อธิบาย Blockchain สำหรับผู้หญิง

Charkrid Th.
Dcentralizer
Published in
2 min readJan 21, 2018

โพสนี้จากน้องโบ Nisanart อีกเช่นเคย โพสไว้บน Facebook — dcentralizer และนำมา Repost ในนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการจัดหมวดหมู่ในอนาคตต่อไป

มีเพื่อนๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง) ถามกันมาเยอะมากว่า Blockchain คืออะไร และมันเหมือน Bitcoin มั้ย
วันนี้ โบจะขออธิบายก่อนว่า Blockchain คืออะไร เพราะมันแทบจะเป็น foundation ของทุกสิ่งในโลก Crypto

สำหรับผู้หญิงแล้ว Blockchain อาจจะเปรียบเสมือนกับวงนินทาขนาดใหญ่ วิธีการคล้ายกันกับเวลาผู้หญิงเราเริ่มนินทา…

คืองี้

วิธีมันก็คล้ายๆกับที่วิธีที่ผู้หญิงชอบนินทากันแหละ แต่ดีกว่าที่ตรงข้อมูลมันไม่เปลี่ยน ไม่มีการใส่สีตีไข่ ข้อมูลมันกระจายไปยังไง ผู้หญิง ใน network หรือ NODE ที่ได้รับข้อมูลก็กระจายไปอย่างนั้นจนครบทั้ง network อย่างรวดเร็ว พอมีเรื่องนินทาใหม่ๆก็วนลูปเดิมไปเรื่อยๆ ถ้าเรื่องมันน่าสนใจ network มันก็โตขึ้นเรื่อยๆเองอย่างไม่มีวันจบ ข้อมูลพวกนี้ไม่ต้องมีที่จัดเก็บตรงกลาง เพราะผู้หญิงทุกคนใน network จดจำเรื่อง gossip ทุกเรื่องได้ดี และพวกเราไม่ลืม!!

พอมีใครใน network พูดถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นผิด ก็จะมีคนรีบเข้ามาแก้ไขว่ามันไม่ใช่นะ ไม่ผ่าน มันเป็นแบบนี้ถึงจะถูก เรื่องที่ผิดนั้นก็จะไม่ถูกจดจำโดนผู้หญิงทุกคน เพราะมันไม่ใช่ จำผิด เม้าผิด เสียเกียรติตายเลย!!

ลักษณะนี้ถ้าเอามาเทียบกับการโอนเงินด้วย Bitcoin สมมุติโบโอนเงินให้พี่โบ๊ต ก่อนที่เงินจะถูกย้ายออกจากกระเป๋าตังค์ออกไปได้ มันจะต้องบอกไปยังกลุ่มของผู้หญิงขี้นินทาว่า “นี่แกจะมีการโอนเงินนะจาก ที่อยู่นี้ ไปยัง ที่อยู่นี้ ช่วยบันทึกไว้ด้วยล่ะ” กลุ่ม Gossip Girls หรือก็คือ Miners นั่นเอง ก็จะพากันยืนยันและบันทึกเอาไว้ โดยได้ผลตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากการโอน และการโอนนั้นรักษาความเป็นส่วนตัว เพราะกลุ่ม Gossip Girl ก็ไม่รู้ว่าโบเป็นคนโอน และพี่โบ๊ตเป็นคนรับ รู้แค่ว่าโอนจาก “ที่อยู่” (Address) นึง ไปยังที่อีกที่นึง และเก็บบันทึกเรื่องราวพวกนี้เอาไว้ สืบต่อกันไปเรื่อยๆ ในรูปแบบของ “Block” ที่สามารถต่อกันไปเรื่อยๆ ตามเวลา ที่เรียกว่า “Chain” โดยเข้ารหัสไว้ด้วยวิธีการที่เรียกว่า “Cryptography”

