อเนื่อง

1. เริ่มลงมือทำ

2. ตาอยู่ที่เป้าหมายใจอยู่ที่กระบวนการ

3. เชื่อมั่นในตนเอง

4. มีสมาธิและอดทน

5. ศรัทธาในความสม่ำเสมอ

การเปลี่ยนนิสัยต้องค่อย ๆ เปลี่ยน เมื่อเราเริ่มพอใจกับนิสัยใหม่ที่เริ่มเปลี่ยนไป จะมีโมเมนตัมทำให้อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญอย่าเพิ่งให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากจนเกินไป แต่ให้จดจ่อที่กระบวนการ หากเรามีความสุขกับสิ่งที่ทำแม้ยังไม่เห็นผลลัพธ์ เราจะยังรักษาความสม่ำเสมอไว้ได้ และตรงกันข้ามหากเราเลือกกระบวนการที่ไม่เหมาะสม เราจะไม่มีความสุขและล้มเลิกได้ง่าย

สุดท้ายผมชอบประโยคหนึ่งที่บอกว่า “ชีวิตที่มีอิสรภาพ คือชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย” เพราะสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความสุขนั้นอาจไม่ใช่ความทุกข์ หากแต่คือการมีชีวิตที่สูญสิ้นความหมายต่างหาก

มาเป็นนักรักษาสัญญากันครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