ถ้าอยากจะเป็น UX Designer ควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง (Part 2)
วันนี้เราจะมาบอกว่า ถ้าอยากจะเป็น UX จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ก่อนอืนเราจะต้องบอกว่า UX กับ UI นั้นมีความแตกต่างกัน ในรูปนี้จะบอกทุกอย่างชัดเจน
UX ไม่ใช่ UI
แล้วไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://erik-flowers.medium.com/ux-is-not-ui-e34fbd8f5060
1. Checklist กับตัวเองว่าอยากเป็น UX จริงไหม
หลังจากทำความเข้าใจกันแล้วเนี่ย เราจะมี Checklist ให้ลองเช็คตัวเองว่า คุณอยากเป็น UX จริงๆหรือเปล่า ลองเช็คว่าตัวเองเหมาะไหมใน 5 ข้อนี้
- ถ้าชอบรอคนมาสั่งงานทำอย่างเดียว
- ถ้าชอบจัดวาง แต่…ไม่ชอบคุยกับผู้ใช้งาน หรือคุยกับทีม
- ไม่ชอบศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่ชอบเทคโลยี ไม่ขวนขวาย รอป้อน เน้นถามอย่างเดียว
- ไม่ชอบการจัด workshop
- ไม่ชอบการ discuss
เข้าข่าย 5 ข้อนี้ เราจะพูดกันตามตรงว่า อย่ามาเป็น UX เลย ไปทำงานอย่างอื่นเถอะ
ในเมื่อ Checklist กับตัวเองแล้ว พบว่าเราไม่ได้เข้าข่ายใน 5 ข้อนี้ นั่นแปลว่า คุณได้ไปต่อ ที่นี่เราจะมาบอกว่าต้องทำอย่างไร ถ้าอยากจะเป็น UX จริงๆเนี่ย เราจะต้องเจออะไรบ้างละ
สิ่งที่ต้องพบเจอใน UX เลยนะ
1 Research สัมภาษณ์มีหลายแบบ phone interview เรียกลูกค้าเข้ามาคุยในบริษัท หรือแม้กระทั้งโทรไป recuit
2.จัด workshop defines ideation
3 ทำ prototype
4 ทำ test
ทักษะที่ควรมีก่อนมาเป็น UX
- ทักษะที่ควรมีคือการจัดประเด็น อันนี้สำคัญมาก เพราะในที่ประชุมมันคงไม่ได้พูดกับแบบสมูทๆ ยิ่งกว่าตีปิงปองเราก็เจอมาแล้ว
- ทักษะการสื่อสาร สำคัญมาก ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ต้องฝึกนะ
- ทำงาน UX ต้องรู้จักที่จะ discuss ด้วย แต่ไม่ใช่อยู่ๆจะ dicusss เลยโดยที่ไม่รู้อะไรเลย อันนี้จะกลายเป็นว่า ไม่รู้อะไรเลย เพราะฉะนั้นก่อนมีประชุมเราต้องทำการบ้านให้พร้อมเสมอ
- ทำงานนี้ต้องคุยกับคน ถ้าชอบทำงานคนเดียว ไม่ชอบคุยกับใครอันนี้จะลำบากมาก
- ต้องอัพเดทความรู้ตลอดอันนี้ทุกสาย
- Logic ต้องดี
2.ให้ take course คอร์สมาเรียนก่อนมาสมัครงาน
ถามว่าทำไมต้อง take course ละ ความจริงที่ทุกคนต้องเจอ เราเองก็เจอมาเหมือนกัน 4 ปีก่อนเคยไปสมัครงานในตำแหน่ง UX Designer ส่งไป 2 ที่เขาไม่รับเลย เพราะว่าเราไม่ประสบการณ์
แล้วเราแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เราหางานอื่นทำ ด้วยการไปเป็น frontend designer ที่บริษัทแห่งนึง เราไป take course นึง ที่สอน UX พื้นฐาน ต้องขอบคุณอาจารย์ที่เขาให้โอกาสเรา 🙇🏻♀️