Gossip Girls จะบันทึกประวัติของธุรกรรมทั้งหมดไว้ จาก block ที่ 1 ไป block ที่ 2 และ 3 4 5 N ไปเรื่อยๆ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บในแต่ละ block เหมือนๆกัน เพื่อ make sure ว่าเมื่อมี data transaction ประหลาดเข้ามาใน network แล้ว block ทุก block จะสามารถตะโกนออกมาบอกได้ว่า นี่คือตัวประหลาด จงออกไป transaction ประหลาดนั้นก็จะไม่ถูก confirm แล้วการโอน data ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ถ้าเทียบกับระบบปัจจุบัน เราอาศัยความเชื่อมั่น (Trust) กับหน่วยงาน หรือองค์กรที่ได้รับสิทธ์ในการจัดการกับเงินหรือสินทรัพย์ของเราอย่างถูกกฎหมาย เช่นธนาคาร โดยธนาคารเหล่านี้ก็จะถูก “ควบคุม” โดยธนาคารกลางของชาติ (Central Bank) อีกที ดังนั้นการที่เราฝากเงินกับเค้า เท่ากับว่าเราส่งมอบกระเป๋าตังของเราไปฝากให้เค้าเอาไปใช้ สัญญาเป็นการอนุญาตให้เค้าเอาเงินเราไปดูแลและใช้ประกอบธุรกิจอื่นๆ ได้เช่นเอาไปปล่อยกู้ และกลุ่มคนเหล่านี้เก็บรักษา Key ของเราเอาไว้ และเป็นผู้สอดส่องและมองเห็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมด (Survillence system) และถ้าพวกเราสักคนถูกกล่าวหาว่าเรามีความผิด (ยังไม่รู้ผิดจริงมั้ย) พวกเค้าสามารถใช้สิทธิ์ในการส่งข้อมูลธุรกรรมของพวกเราไปยังหน่วยงานกลางต่างๆ และมีสิทธิในการอายัติทรัพย์สินของเราได้ นี่ยังไม่นับเรื่องความปลอดภัย ที่มีสิทธิ์ถูกแฮกเกอร์เข้าไปโจมตีได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีเซิฟเวอร์กลางอยู่ที่เดียว

ในขณะที่ Blockchain เราเก็บข้อมูลแบบ Distributed Ledger หรือกระจายไปยังกลุ่มของ Gossip Girls ที่ทุกคนช่วยกันบันทึกนั่นเอง ทำให้ถ้าจะมีคนจะปลอมแปลง หรือขโมยธุรกรรม เค้าต้องไปไล่เปลี่ยน Block ทุก Block ที่พวกเราได้บันทึกเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น ทำให้การขโมยและโจมตีปลอดภัยกว่ามาก และเรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วสำหรับตอนนี้ และพวกเรายังไม่ถูกควบคุมโดยกลุ่มคนที่มีอำนาจ หรือหน่วยงานที่สามารถอ้างตัวว่ามีสิทธิ์ในการควบคุมข้อมูลของเราทั้งในประเทศ หรือระหว่างประเทศอีกด้วย ลองเปรียบเทียบดูว่าแบบไหน “น่าเชื่อถือ” หรือ Trust ได้มากกว่ากัน!

ความสะดวกสบายของมัน ทำให้โลกเริ่มมองเห็นค่า เพราะว่า blockchain technology นี้ ไม่แม้แต่จะสามารถลบข้อมูลเดิมๆได้แล้ว เพราะผู้หญิงอย่างเรา เป็นสัตว์ประเภทจำไม่ลืม (immutable database) มันยังไม่ต้องมีคนคุม (decentralized) เพราะทุกคนคุมกันเอง เหมือนกับผู้หญิงเวลานินทา เราไม่ต้องให้ใครมาคุมมา เธอส่งข้อมูลต่อสิๆ เราส่งต่อกันเอง อิอิ แล้วอีกอย่างนึงคือ blockchain technology นั้นยังป้องกันการส่งข้อมูลมั่ว ข้อมูลหลอกลวงด้วยวิธี cryptographic อีกด้วย ก็เหมือนกันผู้หญิงเราแหละ ใครนินทาผิดเป็นไปได้ ต้องเข้ามาแก้ เพราะมันเสียเกียรติไงเธอ!!!

Namaste (โบเอง ไม่ใช่ Alanmaster)

ถ้าชอบ กดไลท์
ถ้ารัก กดแชร์

--

--