ดังนั้น เราต้องมีความรู้พื้นฐานมาก่อน เพื่อที่จะสามารถทำงานกับคนอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคอร์สไหนที่แนะนำบ้างละ ถ้าอยากจะเรียน เราแบ่งเป็น Online ของต่างประเทศกับของคนไทยสอนนะ
2.1 Online ของต่างประเทศ
2.1.1 IDF ตำราความรู้จะเก่าไปนิด แต่ถ้าสำหรับคนที่จะเริ่มต้นจะเรียนเพื่อสร้างพื้นฐานที่ดีเราจะแนะนำที่นี่เป็นอันดับแรก เพราะจะมี assignment ให้ทำ ถึงจะได้ใบ cer
2.1.2 Pluralsight เป็น subscription มีราคา 19 เหรียญ กับ 29 เหรียญ ต่างกันตรงที่ 29 เหรียญคอร์สจะ premium กว่า และมีใบ cer มีคอร์ส UX ด้วย
2.1.3 Coursera มีคอร์ส UX พื้นฐานจาก กูเกิล ถ้าเรียนจบทำ assignment จะได้ใบ cer
2.1.4 ยุคนี้เป็นยุคของ Massive Open Online Course (MOOC) เราสามารถเรียนคอร์สออนไลน์ได้จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศด้าน UX การจ่ายเงินถ้าอยากได้ใบ cer
2.1.5. Design+Code ถ้าอยากพัฒนาตัวเองให้มี skill ทั้ง design และ code เพิ่มเติม แนะนำที่นี่ราคาไม่แรงมาก $19 ต่อเดือน เนื้อหาพื้นฐานเพิ่มเติม อันนี้เหมือนเป็นตัวเสริม
ถัดมาเป็นของคนไทยบ้าง เราไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่อย่างใด
2.2 Online ของคนไทย
2.2.1 UX Skill
2.2.2 Wisesummer
2.2.3 Skooldio
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างเท่านั้นนะ ลองหาเพิ่มเติมได้นะ
3. เมื่อ take course แล้ว สิ่งที่ต้องทำ คือ ฝึกทำ
การเรียนรู้แล้วจะเกิดประโยชน์มากที่สุดคือ การลงมือทำ หรือ Learning by doing แล้วจะฝึกทำได้จากที่ไหนละ เราจะมีลิงค์บทความในการฝึกทำให้ไปศึกษาต่อกันนะ
4. เมื่อฝึกทำแล้ว ต้องหา mentor จ้า
ในเคสเราไม่ได้มี mentor ส่วนตัว แต่…เราใช้วิธีการสมัครงาน UX เป็นการฝึกสนามไปในตัวเอง
แต่ถ้าจะให้การเรียนรู้เราเกิดผลควรหา mentor สักคน วิธีการหาลองอ่านจากลิงค์บทความนี้ได้เลยจ้า
5. เตรียมตัวทำพอร์ทจ้า
วิธีการทำพอร์ททำอย่างไร ให้ลองอ่านจากบทความนี้จ้า
6.ลุยหางาน
ก่อนที่จะลุยหางานเนี่ย เราต้องสร้างโปรไฟล์ไว้ใน www.linkedin.com และควรเขียนเป็นภาษาอังกฤษไว้นะ ตอนแรกเราก็ทำไม่เป็นได้เจอเพื่อนคนนึงที่จุฬาคุยกันถูกคอ นางก็เลยสอนเราใช้ www.linkedin.com ให้เป็นประโยชน์
ลองอ่านบทความที่เราเขียนไว้ให้กับเพจ Sharing Citizen ได้จ้า
7. เตรียมตัวสัมภาษณ์งานด้วย
ลองอ่านได้จาก 2 บทความนี้เลย
ฺBonus track สำคัญมากในการเขียนอีเมลสมัครงานเนี่ย
จบแล้วกับ 7 ข้อสำหรับคนที่อยากจะรู้ว่า ถ้าอยากเป็น UX จะต้องทำอย่างไรบ้าง อันนี้เป็นการแนะนำกับเบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางในการไปต่อนะ บทความหน้าจะเป็นอะไรต้องรอติดตามค่ะ
